Toyota Hilux Tiger เรียกพลังด้วยหัวใจ VIGO พร้อมโชว์เหนือด้วย NOS
ณ ปัจจุบัน ทางค่ายโตโยต้าได้ออกรถกระบะรุ่นล่าสุดออกมาอย่าง Toyota Hilux REVO ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องสมรรถณะและรูปทรงความสวยงาม แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ทางค่ายโตโยต้าก็มีรถกระบะอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น ด้วยเทคโนโลยีของเครื่อง D4D ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก ทำให้ Toyota Hilux Tiger ถือเป็นรุ่นรถกระบะขวัญใจของหลายๆ คน ซึ่งในวันนี้ทาง BoxzaRacing.com ของเรา ก็จะมีเจ้า Tiger D4D ของคุณ วราวุทธ สมพรพัก หรือคุณ เชส Impact Car มาให้ทุกท่านได้ชมกัน ซึ่งรถคันนี้ ทาง BoxzaRacing รับประกันความแรงแบบสุดขั้ว ส่วนรายละเอียดการตกแต่งจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปชมกันเลยครับ
โดยปกติแล้ว การตกแต่งภายนอกสำหรับรถกระบะนั้น มักไม่ได้มีการใส่ชุดแต่งอะไรกันมากมายนัก เนื่องด้วยจากรูปลักษณ์ภายนอกเดิมๆ ก็ดูสวยงามอยู่แล้ว แต่ทางเจ้า Tiger คันนี้ ได้นำกันชนหน้าจากตัวขับเคลื่อน 4 ล้อ มาใส่แทนของเดิม โดยจะมีกันชนหน้าที่เป็นโครเมี่ยมขนาบข้างช่องลมที่ใหญ่กว่าเดิม ในส่วนของฝากระโปรงหน้า ก็ได้เปลี่ยนใหม่เป็นฝาที่ทำมาจากคาร์บอนเคฟล่า ที่นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยเรื่องการลดน้ำหนักของตัวรถได้อีกด้วย ปิดท้ายด้วยการเปลี่ยนกระจกมองข้างเป็นกระจก Craft Square ที่ช่วยเพิ่มสวยงามได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เปิดประตูเข้ามาส่องภายในกันบ้าง โดยภายในของเจ้า Hilux Tiger คันนี่้ ต้องบอกว่าตกแต่งมาได้ไม่แพ้กับเหล่าบรรดารถเก๋งแต่งซิ่งทั้งหลายเลยหล่ะครับ เริ่มด้วยจากการเปลี่ยนเบาะคู่หน้าเป็นเบาะ Technocraft ที่เป็นเบาะที่ทำมาจากเคฟล่าทั้งตัว ในส่วนของพวงมาลัยนั้น ก็หันไปใช้พวงมาลัยของ Personal ที่มาพร้อมกับคอพับจาก Worksbell ด้านหน้ากระจกถูกเรียงรายไปด้วยเกจ์วัดจาก Defi ที่ยกกันมาแบบครบเซ็ท พร้อมด้วย Defi Link Display และเกจ์วัดบูสต์จาก Auto Meter ในส่วนของแผงคอนโซลกลาง ได้เพิ่มสวิตซ์ตัดไฟเข้าไปเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยึ่งขึ้น พร้อมทำอุโมงค์เกียร์ใหม่ที่ดูเรียบร้อยและสวยงามมากกว่าเดิม จบด้วยการเพิ่มค้ำเสา C ในบริเวณหลังห้องโดยสารเพื่อป้องกันการบิดตัวของตัวถัง
ในส่วนของเครื่องยนต์ได้วางเครื่องยนต์ใหม่ ที่นำมาจากรถ Toyota VIGO โดยใช้เป็นเครื่องยนต์ในรหัส 1KD ขนาด 3000 cc. แต่เพื่อความแรงที่เพิ่มมากขึ้นทางคุณเชส Impact Car ได้ทำการเปลี่ยนแคมชาฟต์จาก เอ๋ เทอร์โบ ที่มากับสปริงวาล์วและรีเทนเนอร์จาก BC ในส่วนของลูกสูบนั้น ก็ได้ใช้เป็นลูกสูบขนาด 100 มม. พร้อมทำการบาลานซ์ข้อเหวี่ยงใหม่เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้านเทอร์โบใช้ในรหัส TF08L ที่มาคู่กับอินเตอร์คูลเลอร์ A'PEXi และ Waste Gate จาก HKS สำหรับงานท่ออินเตอร์ต่างๆ รวมไปถึงท่อไอดี เป็นผลงานจากร้าน ชาญ อินเตอร์ ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว ด้านระบบน้ำมันได้อัพเกรดใหม่ โดยเปลี่ยนปั๊มติ๊กเป็นของ Bosch ที่ใส่มาถึง 2 ตัว โดยควบคุมการไหลของน้ำมันด้วยเรกูเลเตอร์ Aeromotive ก่อนจะส่งน้ำมันไหลไปตามรางหัวฉีดและหัวฉีดที่เป็นงานจากอู่ทำเครื่องดีเซลโตโยต้าชื่อดังอย่างไทยจิตรเจริญดีเซล นอกจากนี้ยังได้มีการพ่วงระบบ NOS หรือ Nitrous Oxide Systems ที่สามารถเพิ่มแรงม้าได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งเครื่องยนต์ทั้งหมดนั้นถูกควบคุมด้วยกล่องจาก ECU=Shop Stand Alone ก่อนจะระบายไอเสียทั้งหมดด้วยเฮดเดอร์จากบางมดเรซซิ่งและท่อไอเสียสแตนเลสขนาด 3 นิ้ว ระบบส่งกำลังนั้น ได้นำเกียร์โยงจากเครื่อง 1JZ พร้อมคลัทช์ BRC มาชนกับเพลาท้ายจาก Isuzu ที่มีเฟืองท้ายขนาด 2.9 ก็เป็นอันเสร็จ
สุดท้ายกับช่วงล่างของเจ้า Tiger 4D4 คันนี้กันบ้าง ซึ่งทางคุณวราวุทธ สมพรพัก ได้เลือกใช้ชุดโช๊คอัพจาก Aztex Force ที่เพิ่มการยึดเกาะของถนนได้ดีเลยทีเดียว สำหรับล้อแม็กที่ใส่เข้าไปเป็นล้อซิ่งจาก Volk TE37 ขอบ 18 นิ้ว ขนาดกว้าง 9.5 +15 นิ้ว ที่รัดมาด้วยยาง Dunlop Z2 ขนาด 275/35R18 ในล้อหน้า และยางซอฟต์ Bridgestone RE55S ขนาด 295/35R18 ในล้อหลัง ที่รับรองว่าจะไม่มีอาการฟรีทิ้งอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องระบบเบรคก็ต้องมีการอัพเกรดใหม่เพื่อรองรับกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้น โดยได้ทางคุณ เชส Impact Car ได้ใช้เบรค Strange ที่เป็นเบรคที่ผลิตมากเพื่อการแข่งขัน Drag โดยเฉพาะมาใส่แทนของเดิมเข้าไป
ซึ่งแรงม้าที่เจ้ารถคันนี้ สามารถทำออกมาได้ มีมากถึง 595 ตัว ด้วยอัตราบูสต์ที่ 60 ปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นรถกระบะที่แรงสุดขั้วอีกคันนึงทีเดียวเลยก็ว่าได้นะครับ โดยทางคุณเชส Impact Car มีความตั้งใจทำรถคันนี้มาก็เพื่อที่จะให้หลายๆ คนเห็นว่า รถกระบะของโตโยต้า ก็สามารถแรงได้ไม่แพ้ค่ายอื่นๆ ส่วนในครั้งหน้า BoxzaRacing.com ของเรา จะมีรถแต่งสวยๆ แต่งแรงๆ คันใดมาให้ชมกันอีกนั้นก็ต้องติดตามกันนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน สวัสดีครับ
Tech Spec
ภายนอก
ภายใน
เครื่องยนต์
ช่วงล่าง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook