เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 20 กรกฏาคม 2558 - 15:15

Toyota Hilux REVO กับบทพิสูจน์ครั้งใหม่ที่ใส่กันแบบไม่ยั้ง

 

Toyota Hilux REVO กับบทพิสูจน์ครั้งใหม่ที่ใส่กันแบบไม่ยั้ง

 

 

          หลังจากที่ Toyota Hilux REVO เผยโฉมไปไม่กี่วัน ทาง BoxzaRacing มีโอกาสได้ร่วมสัมผัสสมรรถนะของปิคอัพสุดไฮเทครุ่นนี้บนเส้นทางร่วม 400 กม. จากจังหวัดพิษณุโลกมุ่งหน้าสู่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีขุนเขาและโค้งน้อยใหญ่ให้เราได้ลัดเลาะและพิสูจน์สมรรถการทรงตัวของ REVO ว่าดีสมคำร่ำลือหรือไม่ จนกระทั่งในวันนี้...BoxzaRacing ได้รับเกียรติให้ร่วมเดินทางเพื่อสัมผัสสมรรถนะของปิคอัพรุ่นนี้อีกครั้ง ซึ่งต้องบอกว่าครั้งนี้ จัดหนัก จัดเต็ม และน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ให้ความสนใจ Toyota Hilux REVO แบบแน่นๆ เลยทีเดียว เอาเป็นว่า...เราไปชมกันเลยครับ

 

 

                ในครั้งนี้ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย พาเราไปร่วมสัมผัสสมรรถนะกันถึงใน Chang International Cirtcuit สนามแข่งรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ณ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นๆกันไปเลยว่า Toyota Hilux REVO จะทำได้ดีขนาดไหนเมื่อต้องวิ่งในแทร็ก ? รวมไปถึงคลายความสงสัยที่ว่า รถยกสูงสามารถวิ่งในสนามได้หรือไม่ ? โดยการทดลองขับในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 3 สถานี ซึ่งมีรูปแบบการขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่...การขับในแทร็กสนาม Chang International Circuit, การขับในรูปแบบ Off Road, รวมไปถึงการเรียนรู้เทคนิคในเชิงลึกเกี่ยวกับกับองค์ประกอบและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ถูกอัดแน่นใน Toyota Hilux REVO

 

 
 
ยังทรงตัวได้ดีกับการขับขี่แบบสลาลอม
 

                สำหรับสถานีแรก เป็นการขับขี่ในแทร็กของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยรถที่ทาง Toyota นำมาให้ขับในสถานีนี้ โดยส่วนมากจะเป็นรุ่น Pre Runner แบบขับสองยกสูง ในหนึ่งรอบสนามจะมีการแบ่งเป็นเซ็กชั่นต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นสลาลอม, การเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน รวมถึงการเข้าโค้งทั้งในความเร็วปานกลางและความเร็วสูง แน่นอนว่า...เนื่องจากเป็นสถานที่ปิดที่มีความปลอดภัยสูง ความเร็วที่ใช้นั้น ย่อมจะเกินกว่าความเร็วปกติที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานทั่วไปเป็นแน่แท้ ซึ่งจากที่ได้ลองขับกันพอสมควรแล้ว ก็พบว่า Toyota Hilux REVO สามารถเข้าและออกโค้งในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างไม่ติดขัด และไม่ออกอาการนอกลู่นอกทางให้เห็น หากมีการใช้ความเร็วอย่างเหมาะสมในแต่ละรูปแบบของโค้ง โดยหากโค้งไหนเผลอเข้าด้วยความเร็วสูงจนเกินไป ตัวรถอาจเกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่เยอะจนรู้สึกว่ายากในการควบคุม ด้านอัตราเร่งในช่วงทางตรงยาว ถือว่าทำได้ดีจนน่าดูชม กับความเร็วสูงสุดที่เกินกว่า 160 กม./ชม. ก่อนจะต้องกดเบรกแบบหนักๆ เพื่อลดความเร็วก่อนเข้าสู่โค้งยูเทิร์น ซึ่งแน่นอนว่าเบรกชุดนี้ทำงานได้ดีอย่างที่ BoxzaRacing ได้ชื่นชมไปแล้วจากการทดลองขับขี่ในครั้งก่อน ส่วนอีกเรื่องที่ได้ทดลองในสเตชั่นนี้ก็คือ ระบบเกียร์ iMT 6 สปีด ที่สามารถตอบสนองฟีลลิ่งการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดอาการกระชาก และปรับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมในแต่ละย่านความเร็วด้วย เหมาะอย่างยิ่งทั้งสำหรับคนที่ชื่นชอบการขับขี่แบบนุ่มนวล หรือแม้แต่บรรดาขาซิ่งที่ชื่นชอบความเร้าใจ ต่อเนื่อง และให้อารมณ์การขับขี่แนวเรซซิ่ง

 

เอียงขนาดนี้...ไม่ใช่ปัญหาแน่นอน
 
 

 

                สถานีที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นการขับขี่ที่โดยส่วนตัวแล้ว ผมอยากสัมผัสมากที่สุด แน่นอนว่านั่นคือ การขับขี่ในรูปแบบ Off Road นับเป็นโอกาสดีที่ในช่วงก่อนที่จะได้ไปทดลองขับขี่ 1 วัน ฝนได้กระหน่ำลงมาในสนามทดสอบ ทำให้เราได้ลองขับขี่ในสนามที่มีความโหดหิน และเปี่ยมด้วยอุปสรรคมากว่าที่ควรจะเป็น โดยสนามทดสอบแห่งนี้ เดิมที่แล้วออกแบบมาเพื่อแข่งขันโมโตครอส มีเนินน้อยใหญ่มากมาย นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคต่างๆ ให้ได้ฟันฝ่า ไม่ว่าจะเป็นบ่อโคลน, เนินสลับ, เนินเอียง รวมถึงสะพานไม้ เรียกได้ว่ามีอะไรให้ได้ลองกันแบบครบรสทีเดียว แน่นอนว่า Toyota Hilux REVO ที่ใช้ในสเตชั่นนี้ จะต้องเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบล็อคเฟืองท้ายที่ถอดแบบมาจาก SUV รุ่นใหญ่ในค่ายอย่าง Prado ทำงานร่วมกับยางแบบ All Terrain ที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน เนื่องจากทางค่ายต้องการให้พิสูจน์สมรรถนะจริงจากอุปกรณ์ที่เป็นสแตนดาร์ดทั้งสิ้น โดยมีโอกาสได้ลองขับทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ภายใต้โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ L4 งานนี้ทาง BoxzaRacing คอนเฟิร์มเลยว่า “ทุกอุปสรรค Hilux REVO ผ่านได้ฉลุย” ด้วยระบบต่างๆ พร้อมเทคโนโลยีที่อัดแน่น ส่งผลให้ทุกการขับเคลื่อนเปี่ยมด้วยพละกำลังทั้งจากเครื่องยนต์และชุดส่งกำลังที่ผสานการทำงานกันเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนี้ด้วยแรงบิดที่โดดเด่นทำให้ทุกการปีนป่ายทำได้ง่ายมากๆ โดยลองเข้าเกียร์ 1 ปล่อยคลัทช์ให้รถไหลขึ้นเนินชัน รถสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ออกอาการใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ต้องยกเครดิตให้กับแรงบิดที่เหนือชั้นล้วนๆ ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัตินั้น จะเพิ่มลูกเล่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ที่ช่วยป้องกันอาการรถไหลขระออกตัวบนทางชัน รวมถึงระบบ DAC ที่ช่วยรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอขณะลงทางชัน จากการที่ระบบควบคุมแรงดันเบรกโดยอัตโนมัติ ส่วนสถานีสุดท้ายเป็นการเรียนรู้เทคโนโลยีขั้นสูงในเชิงลึกภายใต้ชื่อ Technical Clinic ซึ่งเป็นเสมือนการไขข้อสงสัยในหลายๆ อย่าง รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ ที่อัดแน่นอยู่ใน Toyota Hilux REVO

 

อ.มนัส ดาวมณี อธิบายรายละเอียดในเชิงลึกของ REVO

 

                ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เนื่องจากในวันรุ่งขึ้น คณะสื่อมวลชนจะต้องขับรถจากจังหวัดบุรีรัมย์มุ่งหน้าสูงกรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ได้สัมผัสสมรรถนะของ Toyota Hilux REVO ในรูปแบบใช้งานความเร็ว (เกิน) จริงกันแบบยาวๆ หลังจากเริ่มออกสตาร์ททาง BoxzaRacing ร่วมกับเพื่อนสื่อที่ร่วมเดินทางก็ได้สัมผัสอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งสิ่งที่พูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ ความสามารถในการเก็บเสียง ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดมาให้ในห้องโดยสาร เรียกว่าเพียงพอและเหลือเฟือสำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บความเย็น, ปลั๊กไฟ 220 โวลต์ รวมถึงอุปกรณ์ความบันเทิงที่รองรับการเล่นไฟล์ทุกรูปแบบที่ได้รับความนิยม ในส่วนของช่วงล่างที่ได้รับการอัพเกรดด้วยการปรับขนาดของแหนบให้ยาวและใหญ่ยิ่งขึ้น ส่งผลในเรื่องของความนุ่มนวล โดยยังคงให้ประสิทธิภาพในการทรงตัวที่เป็นเลิศ แม้ว่าจะใช้ความเร็วค่อนข้างสูงจนไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง (140-160 กม./ชม.) หรือบ่อยครั้งที่จุ่มคันเร่งกันแบบสุดๆ (กว่า 190 กม./ชม.) ตัวรถยังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแบบนิ่งๆ ไม่ออกอาการไหวติง หรือกระพือให้น่ากังวลใจ ความเร็วจากช่วงกลาง-ปลายนั้น ทำอัตราเร่งได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปตันที่ประมาณ 190 กลางๆ (ซึ่งเชื่อว่า...ถูกพันธนาการไว้) นอกจากนี้ยังใช้รอบเครื่องยนต์ในการเดินทางไม่สูง (140 กม./ชม. ที่ประมาณ 2,100 รอบ/นาที) ส่งผลโดยตรงในเรื่องของความประหยัดหากต้องเดินทางไกล สุดท้ายนี้...ขอย้ำว่า ความเร็วที่ใช้ในครั้งนี้ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างด้วยประการทั้งปวงครับ

 

ชัดเจนแล้วว่า...รถยกสูง ก็วิ่งในสนามได้

 

หมดข้อสงสัย...สำหรับ Toyota Hilux REVO คันนี้

 

                ไม่มีอะไรให้คาใจกันแล้ว สำหรับปิคอัพผู้มาพร้อมขีดสุดแห่งเทคโนโลยีอย่าง Toyota Hilux REVO เพราะไม่ว่าจะด้านไหนๆ REVO ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ สมรรถนะสูง แข็งแกร่ง มั่นคง ประหยัด แล้วจะมีอะไรอีกล่ะ...ที่ชาว BoxzaRacing จะต้องการไปมากกว่านี้ 

 

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook