Toyota Fortuner vs. Isuzu Mu-X ประชันรถ PPV ยอดนิยมที่สุดในไทย
ในช่วงนี้ไม่ได้มีเพียงแค่รถกระบะเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่กำลังมาแรงในประเทศไทย แต่ศึกรถอเนกประสงค์ที่ดัดแปลงบนพื้นฐานของรถกระบะที่เรียกว่า PPV ก็ดุเดือดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการเปิดตัวของ Toyuta Fortuner, Ford Everest, Mitsubishi Pajero Sport ที่เรียกได้ว่าแต่ละค่ายจัดหนักกันเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ BoxzaRacing ได้นำคู่รถอเนกประสงค์ PPV ที่ได้รับความนิยมในไทยมาประชันเปรียบเทียบกัน เริ่มจาก Toyuta Fortuner เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่จะมาสานต่อรุ่นพี่เพื่อสร้างยอดขายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ Isuzu Mu-X รถ PPV ที่ได้เปิดตัวเมื่อปี 2013 แถมได้รับความนิยมสูงสุดในไทยพร้อมยังคงความสดใหม่และทันสมัยไม่แพ้กัน
สำหรับรุ่นที่จะนำมาเปรียบเทียบในวันนี้ จะเป็นรุ่นท็อป ขับเคลื่อนสี่ล้อ จัดเต็มด้วยลูกเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ Toyota Fortuner 2.8V 4WD AT กับ Isuzu Mu-X 3.0 VGS DVD Navi 4x4 A/T
ภายนอก
ด้านการออกแบบภายนอกของรถ PPV จะไม่ทิ้งแถวไปจากรถกระบะมากนัก เพราะเป็นรถที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน ทั้งนี้ในปัจจุบันบรรดา PPV All-New ค่ายต่างๆ ก็มีการปรับเสริมรายละเอียดเล็กๆ น้อย เพื่อให้ดูหรูหราและแสดงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ซึ่ง Toyota Fortuner โฉมใหม่ ออกแบบหน้ารถให้ต่างจาก Toyota Hilux REVO ไปอย่างมากทีเดียว โดยเฉพาะกระจังหน้าโครเมียม 3 แถบที่ปรับให้มีช่องว่างกว้างๆ เพิ่มความสวยสปอร์ต, ไฟหน้าดีไซน์อย่างหล่อ โฉบเฉี่ยว พร้อมไฟหน้า Bi-Beam LED ด้านกันชนและไฟตัดหมอกที่ออกแบบได้สวยงามดุดัน เอกลักษณ์สำคัญที่สุด คือ เสา C ที่ทำเป็นสีดำเพื่อให้เข้ากับกระจกหน้าต่างรถสีทึบสวยงามเป็นหนึ่งเดียวกัน
ด้านหลัง Isuzu Mu-X
ทางด้าน Isuzu Mu-X ใช้หน้าตาพื้นฐานของ Isuzu D-Max เจเนอเรชั่นใหม่ที่ให้ความสวยงามมากกว่าเจเนอเรชั่นเดิม โดยเฉพาะกระจังหน้า 3-Dimension ที่ทำให้ตัวรถดูหรูหราและสะดุดตามากขึ้น แม้ว่าชุดโคมไฟหน้านั้นมีเพียงแค่ไฟโปรเจคเตอร์กับไฟเลี้ยว ไม่ได้เสริม LED Daylight เหมือนปัจจุบัน แต่ก็มี LED Daylight อยู่บริเวณไฟตัดหมอกที่ออกแบบให้เข้ากับกรอบไฟตัดหมอกอย่างลงตัว เสา C จะเป็นสีเดียวกับตัวถังรถ รวมไปถึงไฟท้ายขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับแถบโครเมียมบนฝากระโปรง โดยรวมดูๆ แล้วดูดีไม่แพ้กัน
ทั้ง Toyota Fortuner และ Isuzu Mu-X ต่างก็มีเอกลักษณ์และความงามที่ไม่มีใครยอมใคร งานนี้ก็ต้องวัดที่มิติตัวถังกันว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีขนาดต่างกันแค่ไหน
มิติตัวถัง | Toyota Fortuner 2015 | Isuzu Mu-X 2014 |
พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,795 x 1,855 x 1,835 |
4,825 x 1,860 x 1,860 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,750 | 2,845 |
ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
1,545 - 1,550 | 1,570 - 1,570 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 193 | 230 |
ภายใน
เริ่มจาก Toyota Fortuner กับการปรับโฉมห้องโดยสารให้หรูและกว้างขวาง มาพร้อมกับความทันสมัยที่สัมผัสได้ เริ่มจากแผงคอนโซลกลางที่ประกอบไปด้วยมาตรวัดเรืองแสงหลากสีพร้อมระบบแสดงผลข้อมูล MID จากจอ TFT ที่ให้ความสวยงามมีระดับ จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รอบรับระบบ T Connect ที่มีทั้งระบบนำทาง, ระบบติดต่อสื่อสาร, ระบบมัลติมีเดียและภาพจากกล้องมองหลัง และการเชื่อมต่อผ่าน USB/ iPod /AUX และ Bluetooth กับช่องเก็บของในแผงคอนโซลที่นั่งด้านหน้าแบบ Cool Box
ส่วนพื้นที่โดยสารที่มีสูงสุด 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถว 2 ที่สามารถพับแบบ One Touch และออกแบบให้พับเบาะไปทางด้านหน้าเพื่อการบรรจุสัมภาระที่สูงได้ และเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าพื้นที่เบาะนั่งแถว 3 ได้ง่ายขึ้น และประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบเพื่อความปลอดภัย
ด้าน Isuzu Mu-X นั้นด้านห้องโดยสารจะมีหน้าตาที่ให้ความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความทันสมัยและหรูหราอย่างมีสไตล์ เริ่มจากแผงมาตรวัดเรืองแสดงพร้อมจอแสดงข้อมูลรถแบบภาษาไทย ระบบอินโฟเทนเมนต์ Isuzu Solutions ประกอบด้วยเครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะ i-GENii พร้อมระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB/ AUX และมีจอเพดานแบบ Built-it ขนาด 10.5 นิ้ว ที่เด่นที่สุดก็อยู่ที่ระบบปรับอากาศอัตโนมัติบนแผงคอนโซลสุดล้ำและเด่นชัดที่สุด และระบบ Isuzu Genies Entry ที่ให้การเปิดประตูรถและสตาร์ทรถทำได้ง่ายขึ้น
ส่วนพื้นที่โดยสารที่มีสูงสุด 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถว 2 ที่สามารถพับแบบ One Touch และออกแบบให้พับเบาะไปทางด้านหน้าเพื่อการบรรจุสัมภาระที่สูงได้ และเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าพื้นที่เบาะนั่งแถว 3 ได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกัน
เครื่องยนต์
รายละเอียดของเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น มีรายละเอียดดังนี้
ช่วงล่าง
Toyota Fortuner 2015 ประกอบไปด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังแบบโฟร์ลิงค์คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ส่วนระบบเบรคนั้นคู่หน้าเป็นดิสก์เบรคมีครีบระบายความร้อน และคู่หลังดรัมเบรค ด้วยพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 เมตร
ด้านระบบควบคุมขับเคลื่อน 4 ล้อ โตโยต้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ (Sigma4) ที่รวมประสิทธิภาพของระบบช่วงล่าง เฟืองท้ายและระบบควบคุมการทรงตัวของรถให้สามารถปรับระบบช่วงล่างให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่ที่ต้องเผชิญกับสภาพถนนรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกะยึดถนนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น
ด้านระบบช่วงล่างของ Isuzu Mu-X ประกอบไปด้วยช่วงล่างแบบ LINEAR HANDLING และ FLAT RIDING ครอบคลุมประสิทธิภาพการเกาะถนนทั้ง 4 ล้อ พร้อมชุดช่วงล่างแบบคอยล์สปริงและโช๊คอัพแก๊สครบ 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น ส่วนด้านหลังใช้เทคโนโลยี 5-LINK SUSPENSION ที่เสริมด้วยเหล็กกันโครงหน้าหลัง แบบ STABILIZER BAR ด้วยพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ด้านระบบควบคุมขับเคลื่อน 4 ล้อ อีซูซุ มาพร้อมระบบ Terrain Command ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อประสิทธิภาพสูงแบบ Part-Time 4WD ควบคุมด้วยสวิตซ์ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษที่แม่นยำและง่ายต่อการใช้งานในรุ่น 4X4
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยสำหรับรถ และ มีรายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้
ระบบความปลอดภัย (ทั้งหมด) |
Toyota Fortuner 2015 |
Isuzu MU-X 2014 |
โครงสร้างนิรภัย | GOA |
ห้องโดยสารเสริมเหล็กกล้า |
คานเหล็กนิรภัย | ด้านข้าง | * |
ชุดถุงลงนิรภัย | ด้านผู้ขับ ผู้โดยสาร หัวเข่าผู้ขับ ด้านข้าง และม่านนิรภัย |
คู่หน้า |
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR |
แบบดึงรั้งกลับ |
แบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรง อัตโนมัติ |
เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR | 3 จุดทุกที่นั่ง |
3 จุดทุกที่นั่ง |
สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคนขับ | - | - |
จุดยึดสำหรับเบาะนั่งสำหรับเด็ก | - | ISOFOX (ที่นั่งแถว 2) |
แกนพวงมาลัยและแป้นเบรคยุบตัวได้ | * | * |
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) | * | * |
ระบบกระจายแรงเบรค(EBD) | * | * |
ระบบเสริมแรงเบรค (BA) | * | * |
ระบบควบคุมเสถียรภาพ การทรงตัว |
VSC | ESC |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) | * | * |
ระบบช่วยออกตัว บนทางลาดชัน (HAC) |
* | - |
ระบบควบคุมความเร็วขณะ ลงทางลาดชัน (DAC) |
* | - |
ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพวงท้าย | TSC | - |
ไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
ไฟเบรคดวงที่ 3 | * | * |
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) |
* | * |
ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
ไฟตัดหมอกหลัง | - | - |
สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง | * | - |
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน | * | * |
กล้องมองหลัง | * | * |
ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobiliser | * |
* |
ระบบแจ้งเตือนกันขโมย | * |
* |
ราคา
สำหรับราคาของทั้งสองรุ่น มีรายละเอียดดังนี้
Comment Editor
Toyota Fortuner มีความได้เปรียบที่ความสดใหม่ พร้อมเสริมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสมัยใหม่หลายรายการ โดยเฉพาะในรุ่นท็อปที่อัดแน่นด้วยลูกเล่นมากมาย พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ที่ให้กำลังที่สูง เผาไหม้หมดจด ประหยัดและลดมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วน Isuzu Mu-X แม้จะวางจำหน่ายมานานกว่ารุ่นอื่นๆ แต่โดยรวมทั้งรูปลักษณ์, เทคโนโลยี, ระบบขับเคลื่อนและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยไม่แพ้กัน แถมมีค่าตัวที่ย่อมเยากว่า แต่จุดที่สร้างความได้เปรียบที่สุด คือ มิติตัวถัง, ระยะห่างของล้อที่มีขนาดใหญ่กว่าสายตาที่เห็นเสียอีก แถมห้องโดยสารที่เรียบง่ายและกว้างขวางกว่าที่คิดอีกด้วย
สำหรับโอกาสหน้า BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบคู่ต่อไป ก็อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ