MG6 VS. Mazda 3 เปรียบเทียบซิตี้คาร์ สปอร์ต-ล้ำ-คุ้ม!
แม้ว่าตลาดซิตี้คาร์ขนาดกลางในไทยอาจยังไม่ร้อนแรงเท่ารถตลาดรถกระบะที่เปิดตัวอย่างดุเดือดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ก็เป็นตลาดที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรถบางรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยได้เผยข่าวหลุดจากต่างประเทศที่ถี่ขึ้น, การยกระดับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรอบด้าน เป็นต้น โดยเฉพาะในเวลานี้ MG ได้ส่ง MG6 รุ่นปรับโฉม ที่ได้ปรับหน้าตาให้หล่อขึ้นกว่าเดิม, เพิ่มระบบความปลอดภัยหลายรายการ รวมไปถึงเป็นรุ่นที่มีระบบตรวจสอบข้อมูลและสั่งการรถอัจฉริยะ inkaNet เพื่อกระตุ้นตลาดซิตี้คาร์แห่งยุคอนาคตในเมืองไทยให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น
และคู่เปรียบเทียบสำหรับ MG6 นี้ก็ต้องเป็นรถซิตี้คาร์ขนาดกลางที่มีตัวถัง 2 แบบ, โดดเด่นทั้งการออกแบบ, ความล้ำสมัยของอ็อพชั่นอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ซึ่งในเวลานี้ทางทีมงานได้ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นที่เรียบร้อย ก็คือ Mazda 3 ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยี SKYACTIV สุดล้ำที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถชาวไทยได้ไม่น้อย และทั้งคู่ก็พร้อมที่จะเปรียบเทียบเพื่อพิสูจน์ที่สุดของความโดดเด่นในยนตกรรมแห่งอนาคต
Mazda 3
สำหรับเงื่อนไขการเปรียบเทียนี้จะยกทั้งรุ่นสี่ประตูและรุ่นห้าประตูทั้งคู่ พร้อมอ็อพชั่นที่ดีที่สุดมาเปรียบเทียบกัน
ภายนอก
ด้านการออกแบบตัวถังภายนอกที่เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยทั้งคู่ใช้ไฟหน้า Bi-Xenon HID พร้อมไฟส่องกลางวัน LED Daylight เหมือนกัน, มีไฟตัดหมอกเหมือนกันทั้งคู่ แต่ MG6 ใหม่เพิ่มที่ฉีดน้ำล้างกรอบไฟหน้าด้วย ส่วนล้ออัลลอยของ Mazda 3 จะมีทั้งขนาด 16-18 นิ้ว ส่วน MG6 จะมีเพียง 17 นิ้ว ขนาดเดียวเท่านั้น
และที่ไม่ควรพลาด คือ มิติตัวถังโดยรวมทั้ง MG6 และ Mazda 3 ว่าจะมีขนาดต่างกันแค่ไหน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา มาชมพร้อมกันได้เลย
มิติตัวถัง | MG6 | Mazda3 | ||
Sedan | Fastback | Sedan | Hatchcack | |
พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,653 X 1,827 X 1,467 |
4,653 X 1,827 X 1,467 | 4,580 X 1,795 X 1,450 | 4,460 X 1,795 X 1,450 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,705 | 2,700 | 2,700 | 2,700 |
ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
1,557 - 1,555 | 1,557 - 1,555 | 1,555 - 1,560 | 1,555 - 1,560 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 118 | 118 | 155 | 155 |
น้ำหนัก | 1,548 | 1,548 | 1,287 | 1,297 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 62 | 62 | 51 | 51 |
ด้วยข้อสรุปจากตารางนี้ ทำให้ MG6 มีขนาดที่ใหญ่กว่า Mazda 3 ในหลายๆ ด้าน และส่งผลทำให้ห้องโดยสารมีขนาดที่ใหญ่กว่าด้วย
ภายใน
ทางด้านห้องโดยสารภายในนั้น แม้จะมีความเรียบง่ายที่เหมือนกัน แต่อย่างที่ได้กล่าวข้างต้น MG6 มีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ห้องโดยสารจึงมีความกว้างขวางอย่างมากจึงได้คะแนนส่วนนี้ไป พร้อมกับเพิ่มคะแนนอีกหน่อยด้วยอ็อพชั่นหลังคาซันรูฟ
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ระบบอำนวยความสะดวกสุดล้ำ เริ่มจาก MG6 ชูไฮไลท์ inkaNet ระบบควบคุมรถอัจฉริยะที่คุณสามารถควบคุมหรือตรวจสอบข้อมูลรถได้แม้จะอยู่ข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพความพร้อมขอรถ, สั่งการเปิด-ปิดประตูรถ หรือเปิดไฟหน้า, ระบบนำทาง, ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติของตัวรถ, และระบบการตรวจวิเคราะห์รถยนต์เพื่อทราบข้อมูลสภาพรถก่อนนำไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ
โดยระบบ inkaNet จะติดตั้งกล่องควบคุมที่เรียกว่า T-Box และเป็นตัวกลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์กับผู้ขับขี่ โดยผู้ใช้สามารถใช้งานระบบ inkaNet ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่
ด้าน Mazda 3 นั้น ขอเสนอระบบจอแสดงข้อมูลแบบใส (Active Driving Display) ที่จะแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งความเร็ว, แผนผังนำทาง, ระบบแจ้งเตือนต่างๆ โดยจะแสดงผลในระดับสายตาของผู้ขับขี่พอดี
ระบบต่อมา คือ MZD CONNECT ระบบปฏิบัติการสุดล้ำที่สามารถสั่งการผ่านทางระบบจอสัมผัส 7 นิ้ว รองรับระบบอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งระบบมัลติมีเดีย, อินเตอร์เน็ต, โซเชียลมีเดีย, ระบบติดต่อสื่อสารผ่านทางบลูทูธ, ระบบตรวจสอบสภาพรถ, ระบบนำทาง เป็นต้น พร้อมกับสามารถควบคุมหรือสั่งการผ่านทาง Center Commander ปุ่มควบคุมที่ตําแหน่งข้างลําตัวผู้ขับ ใช้สั่งงาน Center Display ได้ง่ายโดยไม้ต้องยกมือเพื่อกดจอบ่อยๆ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้งานในรถยนต์หรูจากยุโรปมากมาย
สมรรถนะ
ด้าน MG6 นำเสนอเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตร สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ช่วยลดระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลงเหลือเพียง 0.2 วินาที และเสริมด้วย Paddle Shift ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ที่สำคัญมีเหมือนกันทั้งซีดานและฟาสต์แบ็ค
ส่วนเครื่องยนต์ของ Mazda 3 ขอเสนอ SKYACTIV-G 2.0 DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ให้สมรรถนะสูงสุดถึง 165 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมันเชื่อเพลิงทั้ง น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว 95 / แก๊สโซฮอล์ ออกเทน 95 E10, E20 และ E85 ส่วนระบบส่งกำลังนั้นเป็นระบบ SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic
ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบความปลอดภัยของ MG6 ใหม่ จะมีการเพิ่มอีก 5 รายการใหม่ล่าสุด อาทิ Auto Hold ระบบป้องกันรถไหลลงบนทางลาดชัน, Steering Wheel Reminder ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์, Dynamic Wheel Torque Controlระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง, Cornering Lights ไฟส่องสวางด้านข้างขณะเลี้ยว และ Auto-Leveling Headlights ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ ส่วนระบบความปลอดภัยชุดเดิมก็ยังจัดเต็มหลายรายการ อาทิ ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง, ระบบควบคุมการทรงตัว, ABS-EDB-EBA เป็นต้น
ด้าน Mazda 3 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยชนิดพิเศษจากมาสด้า อาทิ โครงสร้าง SKYACTIV ใหม่ล่าสุด, ระบบ i-ACTIVSENSE ระบบช่วยในการขับขี่ที่ประกอบด้วย SCBS - Smart City Brake Support เบรคอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวาง และ Rear Vehicle Monitoring ระบบเตือนจุดอับสายตาที่ผู้ขับมองไม่เห็น, ระบบควบคุมเกียร์ AAS (Active Adaptive Shift) รวมไปถึงระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่จัดเต็มหลายรายการเช่นเดียวกัน อาทิ ถุงลมนิรภับ 6 ชุด, กุญแจนิรภัย (Immobilizer), พวงมาลัยยุบตัวแปรผันตามการทำงานของถุงลมนิรภัย, แป้นเบรคยุบตัวได้ เป็นต้น
บางรายการแม้จะมีชื่อเรียกต่างกัน แต่รูปแบบการทำงานมีความคล้ายกันมาก
ราคา
สำหรับราคาของ MG6 และ Mazda 3 ใหม่นั้น เปรียบเทียบได้ดังนี้
MG6
MG6 2015 Sedan
MG6 2015 Fastback
Mazda 3
Mazda 3 Sedan
Mazda 3 Hatchback
สรุป
ทั้งความสปอร์ต, อ็อพชั่นล้ำสมัย, ระบบความปลอดภัยอันเลิศล้ำของรถทั้งสองรุ่นนี้แทบจะสู้กันสูสีมากทีเดียว แต่ถ้าเทียบราคาและความคุ้มค่าแล้ว MG6 ดูจะเหนือกว่า Mazda 3 นิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นราคาของรุ่นท็อปที่สูงที่สุดของรถห้าประตู ถึงขนาดว่าบวกหลังคาซันรูฟด้วยยังถูกกว่ามาสด้า 3 ตัวท็อป, ความใหญ่ของตัวถัง, ระบบ inkaNet สุดล้ำ งานนี้หากชอบลูกเล่นครบเครื่อง คุ้มค่า ไม่ซ้ำใคร ก็จัดไปอย่าให้เสีย แต่ถ้าในด้านของความโดดเด่นของรูปลักษณ์ภายนอก, อ็อพชั่นที่สะดวกสบายของภายในและสมรรถนะที่แรงจับใจ Mazda 3 รวมไปถึงไฮไลท์ในเรื่องของแบรนด์ และบริการหลังการขายดูจะมีภาษีที่ดีกว่า
ในตอนหน้า ทีมงาน Boxzaracing จะเปรียบเทียบรถคู่อะไรก็อย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ