Mitsubishi Attrage VS. Nissan Almera ประชันซีดานขนาดเล็กราคาเบาๆ
สำหรับผู้ที่อยากหารถยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์ประหยัดแถมรักษ์โลก แต่ไม่ชอบตัวถังแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ก็ยังมีทรงซีดาน 4 ประตูให้ผู้สนใจได้จับจองกัน ที่นอกจากจะให้รูปลักษณ์ที่สวยงามสไตล์รถยนต์ซีดานแล้ว แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด
จึงเป็นที่มาของการส่งคู่เปรียบเทียบรถซีดานขนาดเล็กโดยเลือกรุ่นที่มีราคาเริ่มต้น 4 แสนขึ้นไป แต่รุ่นท็อปสูงแค่ 6 แสนนิดๆ ได้แก่ Mitsubishi Attrage และ Nissan Almera แม้ทั้งสองจะเป็นรถที่วางจำหน่ายมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยความที่ราคาไม่แพง, ประหยัดน้ำมัน แถมอ็อพชั่นที่ไม่เยอะจนดูวุ่นวายเกินไป จึงเป็นรถที่ได้รับความนิยมไม่น้อยทีเดียว เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา มาชมความแตกต่าง พร้อมจุดเด่นของรถทั้ง 2 รุ่นนี้กัน
เช่นเคยเพื่อความสมน้ำสมเนื้อและครบถ้วน ก็จะขออ้างอิงจากรุ่นท็อปกันเลย
ภายนอก
สำหรับรายละเอียดของภายนอกรถนั้นแทบจะมีรูปลักษณ์เฉพาะตัว สร้างการจดจำได้ง่าย โดยเฉพาะ Mitsubishi Attrage ที่ออกแบบกระจังหน้า, ไฟหน้า, ไฟตัดหมอกที่แตกต่างจากรุ่นพี่ๆ น้องๆ ในเครือมิตซูบิชิเลยทีเดียว ส่วน Nissan Almera นั้นแม้จะออกแบบให้ดูสวยงามหรูหรา แต่กระจังหน้านั้นมีความใกล้เคียงกับรถรุ่นพี่ๆ น้องๆ ในเครือนิสสัน ทั้ง Teana, Pulsar และ Sylphy หากไม่ใช่คนรักนิสสันหรือเป็นผู้ที่อยู่ในวงการรถจริงก็อาจสับสนได้ (โชคดีที่ไฟหน้ายังแตกต่างอยู่จึงสังเกตได้ไม่ยาก) และอ็อพชั่นบางอย่างของนิสสัน อัลมร่า ที่ไม่มีแม้แต่รุ่นท็อปคือ ไฟเลี้ยวข้างกระจกมองข้าง แต่มีไฟเลี้ยวข้างตัวถังอยู่ ซึ่งมิตซูบิชิ แอททราจมีไฟเลี้ยวข้างกระจกตั้งแต่รุ่น GLS CVT ขึ้นไป
แม้การดีไซน์ภายนอกจะไม่เหมือนกัน การเปรียบเทียบด้านมิติตัวถัง จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ให้ความสำคัญแพ้กัน มาดูกันว่า ทั้ง Mitsubishi Attrage และ Nissan Almera จะมีขนาดตัวถังใหญ่แค่ไหน
มิติตัวถัง | Mitsubishi Attrage (GLS Ltd. CVT) |
Nissan Almera (VL CVT) |
ยาวxกว้างxสูง (มม.) | 4,245 x 1,670 x 1,515 | 4,425 x 1,695 x 1,500 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,550 | 2,600 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
170 |
162 |
น้ำหนักโดยรวม (กก.) |
930 |
1,032 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 42 | 41 |
รัศมีวงเลี้ยว (เมตร) | 4.8 | 5.2 |
ภายใน
สำหรับภายในห้องโดยสารนั้น ขอประเดิมด้วย Mitsubishi Attrage ที่เน้นความเรียบง่ายตามแบบฉบับ "สวยสไตล์มิตซูฯ" แต่ได้เสริมความสปอร์ตด้วยเบาะนั่งสีดำรวมไปถึงรุ่น GLS Ltd. ที่ได้ใช้ด้ายสีแดงเย็บเบาะเพิ่มความเร้าใจ มาตรวัดมาตรวัดแบบ Combination Meter พร้อมตกแต่งแบบ Silver Decoration และจอแสดงข้อมูลแบบดิจิตอล ด้านอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้แก่ช่องจ่ายกระแสไฟ 12 โวลต์ ระบบเครื่องเสียง วิทยุ-เครื่องเล่นซีดี/ เอ็มพี3 พร้อมช่อง AUX-in และ USB สําหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ส่วนรุ่น GLS Ltd. จะเป็นวิทยุ-เครื่องเล่น ดีวีดี/ เอ็มพี3 / จอภาพแบบ Touch Screen ขนาด 6.5 นิ้วและ USB สําหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง เสริมระบบนําทางในรถยนต์, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ทุกรุ่นมีลำโพง 4 จุด ทางด้านพื้นที่สัมภาระท้ายของรุ่นนี้ อยู่ที่ 450 ลิตร
ส่วน Nissan Almera ด้านออกแบบภายในที่ให้ความล้ำสมัยสะดุดตามากกว่าภายนอกเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นที่เปิดประตูแบบวงกลม, แผงระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงแบบวงกลมพร้อมแสง LED เช่นเดียวกับ Nissan March เสริมด้วยเครื่องเล่นวิทยุ / ซีดี/ เอ็มพี3 พร้อมช่องต่อพ่วง USB และ AUX IN ในรุ่นทั่วไป ส่วนรุ่น ระบบเครื่องเสียง วิทยุ DVD MP3 / จอภาพ Touch Screen ขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ควบคุมด้วยแผงควบคุมและระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย เชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth และในรุ่น VL จะมีด้วยระบบนำทางในรถยนต์ ส่วนแผงมาตรวัดนั้นจะเป็นแบบเรืองแสงพร้อมจอแสดงผลแบบดิจิตอล ทางด้านพื้นที่สัมภาระท้ายของรุ่นนี้ อยู่ที่ 490 ลิตร ซึ่งเป็นผลมาจากระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,600 มิลลิเมตรนั่นเอง
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ทางด้านระบบขับเคลื่อนทั้งสองรุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรทั้งคู่ และเครื่องยนต์ของทั้ง 2 ค่ายนี้จะใช้บล็อกเดียวกันทุกรุ่นย่อย จึงสามารถยกมาเปรียบเทียบได้ไม่ยาก โดยมีรายละเอียดดังนี้
เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง |
Mitsubishi Attrage | Nissan March |
เครื่องยนต์ | 3A92 | HR12DE |
ขนาดกระบอกสูบ(ซีซี) | 1,139 | 1,198 |
แบบ | 3 สูบ DOHC MIVEC 12 | 3 สูบแถวเรียง DOHC (Double Overhead Camshaft) 12V CVTC (Continuously Variable -Valve Timing Control) |
ความกว้างกระบอกสูบ Xระยะชัก |
75 x 90 |
78.0 X 83.6 |
อัตราส่วนกำลังอัด | 10.5 | 10.2 : 1 |
ระบบจ่ายน้ำมัน | ECI-MULTI 32 | หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ มัลติพอยท์ (ECCS) 32 bit |
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า(กิโลวัตต์)-รอบ/นาที) |
78 (57) / 6,000 | 79 (58) / 6,000 |
แรงบิด (นิวตันเมตร(ป/ฟ)-รอบ/นาที) |
100 (10.2) / 4,000 | 106 (10.8) / 4,400 |
อัตราประหยัด (กม./ลิตร) | 22 กิโลเมตร/ ลิตร | ไม่ได้ระบุ |
อื่นๆ | - | ระบบ Idling Stop (ระบบหยุดการเดินเบา) |
โดยทั้งคู่ผ่านการรับรองมาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro4 อีกด้วย
ส่วนระบบส่งกำลังนั้น ทางด้าน Mitsubishi Attrage จะเป็นระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVT ส่วน Nissan Almera จะเป็นระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและ XTRONIC CVT ขับเคลื่อนสองล้อทั้งคู่
ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งภายในรถระหว่าง Mitsubishi Attrage และ Nissan Almera มีรายละเอียดดังนี้
ระบบความปลอดภัย | Mitsubishi Attrage | Nissan Almera |
โครงสร้างนิรภัย | Rise Body | Zone Body Concept |
ถุงลมนิรภัย SRS | คู่หน้า | คู่หน้า |
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ (หน้า) |
ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง | ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง |
เข็มขัดนิรภัย (หลัง) | ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง |
ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง |
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
ระบบเบรค ABS-EBD |
* (ไม่มีระบบเสริมแรงเบรค BA) |
* |
ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
ไฟตัดหมอกท้าย | - | - |
ไฟเบรคดวงที่ 3 | LED | LED |
กล้องมองหลัง | * | * |
สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง | - | * |
ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer | * | * |
ระบบป้องกันการเปิดประตูหลัง | * | * |
ระบบเบรค (หน้า-หลัง) | หน้า: ดิสก์เบรค พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง: ดรัมเบรค |
หน้า: ดิสก์เบรค พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง: ดรัมเบรค |
เรียกได้ว่าทั้งสองรุ่น สองฝ่ายต่างก็มีหน้าตา, สมรรถนะและอ็อพชั่นที่สูสีกันเลยทีเดียว จึงไม่แปลกหากเราๆ ท่านๆ จะได้เห็นอีโค่คาร์คู่นี้โลดแล่นอยู่บนถนนทุกสาย โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว ซึ่งเชื่อได้ว่าสำหรับท่านที่กำลังมองหารถยนต์แนวนี้อยู่ น่าจะมีคำตอบในใจให้กับตัวเองบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ส่วนรถรุ่นต่อไปที่จะทำการเปรียบเทียบจะเป็นรุ่นอะไร สามารถติดตามได้ที่ BoxzaRacing.com ในโอกาสต่อไปได้นะครับ