เขียนโดย: Panminator

เมื่อ: 27 ตุลาคม 2558 - 11:49

ผู้จัดการฟลีทของไทยเผย ผู้ใช้รถคือกุญแจสำคัญของการประหยัดน้ำมัน

 

ผู้จัดการฟลีทของไทยเผย ผู้ใช้รถคือกุญแจสำคัญของการประหยัดน้ำมัน



          จากรายงาน “Fuel Matter 2015”  เกี่ยวกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งรวบรวมข้อมูลที่เป็นผลสำรวจจากผู้จัดการดูแลยานพาหนะและผู้ใช้รถจาก 8 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ระบุว่าผู้ใช้รถคือผู้กุมกุญแจดอกสำคัญในการลดค่าน้ำมัน โดยผู้จัดการดูแลยานพาหนะในประเทศไทยร้อยละ 58 เชื่อว่า เทคนิคการขับรถประหยัดน้ำมันถือเป็นปัจจัยสำคัญในการลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงปริมาณการปล่อย  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงภายในเวลาอันสั้น ปัจจัยรองลงมาคือ การจัดการน้ำหนักสิ่งของที่บรรทุกให้เหมาะสม (ร้อยละ 45) และการวางแผนเส้นทางเดินรถโดยคำนึงถึงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน (ร้อยละ 41)

 

          อรอุทัย ณ เชียงใหม่ ผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการค้าและการตลาด ธุรกิจบัตรเติมน้ำมัน ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “บทบาทของผู้จัดการดูแลยานพาหนะในปัจจุบันเปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับสิบปีที่แล้ว ทั้งในเรื่องของการสร้างผลกำไรที่มีข้อจำกัดมากขึ้นและกฎระเบียบด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสะท้อนภาพของธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพยายาม   หาวิธีที่จะลดอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในปัจจุบันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผลการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เราเห็นว่า ความท้าทายที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการดูแลยานพาหนะคือ ทำอย่างไรที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถหันมา  ใส่ใจในเรื่องของการใช้น้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม”

          จากข้อมูลดังกล่าว เชลล์มีวิธีการ 5 ขั้นตอนที่สามารถทำได้ง่าย เพื่อช่วยให้ผู้จัดการดูแลยานพาหนะที่กำลังมองหาแนวทางจัดการในการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

 

  1. จัดสรรเวลาและทรัพยากรในการฝึกอบรมเพื่อให้ผู้ใช้รถเข้าใจถึงวิธีการขับขี่โดยใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  2. พิจารณาให้เงินโบนัสเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ใช้รถที่ช่วยลดอัตราการใช้น้ำมันได้สำเร็จ

  3. วางแผนการเดินรถอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดระยะทางและประหยัดเวลาบนท้องถนน เช่น เลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน

  4. ดูแลให้มีการซ่อมบำรุงยานพาหนะอย่างสม่ำเสมอ

  5. เลือกแบรนด์น้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด

 

          เพื่อช่วยให้ธุรกิจบริการการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เชลล์ จึงได้พัฒนาและนำเสนอ เชลล์การ์ด ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการการใช้น้ำมันที่ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ลดระยะเวลาในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษา รวมถึงช่วยป้องกันการทุจริต ซึ่งเป็นผลจากคุณสมบัติที่โดดเด่น 4 ด้านดังนี้

เชลล์การ์ดออนไลน์: ระบบตรวจสอบแบบออนไลน์ที่ทันสมัยและใช้งานง่าย เพื่อลูกค้าสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างละเอียด และยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการใช้น้ำมันและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ความสะดวกสบาย:  เชลล์ มีสถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการครบวงจร รองรับลูกค้ากว่า 500 แห่งทั่วประเทศ มีเครือข่ายครอบคลุมตลอดทุกเส้นทางสายเศรษฐกิจ และถนนทางหลวง มีสถานีบริการที่ใช้หัวปั๊มความเร็วสูงมากกว่า 35 สถานี ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงลงถึง 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับหัวปั๊มแบบธรรมดา และที่สำคัญเชลล์ให้ความสำคัญในการบริการด้วยมาตรฐานการให้บริการของพนักงานที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเป็นมืออาชีพและ   ใส่ใจในบริการสูง

ความปลอดภัย: เพราะเชลล์ให้ความสำคัญในการจัดการกับการทุจริตอย่างจริงจัง จึงมุ่งมั่นที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดและการบริการทุกประเภทมีความปลอดภัยที่สุดในกลุ่มธุรกิจ โดยเชลล์มีระบบการป้องกันขั้นสูงที่เรียกว่า Real Time Detection (การตรวจสอบแบบทันที) ซึ่งเป็นการตรวจสอบอย่างอัตโนมัติในเวลาที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมากที่สุด สำหรับบัตรทุกใบ และรายการนับล้านที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยออกแบบมาเพื่อแจ้งเตือนทุกรายการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นการทุจริตอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งศูนย์บริการลูกค้าจะโทรแจ้งหรือส่งอีเมล์เพื่อเตือนลูกค้าทันที

ความประหยัด:  ด้วยประสบการณ์ด้านการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีมานานนับศตวรรษ เจ้าของธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่า ทุกผลิตภัณฑ์จากเชลล์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันหล่อลื่น ล้วนให้ความคุ้มค่าและช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถควบคุม และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างแท้จริง  

 

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook