Chevrolet พาเด็กไทยบินสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับโครงการ Beautiful Possibilities
Chevrolet (เชฟโรเลต) เดินหน้าภารกิจมอบพลังแห่งการเล่น และการแข่งขันฟุตบอลสู่ชุมชนทั่วโลกผ่านโครงการ Beautiful Possibilities ด้วยการพาเด็กไทยสองคนลัดฟ้าสู่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เพื่อรับหน้าที่มาสค็อตในเกมการแข่งขันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล
สองมาสค็อตจากประเทศไทย คือด.ญ.จันจิรา (ฟิล์ม) และด.ช.จิณณวัตร (เบียร์) ซึ่งทั้งคู่มีอายุ 10 ปี จะได้มีโอกาสพบปะ และใช้เวลาร่วมกับนักเตะและนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก่อนการแข่งขันในเกมวันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้ พวกเขาจะเข้าร่วมฝึกทักษะฟุตบอลที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โรงเรียนสอนเตะฟุตบอล และเยี่ยมชมสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เด็กไทยทั้งสองคนยังจะได้พบปะกับเด็กอีกหลายประเทศ ทั้งจากบราซิล จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา เชฟโรเลตคัดเลือกเด็กเหล่านี้เนื่องจากพวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการเล่น
โดยเด็กเหล่านี้จะได้รับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตระหว่างเกมการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน เมื่อจะได้เดินลงสู่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดร่วมกับนักเตะตัวจริงของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนักเตะแต่ละคนจะสวมเสื้อแข่งที่ปักชื่อของมาสค็อตไว้ด้านหลัง ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น นักเตะทั้งหมดจะมอบเสื้อดังกล่าวให้แก่มาสค็อตเพื่อแสดงความชื่นชมยินดีและเป็นการปฏิบัติตามธรรมเนียมฟุตบอลสากลระดับโลก
“เราจะแสดงให้เด็กๆและครอบครัวของพวกเขา รวมถึงชุมชนและแฟนบอลที่ติดตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั่วโลกได้เห็นว่า ฟุตบอลและการเล่นสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและสร้างสรรค์ความเป็นไปได้อันงดงามได้อย่างไร” มร.ทิม มาโฮนีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของเชฟโรเลต โกลเบิลกล่าว
นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่เชฟโรเลตพาเด็กจากทั่วโลกเดินทางสู่เมืองแมนเชสเตอร์เพื่อรับหน้าที่มาสค็อต ซึ่งเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ Chevrolet ได้วางแผนดำเนินการต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า โดยเรื่องราวของเด็กแต่ละคนถูกถ่ายทอดไว้บนเว็บไซต์ www.ChevroletFC.com
“ถือเป็นเกียรติอย่างแท้จริงที่ได้ต้อนรับมาสค็อตของ Chevrolet สู่เมืองแมนเชสเตอร์ เด็กเหล่านี้มาจากหลายประเทศซึ่งแสดงเห็นถึงฐานแฟนบอลของเราที่มีอยู่ทุกมุมโลกและศักยภาพการดึงดูดแฟนบอลทั่วโลกของเรา” มร.ริชาร์ด อาร์โนลด์ กรรมการผู้จัดการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กรุ๊ปกล่าว
“ด้วยการเป็นพันธมิตรกับเชฟโรเลต แมนฯ ยูไนเต็ดได้รับโอกาสที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่มากมายในการเชื่อมโยงกับแฟนบอลกว่า 659 ล้านคนของเราทั่วโลกและนักเตะของเราจะมีความภาคภูมิใจที่ได้สวมเสื้อที่มีชื่อของเด็กเหล่านี้ปักอยู่ด้านหลังและได้เดินลงสู่สนามพร้อมกับเด็กๆ”
ภายใต้โครงการ Beautiful Possibilities เชฟโรเลตจะทำงานกับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรในการฝึกทักษะการเล่นและปรับปรุงสนามกีฬาชุมชนเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมกับเกมกีฬามากขึ้น ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เชฟโรเลตได้ปรับปรุงสนามกีฬาของโรงเรียนบางบัวในเขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย องค์กรคริสเตียนเพื่อการพัฒนาและสาธารณกุศล ที่ช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และชุมชุนยากไร้ให้สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ
Chevrolet ยังทำงานร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตในการคัดเลือกด.ญ.จันจิรา และด.ช.จิณณวัตรให้เป็นมาสค็อตในครั้งนี้ เนื่องจากทั้งคู่แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งการเล่น
“ขอขอบคุณทาง Chevrolet เป็นอย่างมาก ที่ได้ให้ความไว้วางใจมูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นพันธมิตรในการดำเนินกิจกรรมที่พัฒนาคุณภาพของเยาวชนไทยผ่านกีฬาฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสนี้ ขอขอบคุณที่ได้สานฝันของเด็กยากไร้ 2 คนให้เป็นจริง โดยการให้โอกาสพวกเขาไปสนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่อย่าง โอลด์ แทรฟฟอร์ด และพบกับนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้ว นอกจากนี้น้องฟิล์มและน้องเบียร์ จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักเรียนโรงเรียนบางบัวคนอื่น ได้เห็นประโยชน์ของฟุตบอล และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ พัฒนาศักยภาพของตนเองต่อไป” คุณจิตรา ธรรมบริสุทธ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยกล่าว
นอกจากโครงการ Beautiful Possibilities แล้ว นับตั้งแต่ปี 2555 เชฟโรเลตได้มอบพลังแห่งการเล่นให้แก่เด็กและเยาวชนประมาณ 45 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนขาดแคลนโอกาสมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลกด้วยการมอบลูกฟุตบอลที่มีความทนทานสูงจากโครงการวัน เวิลด์ เพลย์กว่า 1.5 ล้านลูก เชฟโรเลตซึ่งเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของโครงการวัน เวิลด์ เพลย์ให้คำมั่นว่าจะมอบลูกฟุตบอล 2 ล้านลูก ซึ่งมาสค็อตจะมีโอกาสเตะลูกฟุตบอลดังกล่าวที่จุดโทษระหว่างพักครึ่งเวลาของการแข่งขันในเกมในวันที่ 12 กันยายนนี้อีกด้วย
“ไม่ว่าจะเป็นการเล่นฟุตบอลในสนามหรือนั่งเชียร์ทีมโปรด เด็กมาสค็อตทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์ทั้งสองแบบร่วมกับนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซึ่งเป็นโอกาสอันล้ำค่าที่น้อยคนจะได้สัมผัส” มาโฮนีย์กล่าว
