Toyota Corolla เปิดตัวโฉมโมเดลเชนจ์ เป็นรุ่นปี 2020 กับหน้าตาเอาใจอเมริกา ที่เน้นความสปอร์ตเต็มที่ ที่ต่างจากเอเชียหลายจุด ส่วนสเปคพื้นฐานอย่างเครื่องและช่วงล่างนั้น จะมาแบบเดียวกับโคโรล่าโมเดลเชนจ์ ด้วยการจัดเต็มทั้งเครื่องแบบ N/A และระบบไฮบริดด้วย พร้อมการปรับปรุงให้ Corolla เจนเนอร์เรชั่นที่ 12 ใหม่นี้ มีความหนึบแน่น แรง และคุณภาพดีกว่าเดิมทุกด้าน จะมีอะไรบ้าง ไปชมรายละเอียดกัน
Toyota Corolla โมเดลเชนจ์โฉมอเมริกา มีจุดเด่นต่างจากโฉมเอเชียตรงที่ ไฟหน้าทรงเขี้ยวมุมแหลม ทรงเดียวกับ Corolla Hatchback ที่เปิดตัวในยุโรปไปก่อนหน้านี้ มีทรงยาวต่อเนื่องกับกระจังหน้าแนวนอน ที่ย้ายโลโก้สามห่วงไปอยู่ด้านบน ส่วนกันชนมีช่องดักลมทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ พร้อมลายรังผึ้งให้ความสปอร์ต เป็นชิ้นเดียวกับกรอบสีดำที่มุมกันชน ที่คาดด้วยไฟ LED แนวนอน
ส่วนด้านท้ายมีไฟท้ายและฝากระโปรงทรงเดียวกับ Corolla Levin โฉมจีนที่เปิดตัวในวันเดียวกัน แต่กันชนจะต่างจากโฉมจีนตรงที่ มีการเพิ่มลายรังผึ้งที่ตรงกลาง เพิ่มดิฟฟิวเซอร์เข้าที่ชายล่าง และเสริมไฟทับทิมในแนวตั้งที่มุมกันชน เว้าหลบปลายท่อไอเสียคู่ที่ออกมาตรงๆ โชว์ความสปอร์ตเต็มสูบ ส่วนชิ้นส่วนด้านข้างรถ ยังใช้กรอบประตูเดียวกันกับโฉมจีน
มิติตัวถังรถใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน TNGA มีฐานล้อขนาด 2,700 มม.เท่าเดิม แต่เพื่อเน้นความสนุกในการขับขี่มากขึ้น จึงได้พัฒนามิติตัวถังให้ดีกว่ารุ่นปัจจุบัน โดยการลดจุดศูนย์ถ่วงลง เริ่มด้วยการวางเครื่องต่ำลง กดฝากระโปรงต่ำลง ทำหลังคาเตี้ยลงอีก 20 มม. ลดช่วงโอเวอร์แฮงค์หน้าลงจากรุ่นปัจจุบัน ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และเพิ่มแทรคล้อหน้ากว้างขึ้น 12.7 มม. และแทร็คล้อหลังกว้างขึ้น 22.8 มม. มากกว่ารุ่นปัจจุบัน แถมช่วงล่างยังได้เปลี่ยนใหม่ จุดสำคัญอยุ่ตรงที่ด้านหลังจากเดิมเป็นคานบิด เปลี่ยนมาเป็นอิสระมัลติลิ้งค์ ให้ความหนึบแนบพื้นถนนกว่ารุ่นปัจจุบัน
ภายในคงใช้คอนโซลทรงเดียวกับ Corolla Hatchback ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า มีการลดความสูงของขอบล่างหน้าต่างลง และลดความหนาของเสาหลังคาหน้าลงจากอัลติสรุ่นปัจจุบัน ทำให้เพิ่มทัศวิสัยดีขึ้น ส่วนออพชั่นต่างจากรุ่นปัจจุบันตรงที่เพิ่มระบบ Toyota Safety Sense เป็นครั้งแรกในตระกูลโคโรลล่า ที่มีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้า ที่จะเตือนและช่วยเบรคอัตโนมัติ พร้อมระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และช่วยรักษารถกลับเข้าเลนให้ด้วย
ขุมพลังก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยรุ่นพื้นฐานมาพร้อมกับเครื่อง 1.8 ลิตร กำลัง 140 แรงม้า ต่อมาเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 169 แรงม้า ส่วนขุมพลังตัวท็อปเป็น Corolla Hybrid ที่ตัวเลขสเปคจะเปิดเผยเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ พ่วงกับเกียร์ CVT 10 สปีด
Toyota Corolla โมเดลเชนจ์ พร้อมออกขายที่อเมริกาเหนือในปีหน้า ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 650,000 บาท ส่วนไทยเรามีแนวโน้มว่าจะใช้โฉมเดียวกับที่จีน เพิ่งเปิดตัวไปแล้ววันนี้ คาดว่าจะพร้อมเข้ามาขายไทยในกลางปี 2019 เป็นต้นไป
อ่านเพิ่มเติม : Toyota Corolla Sedan เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมลุยตลาดโลกในปี 2019
