Ford ทำการคิดค้น และพัฒนาเสียง เพื่อให้คุณกับรถสามารถสื่อสารกันได้
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้มีกลุ่มทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่รับผิดชอบด้านการคิดค้น และพัฒนาเสียง เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์จะสามารถสื่อสารข้อความสำคัญไปยังผู้ขับขี่แม้ในขณะที่ไม่รู้ตัว
ทีมพัฒนาความสอดคล้องของเสียงในรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งในแผนกวิศกรรมยานยนต์ของฟอร์ด โดยทีมงานนี้จะทำหน้าที่คิดค้นเสียงต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นเสียงติ๊กต่อกของสัญญาณไฟเลี้ยว ไปจนถึงเสียงแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ เสียงภายในรถยนต์ฟอร์ดมีมากมายประมาณ 30 เสียง ซึ่งแต่ละเสียงได้รับการออกแบบมาให้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันออกไปโดยอิงจากความสำคัญของข้อความที่เสียงนั้นต้องการจะสื่อ
ค่าความถี่ ระดับเสียง จังหวะ และโทนของเสียงที่มีความสมดุลกัน จะช่วยแยกความแตกต่างระหว่างการแจ้งเตือนที่มีความสำคัญสูง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณแจ้งเตือนการชน และการแจ้งเตือนแบบทั่วไป เช่น เสียงติ๊กต่อกของสัญญาณไฟเลี้ยว ซึ่งศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังเสียงสัญญาณแจ้งเตือนเหล่านี้คือการสร้างสรรค์ภาษาที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ และยานพาหนะสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ อย่างไรก็ตาม จากการที่เราอยู่ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยเสียงเตือนข้อความเข้า อีเมล์ และการนัดหมายต่างๆ มากมาย ทำให้เกิดคำถามที่ว่าเสียงเหล่านี้ส่งเสียงดังกลบกันหรือไม่
เจนนิเฟอร์ เพรสคอตต์ วิศวกรจากทีมพัฒนาความสอดคล้องของเสียงในรถยนต์ กล่าวว่า “เสียงเหล่านี้ส่งเสียงดังกลบกันจริง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมทุกเสียงที่รถยนต์ฟอร์ดสื่อสารออกมาต้องได้รับการออกแบบ และพัฒนาให้สามารถส่งเสียงดังเหนือเสียงรบกวนอื่นๆ ภายในเครื่องยนต์เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ยินอย่างชัดเจน และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถแยกแยะความหมายต่างๆ ของเสียงเข้ากับฟังก์ชั่นเฉพาะที่รถยนต์ต้องการจะสื่อสารได้ทันที”
ทีมงานฟอร์ดที่ประจำอยู่ที่เมืองเดียร์บอร์นได้ทำงานประสานกับทีมงานจากโรงงานฟอร์ดทั่วโลก เช่น ในทวีปยุโรป อเมริกาใต้ และเอเชียแปซิฟิก (รวมถึงทีมวิศวกรที่ประจำอยู่ที่ศูนย์วิจัยในเมืองนานกิง และเมลเบิร์น) โดยทีมพัฒนาความสอดคล้องของเสียงในรถยนต์ให้ความสำคัญกับการทำงานของรถยนต์ในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นในแง่การใช้สัญญาณไฟกระพริบ เสียง และความรู้สึกแบบมีแรงป้อนกลับ ซึ่งเป็นวิธีที่รถสื่อสารกับผู้ขับขี่ผ่านการแจ้งเตือนด้วยระบบสั่น และการสื่อสารแบบสัมผัสอื่นๆ โดยความท้าทายอยู่ที่การคิดค้นเสียงที่เหมาะสม เพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้กับผู้ขับขี่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถอ่านข้อความที่แสดงบนหน้าจอได้ ผู้ขับขี่จึงไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ
