เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2562 - 10:35

Nissan All New Almera 2019 Intelligent Urban Sedan ปรากฎการณ์เครื่องยนต์ใหม่ 1.0 L Turbo

          Nissan All New Almera 2019 รถยนต์แบบซีดานอัจฉริยะลำหรับการใช้งานในเมือง ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงมากมาย ภายใต้การเปิดตัวในธีม Challenge All Beliefs หรือ เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ  ซึ่งได้รับการพัฒนา และออกแบบมาให้สมบูรณ์แบบในทุกพื้นที่ รวมถึงความสวยงาม ความสะดวกสบาย สมรรถนะ และความปลอดภัยระดับสูงสุด

 

 

          ครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย ที่เปิดตัว Nissan All New Almera 2019 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ ผสานแนวคิดการออกแบบใหม่ที่โดดเด่นทันสมัย ดีไซน์ภายนอกปราดเปรียวขึ้น กว้างและยาวขึ้น ภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์ของ Nissan แบบ รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry โดยมีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรด์ อาทิ กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแร แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (kick-up C-pillars) และหลังคาแบบลอยตัว (Floating roof) ส่งต่ออัตลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความต่อเนื่องในรถยนต์ Nissan ทุกรุ่น

 

 

          และเอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะของ Nissan นั้นทำให้ Nissan All New Almera 2019 มีความโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าใหม่แบบ LED พร้อม LED Signature Light ทรงบูมเมอแรง ไฟเลี้ยวด้านข้าง และไฟท้ายแบบ Signature Light พร้อมไฟเบรกแบบ LED ทรงบูมเมอแรง ในส่วนของเสาด้านหลังตัวรถถูกออกแบบให้กลมกลืน เสมือนหลังคาลอยตัวอยู่ พร้อมด้วยซุ้มล้อที่ดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยเส้นสายที่ลากผ่านจากประตูไปสู่ด้านท้ายของตัวรถ สำหรับรุ่นใหม่นี้มีขนาดตัวถังยาว 495 มม. กว้าง 1,740 มม. และสูง 1,460 มม ระยะฐานล้อ 2,620 มม. มีความคล่องตัวในทุกสภาพเส้นทาง รัศมีวงลี้ยว 5.2 เมตร ด้วยพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบเพาเวอร์ควบคุมต้วยไฟฟ้า (EPS)

 

 

          ขณะที่ภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมหน้าจอแสดงผลใหม่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ พวงมาลัย และเบาะนั่ง ห้องโดยสารภายในเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเน้นความปราณีตในการประกอบ ลายเส้นของปีกเครื่องร่อนของ Nissan (Nissan Gliding Wing) ถูกนำมาเป็นแนวทางในการตกแต่ง ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงแนวเส้นโค้งที่บริเวณคอนโซลกลาง เพิ่มการเชื่อมต่อ และความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยฟังก็ชันการใช้งานเต็มรูปแบบ ตอบสนองต่อ ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแท้จริง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตลที่ทันสมัยของลูกค้าในวันนี้  Nissan All New Almera 2019   สามารถเชื่อมต่อได้มากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีของ Nissan Connect บนหน้าจอแสดงผลใหม่ ระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect (ในรุ่น V และ VL) มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง พร้อมลำโพงคุณภาพดี 6 จุด และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอย่าง Apple CarPlay สำหรับรุ่น E และ EL ติดตั้งระบบเครื่องเสียง วิทยุ AM/FM พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX-IN พร้อมลำโพงคุณภาพดี 4 ตำแหน่ง  เพิ่มความสะดวกในการควบคุม ด้วยสวิทช์

          ควบคุมระบบเครื่องเสียงและระบบโทรศัพท์บนพวงมาลัย (สำหรับรุ่น EL, V และ VL) พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth (ยกเว้นในรุ่น S) เพิ่มความมั่นใจในกาชับชื่ ด้วยมาตวัดแบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านหน้าจอ TF หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว แสดงผลข้อมูลการชับขี่ แสดงมาตรวัดคุณหภูมิภายนอก (สำหรับรุ่น V และ VL)

 

 

          Nissan All New Almera 2019 มอบความสะดวกสบายและพื้นที่ในห้องโดยสารด้านหลังที่มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน ภายในออกแบบให้ทันสมัยพร้อมด้วยระบบเชื่อมต่อที่ให้ความสะดวกสบาย และอรรถประโยชน์แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พื้นที่ผู้โดยสารด้านหลังยังกว้างขวางและสะดวกสบาย สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ภายในที่ทันสมัยได้แก่

  • พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต แบบ D-Shape ปรับสูงต่ำได้ โดยรุ่น EL, V และ VL เป็นแบบมัลติฟังก์ชัน สามารถวบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button) และรีโมทอัจฉริยะ (Intelligent Key) (สำหรับรุ่น EL, V และ VL) และระบบกุญแจ Immobilizer
  • เบาะผ้าสีดำตัดขอบสีเทา (สำหรับรุ่น E, V และ VL) มอบความสวยงามและความสะดวกสบาย
  • สำหรับเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับระดับเพื่อความเหมาะสมกับขนาดร่างกายส่วนด้านหลังที่นั่ง มีช่องเก็บของอเนกประสงค์
  • การตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ และเสริมด้วยวัสดุสีเงิน เช่น ภายในบริเวณช่องแอร์ด้านข้าง และ คอนโซลกลาง ส่วนวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางสีเปียโน แบล็ค (สำหรับรุ่น EL, ง และ VL) ซึ่งทั้งหมด เป็นการผสมผสานอารมณ์สปอร์ตและหรูหราไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ (สำหรับรุ่น V และ VL) ให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง
  • กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ
  • ที่วางแก้วน้ำตอนหน้า 2 ตำแหน่ง ช่องวางขวดน้ำที่แผงประตู 4 ตำแหน่ง ช่องวางของเอนกประสงค์ตอนกลาง กล่องเก็บของด้านหน้า 
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร และไฟห้องสัมภาระท้าย
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง และระบบไล่ฝากระจกหลังแบบตั้งเวลา

 

 

          สมรรถนะที่น่าสนใจไม่น้อย มาพร้อมความประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.0 ลิตร ( 999 ซีซี.)  ใหม่ ภายใต้รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft)  ให้กำลังสูงสุด 98.6 แรงม้า มีแรงบิดถึง 152 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่รอบเครื่องที่ 2400 ถึง 4,00 รอบ/นาที ทำงานผสานกับระบบเกียร์แบบ XTRONIC  CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง ช่วยให้การขับมีประสิทธิภาพ และประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นกว่าเดิม ดีที่สุดในระดับรถยนต์เดียวกันถึง 23.3 กม. ต่อลิตร

          เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่นี้ ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคมากมายเช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head, หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่ควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ไช้ในรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง Nissan GT ซึ่ง เพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอ และน้ำหนัก ของกระบอกสูบ ในขณะที่ปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อนและการเผาไหม้

          นอกเหนือจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แล้ว ยังมีนวัตกรรมที่เป็นจุดขาย อันโดดเด่นอย่งชัดเจน คือการจัดการเรื่อง เสียงรบกวน การสั่นสะเทือนและความกระด้าง NVH (Noise, Vibration, and Harshness) ได้รับการปรับปรุง ส่งผลต่อเครื่องยนต์ และตัดเสียงรบกวนจากบนท้องถนน ทำให้ห้องโดยสารมีความเงียบยิ่งขึ้น

          สำหรับระบบช่วงล่าง ด้านหน้า เป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ต้านหลัง เป็นแบบ ทอร์ชัน บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วยให้การชับขี่นุ่มนวลยึดเกาะถนน และรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี

 

 เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.0 ลิตร ( 999 ซีซี.) ใหม่ ภายใต้รหัส HRA0 3 สูบ 

 

          การขับขี่ด้วยความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีของ Nissan Intelligent Mobility และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Nissan Intelligent Safety Shield อันเป็นวิสัยทัศน์ของ Nissan ในการเปลี่ยนวิธีการขับ และปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คน โดยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยอันได้แก่

  • เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ดันหน้าขณะขับอัจฉริยะ IFCW (Intelligent Forward Collision Warning ) โดยส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนหากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
  • เทคโนโลยีช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ IEB (Intelligent Emergency Braking) ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ โดยระบบจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่าง และความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วและหยุดรถให้ความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุบรรเทาลง 
  • เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา BSW (Blind Spot Warning) เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ ที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางการขับ ทันทีที่สัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิดระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกระพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้า เมื่อมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับด้านข้างซึ่งผู้ขับไม่สามารถมองเห็น
  • เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • เทคโนโลยีเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้าย และขวา พร้อมระบบส่งสัญญาณเตือน และไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
  • เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง IAVM (Intelligent Around View Monitor)
  • เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุด รอบคันแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ ทำงานร่วมกับ เทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection) ทำหน้าที่ตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องอบคัน จับการเคลื่อนไหวได้เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยและให้ความมั่นใจในการขับขี่อย่างคล่องตัว
  • เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ  CDC (Vehicle Dynamic Control)
  • เทคโนโลยีช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหัน 
  • เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
  • เทคโนโลยีเมื่อชับรถขึ้นบนทางลาดชันระบบจะช่วยป้องกันไม่ให้ไหลลงขณะออกตัว 

 

 

          นอกจาก Nissan Intelligent Mobility ของ Nissan All New Almera 2019 แล้ว ยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน ที่เพิ่มความปลอดภัยทั้งในเชิงการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และ ระบบลดความรุนแรง ความเสียหายจากอุบัติเหตุ (Passive Safety) อันได้แก่

  • โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Zone Body Concept เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และกระจายแรงกระแทก เพื่อปกป้องห้องโดยสาร และผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • 6 ถุงลมนิภัย SRS คู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตฐานที่ติดตั้งอยู่ใน Nissan All New Almera 2019 ทุกรุ่น ขณะที่ด้านข้าง (Aide Airbags) และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Curtain Airbags) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับรุ่น VL
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ปรับสูง-ต่ำได้ เพื่อความเหมาะสมกับสระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแต่ละคน โดยเข็มขัดนิรภัยค้นหน้าเป็นแบบ R 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กด้วยจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากภายในรถ
  • ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบร BA และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เห็นได้ชัดเจน
  • ระบบเบรกหน้าเป็นแบบ ดิสค์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อนขณะที่ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก

 

 

          Nissan All New Almera 2019 มาพร้อม 6 สี ได้แก่สีแดง เรเดียนท์เรด (Radiant Red), สีสัม โมนาร์ช (Monarch Orange), สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White), สีดำ แบล็คสตาร์ (Black Star), สีเทา กัน แมทาลิค (Gun Metallic) และสืเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver)

 

Nissan All New Almera  2019 เครื่องยนต์  1.0 L Turbo เปิดตัวพร้อมกัน 5 รุ่นย่อย

 

VL CVT    639.000 บาท

V CVT      599,000 บาท

EL CVT    559,000 บาn

E CVT      509,000 บาท

S CVT      499.000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook