Nio แบรนด์รถยนต์จากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้เผยโฉม New Nio ES6 เอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลาง ที่พัฒนาบนพื้นฐานจาก Nio ES8 เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ให้กว้างยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงความหรูหรา ความทันสมัย ซึ่งอาจจะเป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้มอเตอร์กำลังสูงทั้ง 2 แบบผสานทำงานร่วมกันจนสามารถรีดกำลังทะลุเกิน 500 แรงม้า และสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น
Nio ES6 มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง 2 ตัว ประกอบไปด้วยมอเตอร์แม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet หรือ PM) กำลัง 160 กิโลวัตต์ หรือ 215 แรงม้า กับมอเตอร์เหนี่ยวนำสมรรถนะสูง (high-performance induction motor หรือ IM) ให้กำลังสูงสุด 240 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 322 แรงม้า ทั้งหมดนี้ จึงสามารถให้สมรรถนะรวมสูงสุดถึง 400 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 536 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในรุ่นท็อปสุด ซึ่งการผสานกำลังของมอเตอร์ทั้ง 2 แบบ จะสามารถรีดสมรรถนะได้เต็มกำลังเร่งความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม
Nio ES6 สามารถรีดอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ที่ 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. และจากข้อมูลการสดสอบของ NEDC ระบุว่าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 510 กม. ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง จากแบตเตอรี่ 84 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่จะยังมีแบตเตอรี่ 70 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในรุ่นมาตรฐานให้เลือกด้วย
Nio ES6 มาพร้อมกับการใช้วัสดุผลิตตัวถังรถด้วยอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตอากาศยานและกระสวยอวกาศ ควบคู่กับวการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เสริมความแข็งแรงในบางส่วน สำหรับน้ำหนักยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในเวลานี้ ด้านมิติตัวถังจะมีทั้งความยาว 4,850 มม. และความกว้าง 1,965 มม. ส่วนระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,900 มม. ด้านการออกแบบจะถ่ายทอดจาก Nio ES8 ซึ่งเป็นรถเอสยูวีฟูลไซส์รุ่นใหญ่ แต่ตัวถังที่มีความยาวนี้สามารถรองรับห้องโดยสารทั้ง 5 หรือ 7 ที่นั่งได้
ด้านภายในสะดุดตาด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ NOMI พร้อมภายในที่สะท้อนความสปอร์ตล้ำ ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นท้ายตัด, เบาะนั่งทรงสปอร์ต, ระบบสั่งการอัจฉริยะ เช่น ระบบจ่ายน้ำหอม, เทคโนโลยีควบคุมระบบภายในรถ เป็นต้น
Nio ES6 มีราคาเริ่มต้นที่ 358,000 หยวน หรือราวๆ 1.7 ล้านบาท ในรุ่นมาตรฐานที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังรวม 320 กิโลวัตต์ กับรุ่นสมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 400 กิโลวัตต์ ราคา 398,000 หยวน หรือราวๆ 1.89 ล้านบาท และรุ่นท็อปสุดที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 70 กิโลวัตต์ชั่วโมง สนนราคาที่ 448,000 หยวน หรือราวๆ 2.12 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการวางจำหน่ายในประเทศจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และจะเริ่มส่งมอบในเดือนมิถุนายนปี 2019 เป็นต้นไป
Cr. ข้อมูลจาก carscoops.com
