เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 20 กรกฏาคม 2561 - 21:02

Ford เปิดตัว Ranger 2018 ขุมพลังใหม่ 2.0L Bi-Turbo 213 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

 

          Ford Ranger 2018 (ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่) เปิดตัวอย่างเป็นทาง พร้อมนำเสนอรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น มอบความปลอดภัย และความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น Ford Ranger รถกระบะที่สร้างนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ รุ่นใหม่นี้ สานต่อศักยภาพ และสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบ และแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว

          Ford Ranger ใหม่ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 20 รุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นไวล์ดแทรค XLT, XLS, XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และ รุ่นใหม่ ‘ลิมิเต็ด’ (Limited) และยังรวมถึง Ford Ranger Raptor รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานรุ่นแรก และรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งได้เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

 

คุณวิคกี้ ยุคนธร วิเศษโกสิน ประธานฟอร์ด อาเซียน และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย

 

          “ด้วยเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ พร้อมขุมพลังใหม่ที่มอบสมรรถนะอันเหนือกว่า Ford Ranger ใหม่ จะสานต่อความแข็งแกร่งของฟอร์ด เรนเจอร์ รวมถึงสร้างการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น” คุณยุคนธร วิเศษโกสิน ประธานฟอร์ด อาเซียน และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า Ford Ranger จะยังคงเดินหน้าปฏิวัติมาตรฐานของวงการรถกระบะ และเรารู้สึกภาคภูมิใจที่ลูกค้าจำนวนมากเชื่อมั่นในฟอร์ด เรนเจอร์เช่นเดียวกับเรา”

 

เครื่องยนต์ 2.0L Bi-Turbo สมรรถนะ 213 แรงม้า ใน Ford Ranger 2018

 

ขุมพลังขั้นสูงเพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่า และเทคโนโลยีที่เหนือชั้น

          Ford Ranger ใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายยิ่งขึ้น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ, เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และ เครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ที่ผ่านบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งมาแล้ว

          เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ของ Ford ผลิตจากวัสดุ และการออกแบบทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัย อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ทรงพลัง และเปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยระบบคอมมอนเรล หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น ท่อร่วมไอดี และสายพานไทม์มิ่งแบบจุ่มในน้ำมันเครื่อง

 

Ford Ranger Raptor และรุ่น Ranger Wildtrak 4x4 ใช้เครื่องยนต์ 2.0L Bi-Turbo พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

 

          พิเศษสุดสำหรับรุ่น Raptor และรุ่น Wildtrak 4x4 มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมมอบแรงบิดที่สูงขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่าเดิม ช่วยให้การเดินทางด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

          เครื่องยนต์ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ และมอบสมรรถนะสูงสุด โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิด และแรงม้าสูงแม้ตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง

          ด้วยแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที เครื่องยนต์ไบเทอร์โบมอบแรงบิดที่เหนือกว่า  และอัตราทดเกียร์ที่แคบลงของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จะช่วยเพิ่มพลัง และแรงเร่ง ทำให้การไต่เขาที่ลื่นและสูงชันง่ายดายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ และ ไวล์ดแทรค ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการบรรทุก และลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัม

 

Ford Ranger Liimted รุ่นใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

 

          เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในรุ่น Wildtrak 4x2 และ รุ่นใหม่ลิมิเต็ด (Limited) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่ล้ำหน้าของฟอร์ด มอบกำลังสูงถึง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย

          ส่วนรุ่น XLT, XLS, และ XL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ มอบกำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

เครื่องยนต์ของ Ford Ranger ใหม่

  • เครื่องยนต์ดูราทอร์ค 2.2 ลิตร 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที
  • เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที

 

 

          Ford Ranger ใหม่ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนน และยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังคงมีอยู่ใน Ford Ranger ใหม่ เช่นเดิม

          เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน ยังรวมถึงระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist - APA) ซึ่งช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น

 

Ford Ranger Wildtrak และ LTD มาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย 70%

 

          นอกจากนี้ Ranger รุ่น Wildtrak และ LTD มาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70% ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดาย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

          พิเศษสุด Ford Ranger ยังเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS ถือเป็นครั้งแรกของตลาดรถกระบะระดับเดียวกัน ที่อุปกรณ์นี้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถฟอร์ด มอบสมรรถนะที่เหนือกว่าให้แก่รถกระบะพันธุ์แกร่ง ให้พร้อมรับมือทุกงานหนักในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านขนส่ง การค้าเชิงพาณิชย์ งานในโครงการก่อสร้าง หรืองานเกษตรกรรมทั่วประเทศ

 

 

          รูปลักษณ์ของ Ranger ใหม่ ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อสื่อถึงความสมบุกสมบันแบบออฟโรด และความโฉบเฉี่ยวยามอยู่บนท้องถนนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เริ่มจากกระจังหน้าที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่มีมิติที่เด่นชัด และกันชนล่างปรับให้ช่องนำอากาศกว้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ลงตัว Ranger Wildtrak และรุ่น Limited มาพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น

          นอกจากนี้ Ford Ranger ใหม่ แต่ละรุ่นยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันชัดเจน ด้วยสี และการตกแต่งที่สื่อถึงลักษณะที่โดดเด่นของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่พร้อมรองรับทุกงานหนัก เช่น Ranger XL, XLS หรือรุ่น Wildtrak ที่พร้อมลุยไปทุกที่

          การตกแต่งเส้นสายด้วยโครเมียมในเรนเจอร์ XLT และ Limited รวมไปถึงการตกแต่งแบบโดดเด่นใน Ranger Wildtrak สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นได้เป็นอย่างดี Ranger Wildtrak ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสี ‘เซเบรอ’ สีส้มประกายบลอนด์ ซึ่งตัดกันอย่างงดงามกับกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยังช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี

 

Ford Ranger ใหม่ มาพร้อมกุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่ม Push Start ในรุ่น Limited และรุ่น Wildtrak

 

          Ford Ranger ใหม่ มอบความสะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Limited และรุ่น Wildtrak ภายในห้องโดยสารของ Ford Ranger ใหม่ ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งในวันทำงานที่หนักหน่วง การเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์หรือการผจญภัยแบบออฟโรด ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางของเรนเจอร์ตกแต่งในโทนสีดำ พร้อมพื้นผิววัสดุตรงจุดสัมผัสที่ทนทานเพื่อคุณภาพการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียม และการเดินด้ายสีเงิน

 

 

          นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรู้สึกสบาย และเป็นส่วนตัว รวมถึงได้รับความบันเทิงสูงสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) ในรุ่นไวล์ดแทรค ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย

          ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น

          ระบบซิงค์ 3 ยังครอบคลุมไปถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบช่วยโทรฉุกเฉินนี้จะติดตั้งมากับรถฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ทุกคันที่ใช้ระบบซิงค์ 3

 

 

          ระบบช่วงล่างของ Ford Ranger ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดการโคลงตัว และการควบคุมการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดยเน้นที่การยกระดับประสบการณ์การขับขี่เมื่อบรรทุก และลากของหนัก ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบช่วงล่างใหม่นี้ ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้น ลดการโคลงตัวและเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง โดยยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการลากจูงและบรรทุกสิ่งของอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ford Ranger ไว้ได้

 

 

Ford Ranger ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่น ตามราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้

  • รุ่น SWB 2.0L Turbo 4×2 6MT      ราคา 589,000 บาท
  • รุ่น SWB 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT      ราคา 799,000
  • รุ่น Standard Cab 2.2L XL 6MT      ราคา 559,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XL 6MT      ราคา 599,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XL+ Hi-Rider 6MT      ราคา 649,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6MT      ราคา 659,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6MT      ราคา 699,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6AT      ราคา 739,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT      ราคา 749,000
  • รุ่น Open Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT      ราคา 789,000
  • รุ่น Open Cab 2.0L Turbo Limited 4×4 6MT      ราคา 889,000
  • รุ่น Double Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6MT      ราคา 789,000
  • รุ่น Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT      ราคา 829,000
  • รุ่น Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT      ราคา 869,000
  • รุ่น Double Cab 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 6MT      ราคา 899,000
  • รุ่น Double Cab 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 10AT      ราคา 949,000
  • รุ่นDouble Cab 2.0L Turbo Limited 4×4 10AT      ราคา 1,029,000
  • รุ่น Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT      ราคา 1,029,000
  • รุ่น Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT      ราคา 1,265,000
  • รุ่น Double Cab 2.0L Bi-Turbo Raptor 4×4 10AT      ราคา 1,699,000

 

 

          Ford Ranger ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีใหม่ 2 สี นั่นคือ สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่นไวล์ดแทรค) และ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) และสีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค (Aluminuim Metallic), สีดำแอพโซลูท แบล็ค เมทัลลิค (Absolute Black Metallic), สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (Meteor Grey Metallic), สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และ สีแดงทรู เร้ด (True Red)

          Ford Ranger Raptor มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่เฉพาะแร็พเตอร์เท่านั้น และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue), สีแดงเรซ เร้ด (Race Red), สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และ สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White)

          นอกจากนี้ ลูกค้า Ford Ranger ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่า และความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook