เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2560 - 11:42

Toyota ประกาศความสำเร็จยอดส่งออกโครงการ IMV ครบ 3 ล้านคัน และเริ่มส่งออกกระบะ Hilux สู่ประเทศญี่ปุ่น

 

          ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มร. ฮิโรกิ นาคาจิม่า เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ มร. ชิโระ ซาโดชิม่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในงาน การประกาศความสำเร็จ ยอดการส่งออกรถยนต์ในโครงการไอเอ็มวี (IMV) ครบ 3 ล้านคัน และเริ่มการส่งออกรถกระบะไฮลักซ์ สู่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

 

 

          โครงการไอเอ็มวี (IMV) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Innovative International Multi-purpose Vehicle ที่เริ่มประกาศดำเนินโครงการครั้งแรกในปี พ.ศ.2545 โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ในโครงการไอเอ็มวี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท โดยผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน รถยนต์อเนกประสงค์ เครื่องยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก

          รถกระบะไฮลักซ์ในโครงการไอเอ็มวีได้เริ่มต้นผลิตและจำหน่าย รวมถึงการส่งออกสู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 ภายใต้ชื่อ “ไฮลักซ์ วีโก้” มาจนถึงปี พ.ศ. 2558 จึงได้ส่งออกรถกระบะในโครงการไอเอ็มวี เจนเนอเรชั่นที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ไฮลักซ์ รีโว่” ทั้งนี้ รถกระบะในโครงการไอเอ็มวีผลิตจากโรงงานโตโยต้าสำโรงและขยายสู่โรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ โดยปัจจุบันทั้ง 2 โรงงาน มีกำลังการผลิตรวมกันสูงสุดถึง 450,000 คัน ต่อปี

 

มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

 

          มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าวว่า “จากวันนั้นถึงวันนี้ นับเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่ทำให้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้รับการยกระดับเป็นฐานการผลิตและส่งออกหลักที่สำคัญของรถกระบะขนาด 1 ตัน ในกลุ่มบริษัทโตโยต้า ด้วยยอดผลิตที่สูงถึงร้อยละ 60 ของยอดการผลิตทั่วโลก ส่งออกไปจำหน่ายกว่า 120 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งสิ้นกว่า 3,000,000 คัน แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในการผลิตรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริงของคนไทย”

          จากความสำเร็จของการส่งออกรถกระบะไฮลักซ์ในโครงการไอเอ็มวีไปสู่ตลาดต่างประเทศทั่วโลก ในวันนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมขยายความสำเร็จไปสู่การส่งออกรถกระบะไฮลักซ์ไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีมาตรฐานสูงในกระบวนการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปจำหน่ายภายในประเทศ นับเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่ทำให้เห็นถึงคุณภาพมาตรฐานระดับโลกของรถกระบะไฮลักซ์ที่ผลิตจากประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

 

มร. ฮิโรกิ นาคาจิม่า เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น

 

          มร. ฮิโรกิ นาคาจิม่า กล่าวว่า “ในประเทศญี่ปุ่น มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบในรถกระบะไฮลักซ์ และรอคอยที่จะได้สัมผัสกับรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ นับเป็นความน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สามารถส่งออกรถกระบะไฮลักซ์ไปสู่กลุ่มลูกค้าที่เฝ้ารอคอย เราเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถกระบะไฮลักซ์เหล่านี้จะมีช่วงเวลาและประสบการณ์อันน่าประทับใจร่วมกับรถรุ่นนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ เรายังเชื่อมั่นว่ารถกระบะไฮลักซ์ จะประสบความสำเร็จ โดยได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมเหนือความคาดหมายจากลูกค้าภายหลังการเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น”

 

 

          บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ดำเนินกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมากว่า 55 ปี มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริมการลงทุนร่วมกับภาครัฐในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการไอเอ็มวีนำมาซึ่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำหน้า ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในประเทศให้สูงขึ้น สามารถสร้างงานให้กับคนไทยและสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมากมาย ด้วยมูลค่าการส่งออกที่สูงเป็นอันดับ 1 ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,460,000 ล้านบาท รวมกับมูลค่าการส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่อีกกว่า 590,000 ล้านบาท นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยทั้งสิ้นกว่า 2,050,000 ล้านบาท อันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมภาคเศรษฐกิจของประเทศ

 

 

          มร. ซึงาตะ กล่าวปิดท้ายว่า “นับจากนี้ รถกระบะไฮลักซ์ จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจของโตโยต้าเท่านั้น แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคนเช่นกัน ด้วยการมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย”

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook