เขียนโดย: boytaku boxza

เมื่อ: 26 กรกฏาคม 2560 - 15:33

Mercedes-Benz เปิดตัว GLA พร้อมรุ่นแรง AMG GLA45 เปิดให้เป็นเจ้าของแล้ว เริ่มต้นที่ 2.09 ล้าน

บรรยากาศเปิดตัว The GLA และ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC

 

          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดรถหรูรับครึ่งปีหลัง ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ The GLA คอมแพ็คเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมโฉมใหม่ล่าสุด มอบสัมผัสความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ในดีไซน์อันปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว แต่แฝงด้วยสมรรถนะแบบสปอร์ต ดุดันมากกว่าที่เคย ร่วมกับการเผยโฉม Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC เติมเต็มความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและแรงโดยเฉพาะ ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสยนตรกรรมรุ่นล่าสุดได้อย่างใกล้ชิด ภายในงาน Mercedes-Benz StarFest 2017 ตั้งแต่วันที่ 22-30 กรกฎาคมนี้ ณ โซน Central Court, Eden และ Dazzle ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

(ซ้าย)มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด(ขวา) มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

 

          มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในครึ่งปีหลังของปี 2017 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงยึดมั่นแนวคิดที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด”  ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของแบรนด์รถยนต์หรูในประเทศไทย ผ่านการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับรถยนต์ในกลุ่ม Compact Car ด้วยการแนะนำ The GLA โฉมใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตเร้าใจ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยล่าสุด มานำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มีคาแรคเตอร์ที่ชื่นชอบการผจญภัยท่องเที่ยว แต่แฝงไปด้วยความสปอร์ตที่ไม่เหมือนใคร"

          "The GLA ถือเป็นผู้นำของรถยนต์ในกลุ่ม Premium Compact Car ประเภท SUV ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยความโดดเด่นของดีไซน์สไตล์คอมแพ็ค อันโฉบเฉี่ยว ทำให้รถยนต์กลุ่ม Compact Car ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายทั้งหมด 10,962 คันในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์กลุ่มดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 2012" มร.ไมเคิล กล่าวเสริม

          มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นอกจากการเปิดตัว The GLA 2 รุ่นย่อย อย่าง GLA 200 Urban และ GLA 250 AMG Dynamic แล้ว ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้ปรับโฉมรถยนต์กลุ่มสมรรถนะ อย่าง Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC เพื่อเอาใจคนที่ชื่นชอบความเร็วและแรงแต่ยังคงดีไซน์สไตล์คอมแพ็คเอาไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากการเปิดตัวในวันนี้ ทางบริษัทฯ จะนำรถยนต์รุ่นใหม่นี้ ไปจัดแสดงให้ทุกท่านได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ภายในงาน Mercedes-Benz StarFest 2017 ครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในรูปแบบคาราวาน ที่เริ่มต้นจุดหมายแรก ณ ลาน Central Court, Eden และ Dazzle ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 22-30 กรกฎาคมนี้ ก่อนออกเดินทางไปยังอีก 4 จุดหมายทั่วประเทศไทย ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาสุรินทร์ ในวันที่ 26-31 สิงหาคม, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ในวันที่ 5-11 กันยายน, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น  ในวันที่ 18-24 กันยายน และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ในวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคมนี้ ซึ่งนอกจากการจัดแสดงรถยนต์แล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้ตอกย้ำ คุณค่าของแบรนด์ในด้าน “ความรับผิดชอบ” (Responsibility) ด้วยการส่งมอบอุปกรณ์ เครื่องเขียนที่ประกอบด้วยสมุดจดบันทึกที่มีตราประทับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดินสอ ยางลบ และกบเหลาดินสอ จำนวน 1,700 ชุด แก่ เด็กนักเรียนผู้ยากไร้ในจังหวัดดังกล่าว ซึ่งชุดเครื่องเขียนที่นำมาแจกจ่ายในครั้งนี้เป็นการต่อยอดมาจากกิจกรรมจัดทำชุดเครื่องเขียนเพื่อเด็กนักเรียนผู้ยากไร้ที่จัดขึ้นที่เมอร์เซเดส มี บ็อกซ์ (Mercedes me BOX) เมื่อปลายปีที่แล้ว"

          "ภายในงาน Mercedes-Benz StarFest 2017 ทุกท่านจะได้พบกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 16 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้ง Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ" มร.ฟรังค์ กล่าวปิดท้าย

 

GLA 200 Urban

 

          The GLA โฉมใหม่ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์อย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งส่งผลโดยตรงให้มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่ต่ำเมื่อขับขี่ในสภาวะปกติ ทั้งนี้ แนวคิดทางการออกแบบที่ Mercedes-Benz ใช้เพื่อ ซึ่งการปรับปรุงคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ของ The GLA โฉมใหม่นั้น มีทั้งการปรับปรุงรูปร่างของเสาเอให้ลาดเป็นวงโค้ง, ออกแบบกรอบกระจกรอบตัวถังให้สอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศด้านใต้ท้องรถ การปรับแต่งปลายขอบตัวถังบริเวณส่วนล่างของตัวรถให้เป็นพื้นที่ลู่ลมขนาดใหญ่ รวมถึงการปรับแต่งบริเวณส่วนกลางของเพลาหลังและท่อเก็บเสียงด้านหลังซึ่งเชื่อมต่อกับดิฟฟิวเซอร์อีกด้วย นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังติดตั้ง สปอยเลอร์หลังคา ติดตั้งไฟหลังที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงติดตั้งสปอยเลอร์ที่ด้านข้างตัวรถทั้ง 2 ด้าน เพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศทางด้านหลังของตัวรถให้เป็นไปอย่างเหมาะสม

 

ท้ายรถ GLA 200 Urban

 

          ดีไซน์ภายนอก ของ The GLA โฉมใหม่ ยังคงเอกลักษณ์ของดีไซน์อันเร้าอารมณ์ในแบบฉบับรถยนต์คอมแพ็ค ที่ผสานกับความสปอร์ต อเนกประสงค์ และสมรรถนะอันดีเยี่ยม เหมาะทั้งการขับภายในเมืองและนอกเมืองได้เป็นอย่างดี โดยออพชั่นมาตรฐาน ทั้ง GLA 200 Urban และ GLA 250 AMG Dynamic มาพร้อมกับการยกตัวถังให้สูงขึ้น, กันชนแบบใหม่, ไฟหน้าแบบ LED High Performance ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติการส่องสว่างอันยอดเยี่ยม พร้อมด้วยอุณหภูมิแสงที่ใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ ที่จะช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาผู้ขับขี่เมื่อต้องขับรถในเวลากลางคืน พร้อมระบบ Adaptive highbeam Assist ที่ช่วยปรับไฟสูงแบบอัตโนมัติ เพื่อลดการบดบังทัศนวิสัยของผู้ร่วมใช้ถนน, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในกรอบไฟหน้า, ไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า, กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่ และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า, ราวหลังคาอะลูมิเนียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมี่ยม 2 ท่อ

          โดยรถยนต์ในรุ่น GLA 200 Urban จะมาพร้อมกับไฟตัดหมอกหน้าและล้ออัลลอย แบบ 5 ก้าน ขนาด 18” และรถยนต์ GLA 250 AMG Dynamic จะมาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ, ชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชน หน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง), ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ Mercedes -Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi - spoke ขนาด 19”

 

GLA 250 AMG Dynamic

 

          ด้านการดีไซน์ภายใน มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดียมาตรฐานรุ่นใหม่ อาทิ หน้าจอขนาด 8 นิ้ว, มาตรวัดรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเข็มชี้สีแดงซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารอ่านค่าสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น, ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และระบบ HANDFREE ACCESS ที่สามารถเปิดประตูท้ายได้โดยไม่ใช้มือในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic โดย GLA 200 Urban ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO ส่วน GLA 250 AMG Dynamic ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต ซึ่งทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับองศาได้ พร้อมกล่องเก็บของ, ตาข่ายสัมภาระซ้าย-ขวา และช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์ บริเวณที่เก็บสัมภาระด้านท้าย, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 2 โซน, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน, วิทยุ-ซีดี MB Audio 20, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (BlueTooth), รองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD-Card Navigation), ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay™), MB Apps, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร แบบ 12 สี และกาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz

          ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ที่เพิ่มเติมสำหรับทั้ง 2 รุ่น คือ ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) เป็นระบบความปลอดภัยมาตรฐาน โดยระบบนี้จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่ระยะห่างระหว่างรถยนต์ที่ผู้ขับขี่ขับอยู่กับรถยนต์คันข้างหน้านั้นมีน้อยเกินไป และหากจำเป็น ระบบนี้สามารถสั่งชะลอหรือหยุดรถให้โดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะที่เหมาะสมได้ หากเกิดสถานการณ์อันตราย ระบบนี้ยังสามารถสั่งหยุดรถได้โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการเฉี่ยวชน รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ อาทิ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง, กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator), ระบบเตือนแรงดันยาง (tyre pressure loss warning system) และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)

 

ท้ายรถ GLA 250 AMG Dynamic

 

          GLA ทั้ง 2 รุ่น จะได้รับเครื่องยนต์ด้วยกันดังนี้

  • GLA 200 Urban: บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,595 ซีซี. เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250-4,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 8.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม.
  • GLA 250 AMG Dynamic: บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,991 ซีซี. เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

 

Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC

 

          ทาง Mercedes-AMG มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ ที่ผสมผสานบุคลิกและความหรูหรา กับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสมรรถนะสูง และในครั้งนี้ ทาง Mercedes-AMG ได้เผยโฉม Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC รถยนต์รุ่นล่าสุดที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์และคุณสมบัติทางเทคนิคไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งการปรับแต่งคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยอุปกรณ์ภายนอกใหม่ๆ เช่น ฝากระโปรงหน้ารูปแบบใหม่และปลายขอบ สปอยเลอร์หลังคาที่ปรับแต่งให้ลู่ลมยิ่งขึ้นนั้น มิได้เพียงแต่จะช่วยลดแรงต้านที่ตัวรถ แต่ยังช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความสมดุลย์ขณะขับขี่อีกด้วย

           ดีไซน์ภายนอก ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีแอลเอ 45 โฉมใหม่นี้ โดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้ารูปแบบใหม่ที่มีรูปทรงที่ลู่ลมกว่าเดิม มอบความโฉบเฉี่ยวขึ้น, ลวดลายของช่องรับอากาศด้านหน้าใหม่, ไฟหน้าแบบ LED High Performance, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist), ชุดแต่ง AMG Night Package, AMG Aerodynamic package ที่เพิ่มชุดตกแต่งกันชนหน้าแ ละกันชนหลังสีดำแบบไฮ-กลอส ที่มอบความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยช่องรับอากาศจะช่วยให้อากาศสามารถไหลเวียนเข้าไปในห้องเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงด้านท้ายรถที่มาพร้อมกับแผงดิฟฟิวเซอร์ลวดลายใหม่บริเวณกันชนหลัง การเลือกใช้วัสดุเก็บขอบสีดำปลายขอบ สปอยเลอร์หลังคาที่ปรับแต่งเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่โดยเฉพาะ

 

รายละเอียดภายใน Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC

 

          ดีไซน์ภายใน โดดเด่นด้วยเบาะที่นั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต โดยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และระบบอุ่นร้อน, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต, พวงมาลัยแบบพิเศษ AMG Performance Steering Wheel Nappa / DINAMICA ที่เพิ่มความกระชับและมั่นใจตลอดการขับขี่ ตกแต่งภายในด้วย AMG Design trim in black / red แบบ CARBON FIBRE ที่คมเข้มดุดัน มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยสีแดงที่เข้ากับสีเบาะ ทำให้ได้อารมณ์สปอร์ต น่าหลงใหล, กาบบันไดเรืองแสงประตูหน้าแบบ AMG และ AMG DYNAMIC SELECT, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 20” และอุปกรณ์มัลติมีเดียอย่าง วิทยุ-ซีดี MB Audio 20, หน้าจอแบบยกตัว ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเพิ่มความรื่นรมย์ตลอดการขับขี่ด้วยเครื่องเสียงแบบ Harman Kardon® Logic 7® surround sound system ที่ให้เสียงรอบทิศทาง, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth), ระบบนำทาง GARMIN MAP PILOT รวมถึงหลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

          ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) และไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light), กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot), ระบบเบรก AMG High Performance Braking System ประสิทธิภาพสูง เพื่อเพิ่มความเร้าใจและปลอดภัยขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง, ระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว โดย DYNAMIC SELECT มีโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ INDIVIDUAL ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, COMFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, SPORT เน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และ SPORT+ ซึ่งเป็นโหมดที่สามารถใช้สมรรถนะเครื่องยนต์ได้สูงที่สุด และอัตราเร่งดีที่สุด นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อย่างครบครัน

 

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ AMG มอบสมรรถนะสูงสุด 381 แรงม้า

 

          หนึ่งในคุณสมบัติอันล้ำสมัยของเครื่องยนต์ 4 สูบพร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีเลือกใช้กับรถยนต์ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC โฉมใหม่คือหัวฉีดน้ำมันแบบตรง (เพียร์โซ) ที่สามารถฉีดน้ำมันเป็นละอองได้ โดยติดตั้งอยู่ที่จุดกึ่งกลางของกระบอกสูบทั้ง 4 กระบอกและสามารถฉีดน้ำมันได้แม้ในกระบอกสูบจะมีความดันสูงถึง 200 บาร์ การฉีดน้ำมันและการจุดระเบิดได้หลายครั้งต่อจังหวะการเคลื่อนที่ของกระบอกสูบ 1 รอบนั้นช่วยประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านอุณหพลศาสตร์ (thermodynamic) ของเครื่องยนต์ จึงช่วยลดปริมาณไอเสียที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ได้เป็นอย่างมาก ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบมีทางเดินไอเสีย 2 ช่อง (Twin-scroll) ที่ทำงานอย่างสอดประสานกับระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันและการปล่อยไอเสียนั้นช่วยปรับปรุงกระบวนการ อัดอากาศที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างที่ผู้ขับขี่ปรารถนามากที่สุดเมื่ออยู่บนถนน

            เทอร์โบชาร์จเจอร์และเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ที่ประกอบด้วยมือทุกขั้นตอนจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ขับขี่ด้วยอัตราการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ด้วยสมรรถนะสูงสุด 381 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 475 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250-5,000 รอบ/นาที การทำงานที่ยืดหยุ่นและสอดรับกับทุกย่านความเร็ว โดยให้ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. รวมไปถึงเสียงของเครื่องยนต์ที่เร้าอารมณ์อย่างที่สุด เสียงของเครื่องยนต์นี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามโหมดการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่เลือกใช้งานอยู่ในขณะนั้น อีกด้านหนึ่ง ระบบไอเสียของรถยนต์ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC โฉมใหม่นั้นมีวาล์วควบคุมไอเสียแบบอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน 

 

ท้ายรถ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC

 

          ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC โฉมใหม่มาพร้อมระบบควบคุมไอเสีย AMG Performance Exhaust System® (เอเอ็มจี เพอร์ฟอร์มานซ์ เอ็กซอส ซิสเต็ม) โดยระบบไอเสียนี้สามารถสร้างเสียงของเครื่องยนต์ที่ฟังแล้วสปอร์ต เร้าอารมณ์ยิ่งขึ้น เนื่องจากมีระบบลดเสียงการทำงานของระบบควบคุมไอเสียที่ปรับแต่งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ยินเสียง การทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างชัดเจนและเร้าใจกว่าเดิม ผู้ขับขี่สามารถเลือกเสียงของ เครื่องยนต์ที่ต่างกันได้เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่ หรือกดปุ่มที่คอนโซลเพื่อเปิดหรือปิดการทำงาน และนอกจากนี้ยังมีระบบ RACE START ที่ช่วยให้รถสามารถออกตัวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที    

          Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed ที่มอบความรู้สึกคล่องตัวและอัตราการทำงานของเครื่องยนต์ที่รวดเร็วขึ้นขณะขับขี่ ด้วยอัตราทดเกียร์ที่สั้นในเกียร์ 3 ถึงเกียร์ 7 รวมถึงอัตราการตอบสนองของเกียร์ที่ดีขึ้นและระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ที่สั้นลง ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงอัตราเร่งที่ดีขึ้นในทุกย่านความเร็วได้อย่างชัดเจนในทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนเกียร์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC เป็นระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาตรฐานของรถยนต์ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC โฉมใหม่ ที่มอบการยึดเกาะพื้นถนนอย่างมั่นใจแม้ในสภาพการขับขี่แบบออฟโร้ด โดยระบบช่วงล่างนี้จะถ่ายทอดพลังงานจากเครื่องยนต์สู่ล้อทั้ง 4 การส่งแรงบิดที่คงที่อย่างต่อเนื่องพร้อมด้วยการกระจายแรงบิดที่ล้อคู่หน้าและคู่หลังอย่างเท่ากัน ซึ่งส่งผลให้รถยนต์รุ่นนี้มีทั้งความสปอร์ต ความประหยัดน้ำมัน และการยึดเกาะที่เหมาะสมกับ ทุกสภาพพื้นผิวถนน

          นอกเหนือจากนี้  Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC โฉมใหม่ยังติดตั้งระบบ rear axle differential with integrated multi-disc clutch ซึ่งเป็นระบบควบคุมการทำงานของเพลาขับหลังด้วยคลัชท์แบบหลายจานที่ปรับตั้งค่าโดย AMG ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์ส่งแรงบิดไปที่ล้อคู่หลังในกรณีที่ล้อคู่หน้าไม่สามารถยึดเกาะพื้นผิวถนนได้อีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งโหมดการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC ได้ 2 แบบ คือแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหรือแบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่จะมีอัตราการถ่ายเทกำลังเท่ากันที่ร้อยละ 50 : 50

 

 

          ราคาจำหน่าย GLA และ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC มีรายละเอียดดังนี้

  • GLA 200 Urban ราคา 2,090,000 บาท
  • GLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,390,000 บาท
  • Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC ราคา 4,840,000 บาท
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook