หลังจากก่อนหน้านั้น มีข่าวคราวว่าทางรัฐบาล ได้มีนโยบาย "ไม้แข็ง" สำหรับกระตุ้นตลาดยานยนต์ในเมืองไทย ด้วยการปรับภาษีรถเก่าที่ใช้งานเกิน 7 ปี ซึ่งครอบคลุมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกประเภทรวมไปถึงการจัดเก็บภาษีป้ายทะเบียนรถเพิ่มขึ้น โดยจัดเก็บตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยิ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มากก็ควรเก็บสูงขึ้น ซึ่งในเวลานี้ได้กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เนื่องจากมีหลายฝ่ายได้ออกมาสนับสนุนโครงการดังกล่าว แม้จะยังไม่ผ่านมติ แต่กลายเป็นคำถามและความสงสัยที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้รักรถและทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถรุ่นเก่าทุกประเภท
ก่อนหน้านั้น คุณศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้เผยแนวคิดนี้ว่า "อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศในช่วงเดือน เมษายน ที่ผ่านมา อยู่ที่ 54,986 คัน หรือเพิ่มขึ้น 1.72% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และอาจมีแนวโน้มเพิ่มได้มากกว่านี้ โดยภาครัฐต้องช่วยกระตุ้นความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่มีอายุมากกว่า 7 ปี ขึ้นไป เนื่องจากปัจจุบันจัดเก็บอัตราคงที่หรือลดลง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถรุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม มีราคาไม่แพง"
"รวมไปถึง รัฐบาลควรเพิ่มการจัดเก็บภาษีป้ายทะเบียนรถเพิ่มขึ้น โดยจัดเก็บตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยิ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มากก็ควรเก็บสูงขึ้น เหมือนขณะนี้ที่รถยนต์รุ่นใหม่ หากปล่อยก๊าซน้อยก็จะเสียภาษีน้อย ส่วนหนึ่งเป็นการสนองนโยบายรัฐให้ใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน ส่วนจัดเก็บสูงเท่าไร ก็ต้องมาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นได้"
ซึ่งในเวลานี้มีเสียงสนับสนุให้มีการผลักดันการปรับภาษีรถเก่าเกิน 7 ปี อย่างมาก รวมไปถึงยังให้ความเห็นว่าจะเป็นการผลักดันวงการยานยนต์ไทยยุคใหม่ที่ปลอดมลพิษมากขึ้น แต่ก็ต้องมีการวางแผนโครงสร้างทางเศรษฐกิจต่างๆ ให้มีความเข้มแข็อพอเสียก่อน รวมไปถึงการลงทุนสนับสนุนรถยนต์พลังงานทางเลือกร่วมด้วย แน่นอนว่าผู้ได้นั้นจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลาดรถยนต์ใหม่ ผู้ที่ไม่ได้ขับรถ
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีหลายฝ่ายที่โต้แย้งนโยบายการปรับภาษีรถเก่า เช่น อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ต้องซื้อรถใหม่เร็วกว่าที่ต้องการ ซึ่งจะกลายเป็นภาระการใช้จ่ายในอนาคต, ผลกระทบของเต็นท์รถมือสอง, ผลกระทบกิจการอู่ซ่อมบำรุงและของแต่งรถ, กลุ่มรถสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มรถสาธารณะเอกชน รวมไปถึงการศึกษาและฝึกอบรมต่างๆ ตั้งแต่วิชาชีพยันอบรมเรียนขับรถเพื่อทำใบขับขี่อีกด้วย
ทั้งนี้นโยบายการปรับภาษีรถเก่าเกิน 7 ปี ยังคงเป็นเพียงแค่แนวคิดของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะผู้ใช้รถต้องวางแผนและติดตามข่าวคราวๆ กันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะสิ่งนี้มันใกล้กว่าที่เราคิด
