ตัดต่อวิดีโอโดย: LUCKY-THIRTEEN
----------------------------------------------------------------------------------------
Porsche 550 Spyder คันนี้มีไว้แดร็คเท่านั้น
Porsche 550 Spyder รถรุ่นที่สร้างประวัติศาสตร์หลายอย่างให้กับวงการรถยนต์ ด้วยรูปทรงเปิดประทุนขนาดเล็กน้ำหนักเบา กับเครื่องยนต์พลังแรง จนปลุกกระแสรถสปอร์ตขนาดเล็กได้ก่อนที่โลกนี้จะรู้จักคำว่าโรสเตอร์เสียอีก อีกทั้งรุ่นนี้มีคนดังเป็นเจ้าของคือ James Dean นักแสดงหน้าหล่อชาวอเมริกัน ผู้ซื้อรถคันนี้และตั้งชื่อเล่นว่า Little Bastard นำไปซิ่งบนไฮเวย์แล้วมีรถตัดหน้ากะทันหัน จนดับดาวรุ่งให้ล่วงลับไป เกิดเป็นอาถรรพ์ของรถคันนั้น ที่หากใครได้ครอบครองรถทั้งคันหรือชิ้นส่วนของรถเจมส์ดีนคันดังกล่าว จะต้องได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตไปตามๆกัน เมื่อความเฮี้ยนแผลงฤทธิ์เต็มที่แล้ว เจ้ารถคันนี้ก็หายสาบสูญไประหว่างการขนส่ง ไม่มีใครพบมันอีกเลยจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการท้าทายพลังอาถรรพ์ดังกล่าว คุณบอย Oyster VW ก็ได้ทำรถ Replica ขึ้นใหม่ ฟื้นตำนานล้างอาถรรพ์ ให้ออกมาวาดลวดลายในสนามแดร็คโดยเฉพาะด้วยคอนเซปต์ใหม่ Roter Bastard ซึ่งไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ แต่เป็นการสื่อถึง Rotor ในเครื่องผสมกับบอดี้ Spyder ผสมคำหน้าหลังรวมไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลากันแล้ว ขอดูเลยดีกว่าว่าเขาจะล้างคำสาปด้วยเครื่องสูบหมุนอย่างไรบ้าง
Replica งานไฟเบอร์ทั้งคัน สัดส่วนเป๊ะจริง
ไฟหน้าติดตระแกรงกันไฟแตก รัดฝาหน้าด้วยเข็มขัดสุดคลาสสิค
ด้วยความที่รถ Porsche 550 Spyder มีเพียง 90 คันบนโลก ดังนั้นการทำ Replica ขึ้นมาใหม่ ก็ถือเป็นการยกย่องคุณค่าให้ความหายากนี้ โดยคุณ บอย OysterVW จัดทรงและสัดส่วนเหมือนเป๊ะ ทั้งตำแหน่งช่องไฟและรายละเอียดต่างๆ เก็บงานได้สมจริงมาก เรียกว่าถ้าไม่สังเกตว่าคันนี้ไม่มีประตู ก็อาจจะเผลอคิดว่าเป็นของจริงได้สนิทใจ วัสดุตัวถังทำจากไฟเบอร์ทั้งคัน ให้ความเบาสุดๆ ไฟหน้ามีตระแกรงครอบ เป็นของแต่งจากตัวแข่งสมัยก่อนจริงๆ เพื่อกันเศษหินเข้ากระจกโคมไฟ ส่วนฝากระโปรงหน้าเพิ่มเข็มขัดรัดเข้ามาด้วย เพื่อตอนวิ่งแรงๆจะได้ไม่เปิดกลางทาง มาดูที่กระจกบังลมหน้า เห็นว่าทำจากโพลีคาร์บอนเนตใหม่ ส่งผลให้รถเบากว่าเดิมที่เป็นอะลูมิเนียมกับกระจกแก้วจริง
คอนโซลทำใหม่ ที่ฝังเกจ Auto Meter กับพวงมาลัย Moon ทั้งซิ่งและคลาสสิคพร้อมกัน
เบาะ Kirkey คาดด้วยเบลท์ Pro armor ล้อมด้วยโรลบาร์ 4 จุด
ภายในคือเป็นรถสนามอย่างแท้จริง เพราะเปลือยโล่งทุกอย่าง เหลือเบาะคนขับที่จงใจเลือกฝั่งซ้ายเพราะจะได้สมดุลย์กับตำแหน่งเครื่องยนต์ดีกว่า โดยเบาะนั่งเลือกใช้ของ Kirkey อะลูมิเนียมโดยแท้ คาดด้วยเบลท์ของ Pro armor เกรดเทพจากรถแข่งจริง หันมาดูที่คอนโซลไฟเบอร์ ที่มีวัดรอบของ Auto Meter ซึ่งมีถึง 10,000 รอบแล้ว แต่ก็ยังไม่สะใจคุณบอย นำไปดัดแปลงเพิ่มให้ตีขึ้นไปถึง 12,000 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว ในส่วนของพวงมาลัยเป็นของ Moon วงเล็กขอบใหญ่กระชับมือ และสับเกียร์ด้วยเรือนเกียร์และด้ามจาก EMPI ที่ใส่หัวเกียร์ทรงลูกแก้วดราก้อนบอล ให้ความสนุกสนานในการขับสักหน่อย นอกจากนี้ยังมีเกจวัด Auto Meter บอกอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง-น้ำหล่อเย็น แรงดันน้ำมันเครื่อง และกระแสไฟ แล้วล้อมรอบคนขับด้วยโรลบาร์ 4 จุด และสุดท้ายย้ายถังเซฟตี้มาไว้ข้างคนขับ ให้สมดุลที่ดีไปอีก
บล็อค 13B เครื่องโรตียอดฮิต กับปากแตรดูดสด
ท่อตรงออกอย่างลั่น ยื่นยาวออกมาพอให้มีแรง Back pressure บ้าง
เพื่อให้สมกับคอนเซปต์ Roter Bastard คันนี้จึงใส่เครื่องยนต์โรตารี่ 13B ขนาด 2 โรเตอร์ วางหลังขับหลัง แหวกธรรมเนียมของเดิมที่เป็นวางกลาง เพราะคันนี้ใช้โนวฮาวเดียวกับโฟล์เต่า เครื่องยนต์ไม่มีอัดอากาศ ดูดสดๆผ่านปากแตรเข้าสู่พอร์ทตรง จนเรียกว่า ถ้าถอดปีกผีเสื้อออก ก็จะเห็นไฟแล่บแปล๊บๆกันเลย ด้านระบบเชื้อเพลิงก็จูนมาให้ใช้แอลกอฮอลล์ล้วนๆ ดูดเข้าด้วยปั๊มติ๊กของ Bosch 044 ควบคุมด้วย Aeromotive ไม่ให้แรงดันเกิน ส่วนรางหัวฉีดและเฮดเดอร์นี้เป็นสูตรจากอู่ OysterVW ทำเอง พร้อมต่อกับหัวฉีดขนาด 2,300 ซีซี ไปจุดระเบิดด้วยหัวเทียน NGK ที่ส่งไฟมาจากคอลย์ MSD ผ่านสายหัวเทียน MSD เช่นกัน ควบคุมจังหวะด้วยกล่อง HKS F-CON V Pro Version 3.3 เป็นงานจูนสเต็ปซิ่งที่ทำได้ถึง 270 แรงม้า ทำให้ออกตัวโดดด้วยเกียร์ธรรมดาที่มีคลัตช์ 2 แผ่นของ OS สูตรแต่งจากอู่ OysterVW มาเอง ลงไปที่เฟืองท้าย Spool แบบเต็ด 100% โดยตอนขับนั้นเจ้าของรถบอกเลยว่า ต้องเปลี่ยนเกียร์ที่ 8,000-9,000 รอบขึ้นไปเท่านั้น ไม่งั้นแรงจะเหี่ยว โอ้โห..อะไรจะจี๊ดจ๊าดได้แจ่มขนาดนี้
Weld ล้อแม็กซ์ออฟลึก ของแต่งที่สายแดร็คต้องมี
คอย์ลสปริงของ Tuner Concept แข็งจัดชัดเจนในทางตรง
ช่วงล่างก็ต้องทำตามสไตล์รถแดร็คที่ดีควรมี เริ่มที่ยางสลิคก่อนเลย กับสูตรหน้าแคบหลังกว้างของ Hoosier ขนาดหลัง 275/60 ส่วนล้อแม็กซ์ใช้ของ Weld ขอบ 15 นิ้วออฟลึกสุดลูกหูลูกตา พอก้มมองดูก็เห็นมีโช้คอัพกับสปริงของ Tuner Concept ส่วนเบรคจัดเต็มทั้ง 4 ล้อด้วยคาลิปเปอร์และจานเบรคของ ATE ส่วนผ้าเบรคใช้ของ Bendix หยุดได้เอาอยู่จริงๆ เป็นอันจบพิธีกรรมล้างอาถรรพ์ ให้ซัดลงสนามได้จริง
ฟื้นอาถรรพ์รุ่นลึกลับ จับมาลงสนาม 1/4 ไมล์
แทนที่จะปล่อยให้ตำนานบทเก่าได้จบไปอย่างลึกลับ คุณบอย Oyster กลับเลือกฟื้นขึ้นมาล้างอาถรรพ์อีกครั้ง ซึ่งเป็นงานคัสตอมที่เอาไว้อวดได้ถึงระดับนานาชาติ ฝรั่งมาเห็นก็ต้องทึ่ง ว่าคนไทยทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ กับการเลือกรุ่นสปอร์ตคลาสสิคเป็นรถวิ่งสนามแดร็คได้จริง สำหรับครั้ง ส่วนตำนานครั้งต่อไปจะเป็นรุ่นอะไรอีก คอลัมน์ RacingMagazine จะไปจับมาถ่ายให้ชมกัน แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
Tech Spec
ภายนอก
ภายใน
เครื่องยนต์
ช่วงล่าง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook