Ford Fiesta EcoBoost VS. Mazda 2 Skyactiv D รถเล็กผู้อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีระดับเวิลด์คลาส
แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์เครื่องเล็กหรืออีโคคาร์ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ต้องการมีรถยนต์ใหม่คันแรกๆ ซึ่งมีปัจจัยทั้งราคาซื้อถึงราคาซ่อมบำรุงที่ไม่สูงเกินเอื้อม, การควบคุมที่ง่าย, ประหยัดน้ำมันและใช้งานคล่องตัวในเขตเมืองอันแสนวุ่นวาย แต่ทางค่ายรถได้ซุ่มพัฒนาเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้สมรรถนะและเทคโนโลยีที่สุดขั้ว เพื่อสร้างจุดขายสำคัญที่จะตอบโจทย์ให้กับลูกค้าที่ต้องการความแรง, ตอบสนองแม่นยำ แต่ประหยัดน้ำมันและลดมลพิษได้ดี
โดยในวันนี้ทีมงาน Boxzaracing ขอเสนอรถเล็กเครื่องแรงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าสายสปอร์ต อาทิ Ford Fiesta EcoBoost ที่ชูด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Ecoboost Turbo และ All-New Mazda 2 Skyactiv D ที่ชูด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv ที่เป็นเครื่องยนต์ที่สามารถให้แรงม้าสูง มาเปรียบเทียบกันว่าทั้งการดีไซน์, เทคโนโลยีและเครื่องยนต์ฝั่งไหนจะเด่นกว่ากัน โดยเกณฑ์ในการเปรียบเทียบนั้นจะมีทั้งเครื่องยนต์ที่ให้กำลังเกินร้อยแรงม้า และรุ่นท็อปเช่นเคย
ภายนอก
ด้านหน้าตาภายนอกนั้น ความสดใหม่คงต้องยกให้กับ Mazda 2 เจเนอเรชั่นใหม่ แม้จะใช้การออกแบบจากปรัชญาการออกแบบ Kodo Design เช่นเดียวกับรุ่นพี่ๆ อย่าง Mazda 3 และ Mazda CX-5 ที่ได้เปิดตัวก่อนหน้านั้น ดังนั้น Mazda 2 ก็ต้องสร้างเอกลักษณ์พิเศษ เช่นช่องดักลมในกระจังหน้าที่ได้เพิ่มแถบสีตามสีตัวถังกับแถบโครเมียมตัว V ขนาดใหญ่ ส่วน Ford Fiesta EcoBoost ที่ออกแบบรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตแบบเรียบๆ เช่น ช่องดักลมในกระจังหน้าที่ใช้แถบโครเมียมเรียบๆ แต่กันชนกับกรอบไฟตัดหมอกที่ทำมาเก๋ดี แต่ที่สะดุดตาที่สุด คือ เสาวิทยุที่ติดตรงหลังคาหน้ารถแทนหลังรถ
แค่เปรียบเทียบหน้าตาอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องเปรียบเทียบที่มิติตัวถังและปริมาณถังน้ำมันว่าทั้งสองใครจะมีขนาดเท่าไหร่
มิติตัวถัง | Ford Fiesta (Ecoboost) |
Mazda 2 |
ยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4ประตู: 4,460x1,977x1,475 |
4ประตู: 4,320x1,695x1,470 5ประตู: 4,060x1,695x1,495 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,489 | 2,570 |
ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
4ประตู: 1,472-1,477 /1,461-1,466 5ประตู: 1,473-1,493 /1,460-1,480 |
4ประตู: 1,495 - 1,485 5ประตู: 1,495 - 1,485 |
น้ำหนักโดยรวม (กก.) |
5ประตู: 1,180 | 4ประตู: 1,142 5ประตู: 1,129 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 43 | 44 |
ภายใน
ด้านภายในห้องโดยสารนั้น ขอเริ่มจาก Mazda 2 ที่ได้ออกแบบห้องโดยสารที่เรียบง่าย ลดความซับซ้อนของระบบควบคุมต่างๆ แต่เพิ่มความล้ำสมัยด้วยระบบหน้าจอ Active Driving Display ระบุความเร็วรถที่ล้ำสมัย, หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander และระบบเชื่อมต่อ MZD Connect และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ (Bluetooth) พร้อมสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัย ส่วนระบบอื่นๆ ได้แก่ ช่องเชื่อมต่อ USB, ช่องใส่ SD Card, ช่องปลั๊กไฟสำรอง 12V เป็นต้น
ส่วน Ford Fiesta EcoBoost ที่ได้ออกแบบภายในได้เจิดจรัสสวยงามกว่าภายนอกเสียอีก โดยไฮไลท์หลักอยู่ที่ระบบ SYNC™ สุดอัจฉริยะที่คุณสามารถเล่นเพลงโปรด, ต้องการติดต่อกับใครสักคนด้วยการสั่งผ่านเสียง, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ที่สามารถเชื่อต่ออุปกรณ์ไร้สายได้มากกว่า 1 เครื่อง, ระบบดาวน์โหลดรายชื่อเบอร์ติดต่อจากโทรศัพท์มือถือสู่ตัวรถ และระบบชาร์จโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ และผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านทางจอดิจิตอล 4.2 นิ้ว เพื่อตรวจสอบข้อมูลได้แม่นยำยิ่งขึ้น(แต่ไม่มีระบบทัชสกรีนให้)
เครื่องยนต์
ด้านขุมพลังถือได้ว่าเป็นจุดขายสำคัญของรถทั้งสองรุ่นนี้เลย โดยเริ่มจากเครื่องยนต์ของ Ford Fiesta EcoBoost ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Ecoboost Turbo ขนาด 1.0 ลิตร ที่มีขนาดเล็กเท่ากับกระดาษ A4 กับ 3 กระบอกสูบ พร้อมกับปรับปรุงระบบขับเคลื่อนใหม่ยกชุด อาทิ เพลาข้อเหวี่ยงแบบมีระยะเยื้องศูนย์ที่พัฒนาให้เหมาะสมยิ่งขึ้น, ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ใช้ไอเสียจากเครื่องยนต์, ระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ที่ให้กำลังแรงบิดแบบคงที่, พร้อมระบบจ่ายน้ำมันแรงดันสูงที่ช่วยบริโภคน้ำมันได้น้อยกว่าเดิม จึงทำให้สามารถรีดสมรรถนะได้สูงถึง 125 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 170 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-4,500 รอบต่อนาที ซึ่งเครื่องยนต์ EcoBoost ใหม่นี้ ช่วยลดการใช้น้ำมันได้มากถึง 20% พร้อมช่วยลดการปล่อยไอเสียลงอีกด้วย ที่สำคัญยังการันตีด้วยรางวัลจาก International Engine of the Year ถึง 4 ปีซ้อน
ส่วนเครื่องยนต์ของ Mazda 2 Skyactiv-D มาในรูปแบบดีเซลขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดโซลีนอยด์เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่ให้ประสิทธิภาพการฉีดน้ำมันแม่นยำสูง จึงให้กำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที เผาไหม้หมดจดโดยผ่านมาตรฐานมลพิษ Euro5 ด้วยปริมาณปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม.และประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร และเพื่อการประหยัดที่สูงขึ้น มาสด้าจึงได้เพิ่มระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-stop และ i-ELOOP มาเสริมประสิทธิภาพด้วย
ระบบความปลอดภัย
ด้านระบบความปลอดภัยของ Ford Fiesta EcoBoost และ Mazda 2 นั้นมีรายละเอียดดังนี้
ระบบความปลอดภัย | Ford Fiesta (EcoBoost) |
Mazda 2 |
ระบบเบรค ABS-EBD /ระบบเสริมแรงเบรค BA |
* | 4W-ABS |
ระบบควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ |
* (ระบบESP) | * (DSC) |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) | - | * |
ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HAC) | * | * |
ถุงลมนิรภัย SRS | คู่หน้า | คู่หน้า |
พวงมาลัยยุบตัวแปรผันตามการทำงาน ของถุงลมนิรภัย |
- | * |
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ (หน้า) |
ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง | ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง |
เข็มขัดนิรภัย (หลัง) | ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ELR 2 จุด ตำแหน่งกลาง |
ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง |
สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า | * | - |
จุดยึดเบาะนั่งเด็ก | - | * |
แป้นเบรกยุบตัวได้ | - | * |
โครงสร้างนิรภัย | เสริมด้วยเหล็กกล้าโบรอน | SKYACTIV-BODY |
ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
ไฟตัดหมอกท้าย | - | - |
ไฟเบรคดวงที่ 3 | * | * |
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) |
* | * |
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
ระบบเบรค (หน้า-หลัง) | หน้า: ดิสก์เบรค หลัง: ดรัมเบรค |
หน้า: ดิสก์เบรค หลัง: ดรัมเบรค |
ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer | * | * |
ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม | * | * |
สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง | * | - |
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ | - | * |
สรุป
หากวัดกันด้วยเรือนร่างที่สดใหม่ ความได้เปรียบอาจจะไปตกอยู่ที่ Mazda 2 ผู้มีรูปลักษณ์สวยงามสปอร์ตจากภายนอก พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลแรงบิดสูงที่พร้อมพาคุณโลดแล่นได้อย่างคล่องแคล่วในทุกๆ ที่ แต่ถ้าเน้นสมรรถนะสูงจากขุมพลังระดับโลกที่กวาดรางวัล Engine of the Year มาแล้วถึง 4 ปีซ้อน ซึ่งให้ผลลัพท์ที่ความสนุก เร้าใจในทุกการขับขี่ และระบบการสื่อสารภายในที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี สวยงาม ล้ำสมัย ก็คงต้องยกให้กับ Ford Fiesta EcoBoost ดูดีกว่าเล็กน้อยในจุดนี้ แต่อย่างไรแล้ว ทั้ง 2 รุ่น คือที่สุดแห่งเทคโนโลยีในโลกยนตรกรรมขนาดย่อม ที่เราอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสครับ
ในโอกาสหน้า ทีมงาน Boxzaracing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบก็ติดตามชมให้ดี