Toyota Altis Esport VS Hyundai Elantra Sport คู่ซีดานพันธุ์สปอร์ต
รถซีดานรุ่นสปอร์ต เป็นรถรุ่นย่อยของรถรุ่นหลักที่ชูจุดเด่นทางด้านการรูปลักษณ์ที่ดุดัน ปรับสมรรถนะแรงม้าที่สูงกว่ารุ่นปกติ รวมไปถึงเสริมอ็อพชั่นพิเศษต่างๆ มากมายเพื่อเอาใจลูกค้าที่ชอบความแรงทั้งตัวรถและราคา จึงทำให้รุ่นสปอร์ตนี้มีความใกล้เคียงกับรุ่นท็อปเลยทีเดียว
โดยทีมงาน Boxzaracing ได้คัดเลือกรถซีดานสปอร์ต 2 รุ่น โดยรุ่นแรกเป็นรถซีดานเจ้าตลาดทั้งไทยและต่างประเทศอย่าง Toyota Corolla Altis ESPORT รถซีดานขนาดกลางที่ได้เพิ่มรุ่น "ESport" เพื่อยกระดับรูปลักษณ์และสมรรถนะ รวมไปถึงล่าสุดยังได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ "ESport Nurburgring Edition" ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการคว้าแชมป์สนามแข่งระดับโลก นูร์เบอร์กริง ประเทศเยอรมนีอีกด้วย
และรถที่จะท้าชิงต่อไปนี้เป็นรถซีดานสปอร์ตที่มาแบบไม่มีใครคาดคิด นั่นคือ Hyundai Elantra Sport รถซีดานสปอร์ตที่พัฒนาต่อยอดจาก Hyundai Elantra จากประเทศเกาหลีใต้ที่รูปลักษณ์และสมรรนะที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก ประกอบกับได้เปิดตัวในไทยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งได้รับความนิยมตลาดไทยที่ไม่น้อยหน้าเลยทีเดียว และก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้นด้วย
โดยทั้ง 2 คันนี้ก็พร้อมที่จะประชันเปรียบเทียบกันแล้วว่าใครจะดีที่สุด ทั้งนี้เกณฑ์การเปรียบเทียบจะคิดจากรุ่นท็อปขนาดเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรทั้งคู่
ภายนอก
ด้านดีไซน์ภายนอกของ Toyota Corolla Altis ESport และ Hyundai Elantra Sport เรียกได้ว่า "สปอร์ตทั้งคู่" แม้จะอธิบายไม่ค่อยถูกว่าใครสวยอย่างไร แต่ก็มีจุดเปรียบเทียบทางด้านหน้าตาของส่วนหน้าและหลังของตัวรถที่เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร เริ่มจากกระจังหน้าของ Toyota Corolla Altis ESport ที่ทำออกมาเป็นเส้นยาวที่เชื่อมต่อกับไฟหน้า จึงให้ความสวยงามกลมกลืน ด้านไฟหน้านั้นก็จัดครบทั้งหลอดโปรเจคเตอร์ผสมมัลติรีแฟลกเตอร์และ LED Daylight ส่วนไฟตัดหมอกเป็นแบบทรงกลม ด้านท้ายรถนั้นมีรายละเอียดอย่างไฟท้ายหลอด LED พร้อมพาดกลางด้วยแถบโครเมียม, ท่อไอเสีย 1 ท่อและกล้องมองหลังที่มีเฉพาะรุ่น ESport Nurburgring Edition เท่านั้น
ส่วน Hyundai Elantra Sport จะออกไปในทางเรียบๆ ไม่มีเครื่องประดับจัดเต็มมากเท่ากับอัลติส เอสสปอร์ต แต่ยกความหรูหราด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์และหลอด LED light guide ที่ดัดให้เข้ากับโคมโปรเจคเตอร์ แถมไฟท้ายก็ใช้หลอด LED light guide สีแดง ที่ทำให้ใครๆ มองก็นึกว่ารถหรูราคาแพงเลยทีเดียว ส่วนกระจังหน้านั้นได้ออกแบบให้คั่นกลางด้วยหกเหลี่ยมเพชรขนาดใหญ่ ด้านไฟตัดหมอกนั้นได้ออกแบบโคมเป็นสามเหลี่ยมมุมป้านที่ไม่เหมือนใคร
ทั้งคู่ใช้ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
หากเปรียบเทียบหน้าตาที่กินกันไม่ลง ก็ต้องตัดสินด้วยมิติและน้ำหนักตัวถัง โดยมีรายละเอียดดังนี้
| มิติตัวถัง | Toyota Corolla Altis ESport | Hyundai Elantra Sport |
| ยาวxกว้างxสูง (มม.) | 4,620 X 1,775 X 1,460 | 4,550 X 1,775 X 1,445 |
| ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,700 | 2,700 |
|
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
130 | 150 |
| น้ำหนักโดยรวม (กก.) | 1,275 | 1,230 |
| ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 55 | 48.5 |
| รัศมีวงเลี้ยว (เมตร) | 5.4 | 5.3 |
ภายใน
ขอเริ่มจากภายในห้องโดยสารของ Hyundai Elantra Sport กันก่อนโดยได้ออกแบบห้องโดยสารให้เหมือนรถสปอร์ตจากอนาคต การดีไซน์แผงคองโซลหน้าถึงแผงคอนโซลบริเวณเกียร์ที่ลาดเอียงเรียบตลอดแนว แผงน้าปัดอนาล็อกที่เรืองแสงได้ด้วยหลอด LED พร้อมจอแสดงผลข้อมูลแบบ OLED ที่ให้ความหรูหรา คมชัดทุกรายละเอียด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงและ Cruise Control สามารถปรับได้ 4 ทิศทางและปรับน้ำหนักการหมุนของพวงมาลัยได้ มีระบบ Smart Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทแบบเรืองแสง กระจกมองหลัง ECM ที่สามารถตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแยกอุณหภูมิที่สามารถแยกซ้าย-ขวาบริเวณที่นั่งหน้า และช่องปรับอากาศที่นั่งด้านหลัง ที่สำคัญมีระบบฟอกอากาศด้วย
ด้านระบบมัลติมีเดียนั้นมีเครื่องเล่นวิทยุแบบ 2DIN รองรับไฟล์ได้ทุกระบบพร้อมหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง 7 นิ้ว มีระบบ Wi-fiและระบบลูทูธ ระบบแผนที่นำทาง ช่องต่อ USB, AUX, SD Card และลำโพง 6 ตำแหน่ง
มาถึงคิวของ Toyota Corolla Altis ESport ด้านดีไซน์ภายในของแผงคอนโซลหน้าที่ชันส่วนบริเวณคอนโซลเกียร์จะเรียบและอยู่ลึกกว่า แผงคอนโซลแบบอนาล็อกที่เรืองแสงได้ด้วยหลอด LED Optitron และจอแสดงผลข้อมูลรถแบบ MID ขนาดเล็ก พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เสริมด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddel Shift) ไม่มี Cruise Control ระบบ Smart Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทแบบเรืองแสง กระจกมองหลังที่สามารถตัดแสงอัตโนมัติ แม้ห้องโดยสารจะไม่หรูหรา แต่แสดงถึงความร้อนแรงสไตล์สปอร์ต โดยเฉพาะรุ่น ESport Nurburgring Edition ที่ใช้หนังสีดำเดินด้วยด้ายสีแดง
ด้านระบบมัลติมีเดียนั้น เฉพาะรุ่น ESport Nurburgring Edition จะมีเครื่องเล่น DVD-CD รองรับไฟล์ได้ทุกระบบพร้อมหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง 7 นิ้ว รองรับบริการพิเศษจาก Smart G-Book พร้อมช่องต่อ HDMI, SD Card และลำโพง 6 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์
สำหรับรายละเอียดของเครื่องยนต์-ระบบส่งกำลังนั้นสามารถเปรียบเทียบได้ตามตารางต่อไปนี้
| เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง |
Toyota Corolla Altis ESport (Nurburgring Edition) |
Hyundai Elantra Sport |
| เครื่องยนต์ | 2ZR-FBE | Nu 1.8 MPI |
| ขนาดกระบอกสูบ(ซีซี) | 1,798 | 1,797 |
| แบบ | 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i |
4 สูบแถวเรียง DOHC 16V D-CVVT VIS |
| ความกว้างกระบอกสูบ Xระยะชัก |
80.5 x 88.3 | 81.0 x 87.2 |
| อัตรส่วนกำลังอัด | 10.0 : 1 | 10.3 : 1 |
| ระบบจ่ายน้ำมัน | หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI | Multi-Point |
| แรงม้าสูงสุด (แรงม้า(กิโลวัตต์)-รอบ/นาที) |
104(141) / 6,000 | 150 / 6,500 |
| แรงบิด (นิวตันเมตร(ป/ฟ)-รอบ/นาที) |
177(18.05) / 4,000 | 178 / 4,700 |
| ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด แบบ Gate type พร้อม Sequential Shift |
|
ระบบความปลอดภัย
และที่ขาดไม่ได้คือระบบความปลอดภัย มาดูกันว่าทั้ง 2 รุ่นมีระบบความปลอดภัยรายการใดบ้าง?
| ระบบความปลอดภัย | Toyota Corolla Altis ESport (Nurburgring Edition) |
Hyundai Elantra Sport |
| ระบบเบรค ABS-EBD /ระบบเสริมแรงเบรค BA |
* | * |
| ระบบการทรงตัว | - | ระบบควบคุมสเถียรภาพ (ESP) /ระบบจัดการสเถียรภาพรวม (VSM) |
| ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี | - | * |
| ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HAC) | - | * |
| ถุงลมนิรภัย SRS | คู่หน้า คนขับและผู้โดยสาร | คู่หน้า คนขับและผู้โดยสาร |
| เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ (หน้า) |
ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง | ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง |
| เข็มขัดนิรภัย (หลัง) | ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง และ 2 จุดที่นั่งกลาง |
ELR 3 จุด 3 ที่นั่ง |
| เบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lossening) |
* | - |
| กระจกบังลมหน้าอัดซ้อนนิรภัย | * | * |
| โครงสร้างนิรภัย | GOA | Ultra-high Tensile Strength |
| ไฟตัดหมอกหน้า | * | * |
| ไฟตัดหมอกท้าย | - | - |
| ไฟเบรคดวงที่ 3 | *(บนสปอยเลอร์หลัง) | * |
| ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง | * | * |
| ระบบเบรค (หน้า-หลัง) | หน้า: ดิสก์เบรค พร้อมครีบระบายความร้อน หลัง: ดิสก์เบรค |
หน้า: ดิสก์เบรค พร้อมครีบระบายความร้อน หลัง: ดิสก์เบรค |
| ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer | * | * |
| ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม | TDS | * |
| สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง | - | * |
| กล้องมองหลัง | * | * |
| เซ็นทรัลล็อก | * | * |
และนี่คือข้อมูลเปรียบเทียบของรถทั้ง 2 รุ่น 2 สัญชาติที่เรียกได้ว่าสู้จนยิบตาเลยทีเดียว ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่ผู้อ่านเท่านั้นว่าชื่นชอบแบบไหน สำหรับการแข่งขันต่อไปนั้นจะเป็นคู่ไหน สามารถติดตามได้ที่ BoxzaRacing.com นะครับ
