Ford Ranger 2015 vs Chevrolet Colorado High Country จับคู่โหดแดนมะกันมาประชันโฉม
ในโลกแห่งยานยนต์ หากเรามองถึงตลาดที่มีความคึกคักเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ช่วงนี้แต่ละค่ายทยอยส่งตัวทีเด็ดออกมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งทางฝั่งค่ายญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดตัว “ของเด็ดตระกูลใหม่” ออกมาแบบสดๆ ร้อนๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน ค่ายคู่แข่งจากแดนมะกัน ก็ได้ฤกษ์ส่ง Ford Ranger 2015 (ฟอร์ด เรนเจอร์ 2015) และ Chevrolet Colorado High Country (เชฟโรเล็ต โคโลราโด ไฮ คันทรี) มาแล้ว วันนี้ BoxzaRacing จะพาทุกท่านไปวัดพิกัดของปิคอัพสัญชาติมะกันทั้ง 2 รุ่นนี้กันครับ
เริ่มต้นกันที่ Ford Ranger 2015 ทางค่ายดีไซน์ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะ ทั้งในด้านความสะดวกและความหรูหรา โดยยังคงไว้ซึ่งความดุดันตามแบบฉบับของรถอเมริกันไว้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งทางค่ายได้ให้นิยามไว้ว่า "ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ไม่ว่าในวันทำงานหรือวันพักผ่อน" ส่วนทางด้านคู่ต่อกรอย่าง Chevrolet Colorado High Country ที่เปิดตัวในช่วงไล่เลี่ยกัน มาแบบต้องการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นล่าสุดของเชฟโรเลต ที่ให้ความสำคัญกับความโดดเด่นที่สานต่อตำนานความสำเร็จ “รถกระบะพันธุ์แกร่ง” มาโดยตลอด หากว่ากันถึงเรื่องดีไซน์ของกระบะทั้ง 2 รุ่นนี้ แน่นอนว่าแต่ละค่ายเน้นการพัฒนาและออกแบบเรือนร่างให้มีความแข็งแกร่ง ดุดันด้วยเส้นสายที่ดูบึกบึน มีเหลี่ยมสันที่ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณกระจังหน้า รวมไปถึงซุ้มล้อที่มีการดึงโป่งออกมาเพื่อรองรับกับล้อขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าจะต้องฟันธงแล้ว ค่ายฟอร์ดดูจะมีภาษีกว่าในด้านความบึกบึน แต่ถ้าต้องเอาเรื่องของความหรูหรามาเป็นตัวชี้วัดด้วย ตรงนี้...ปิคอัพจากค่ายโบว์ไทค์ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย
เครื่องยนต์กลไก คือ สิ่งที่ได้รับการพัฒนาไปมากที่สุดในแวดวงรถกระบะ ณ ปัจจุบัน ซึ่งกล้าพูดได้เลยว่า...เดี๋ยวนี้ ถ้าใครสมรรถนะไม่เจ๋งพอ ไม่มีที่ยืนในวงการอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่กับทั้ง Ford Ranger 2015 และ Chevrolet Colorado High Country เนื่องจากทั้ง 2 ค่าย ต่างก็มีหมัดเด็ดที่พร้อมมัดใจผู้บริโภค แม้จะไม่ได้เป้นแฟนคลับหรือติดตามกันมาอย่างยาวนาน โดยฝ่ายแรกมาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย โดยมีมาให้เลือกใช้งานถึง 4 บล็อก ตั้งแต่รุ่นใหญ่อย่างเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ รุ่นล่าสุด ที่พัฒนาเรื่องระบบไอเสีย ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า พร้อมแรงบิด 470 นิวตัน-เมตร บล็อกที่ 2 มาในขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ ซึ่งมาพร้อม 2 พิกัดแห่งพละกำลัง คือ 150 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตัน-เมตร หรือ 125 แรงม้า ที่เน้นเรื่องความประหยัดเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 166 แรงม้า และแรงบิด 225 นิวตัน-เมตร มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยจะจับคู่กับระบบส่งกำลังที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เริ่มตั้งแต่เกียร์ธรรมดา 5 สปีด, 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตามรุ่นย่อยที่แตกต่างกันออกไป ส่วนค่ายเพื่อนร่วมชาติมาพร้อมเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่ 2 โดยมาพร้อมความจุ 2.8 ลิตร และให้กำลัง 200 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดมหาศาล 500 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งทางค่ายการันตีว่าเป็นขุมพลังที่มีแรงบิดสูงที่สุดในรถคลาสเดียวกันจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมระบบโอเวอร์ไดรฟ์ 2 อัตราทด ส่งผลให้ Chevrolet Colorado High Country ให้อัตราเร่งที่เป็นต่อ โดยเฉพาะในยามที่ต้องการพลังในการฉุดลากน้ำหนักบรรทุก และให้ความประหยัดหากต้องการเดินทางระยะไกล หากวัดกันในรุ่นใหญ่ใจนิ่งล้วนๆ ต้องบอกว่าพละกำลังของทั้ง 2 รุ่นนั้น พอฟัดพอเหวี่ยง และให้สมรรถนะที่โดดเด่นด้วยกันทั้งคู่ การที่เครื่องยนต์พิกัด 2.8 ลิตร ทำกำลังได้ทัดเทียมเครื่อง 3.2 ลิตร อีกทั้งยังให้แรงบิดที่เหนือกว่า เครื่องยนต์บล็อกนี้ ย่อมมีความไม่ธรรมดาซ่อนอยู่แน่นอน แต่ก็อีกแหละนะ...อยู่ที่ว่าความสมูทและมนต์สเน่ห์ของขุมพลัง 5 สูบ จะมัดใจคุณได้มากขนาดไหน
ด้านช่วงล่างและระบบความปลอดภัย คือ อีกสิ่งหนึ่งที่แต่ละค่ายตั้งใจพัฒนาให้ทัดเทียมกับรถยนต์ในรูปแบบซีดาน โดยสิ่งที่แต่ละค่ายให้ความใส่ใจก็คือ สมรรถนะการทรงตัวที่โดดเด่นภายใต้ความนุ่มนวลสำหรับทุกการเดินทาง โดย Ford Ranger 2015 สามารถขับขี่ขึ้นลงทางลาดชันได้อย่างง่ายดายด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถเลือกโหมดทำงานได้ตามต้องการ ชุดเฟืองท้ายแบบมาในแบบอิเล็กทรอนิกส์ล็อก พร้อมตัวช่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา, ระบบควบคุมการบรรทุกที่ช่วยรักษาระบบควบคุมการทรงตัวขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสัมภาระ และระบบเบรกฉุกเฉินซึ่งจะส่งน้ำหนักไปที่ระบบเบรกเพื่อเพิ่มพลังในการเบรกเมื่อผู้ขับขี่เบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนทางด้าน Chevrolet มาพร้อมช่วงล่างที่ออกแบบให้ทรงตัวได้อย่างมั่นคง เกาะถนนดีเยี่ยม มั่นใจทุกการขับขี่ พร้อมเติมลูกเล่น เช่น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน, ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน รวมไปถึงตัวช่วยต่างๆ นานาในระบบเบรกที่ช่วยเติมเต็มเรื่องของสมรรถนะการทรงตัวในทุกสภาวะ ตรงจุดนี้...หากจะให้ฟันธงก็คงยาก เอาเป็นว่าไปทดลองขับที่โชว์รูมของรถทั้ง 2 ค่ายดูก่อน ฟีลลิ่งคันไหนถูกใจ ก็จัดได้ตามสะดวก เพราะลูกเล่นพอๆ กัน อยู่ที่ความชอบล้วนๆ
ห้องโดยสารของทั้ง Ford Ranger 2015 และ Chevrolet Colorado High Country ออกแบบมาโดยเน้นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้เพียงแรกเห็นก็คือ ความดุดัน เคร่งขรึม แฝงด้วยความลำสมัยจากสิ่งอำนวยความสะดวก โดย Ford Ranger มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว กลางแผงคอนโซล ส่วนหน้าปัดมาในสไตล์หน้าจอ Dual TFT ขนาบข้างมาตรวัดความเร็ว ซึ่งจะทำหน้าที่แสดงข้อมูลของตัวรถ รวมถึงสถานะของฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบความบันเทิง ระบบนำทาง และระบบปรับอากาศ ที่ทำงานร่วมกับระบบสั่งการด้วยเสียง Sync 2 ทางด้าน Colorado High Country เน้นความเหนือระดับด้วยเบาะหนังแท้สีน้ำตาล โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยคอนโซล Piano Black และยังมีระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิง MyLink เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งการสื่อสารและความบันเทิง รวมถึงมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ไว้เป็นหัวใจหลักในการสร้างสุนทรียภาพแห่งการเดินทาง อาจจะดูว่าไม่ต่างกันมากนัก แต่หากมองให้ลึก แต่ละค่ายก็มีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป ค่ายหนึ่งเน้นความล้ำสมัยด้วยลูกเล่นแพรวพวาว อีกค่ายเน้นการแต่งแต้มในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่ผสานความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัว
ต้องบอกว่าเป็นที่สูสีกันทุกมุมมองอย่างแท้จริง ไล่มาตั้งแต่ตัวรถภายนอก พละกำลังของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ความปลอดภัย รวมไปถึงเรื่องบริการหลังการขาย งานนี้หากจะต้องเลือกคงต้อง “ใช้ใจ” ในการตัดสิน เพราะทั้ง Ford Ranger 2015 และ Chevrolet Colorado High Country เป็นรถกระบะแห่งอนาคตที่เรียกได้ว่า “สมบูรณ์แบบ” ทั้งคู่จริงๆ ทุกท่านสามารถติดตามการเปรียบเทียบรถแบบเจาะลึกได้ทาง BoxzaRacing