Honda Jazz หรือ Fit 2020 จากเห็น รูปลักษณ์ที่ยังคงความเป็น Mini MPV ยอดนิยม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนอยู่ที่เรื่องการออกแบบให้เรียบง่ายและสะอาดตามากขึ้น ด้านหน้าที่เคยใช้กระจังหน้าแบบโครเมียมติดต่อกันมาหลายรุ่น ถูกแทนที่ส่วนประกอบที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าแบบ LED ส่วนด้านหลังเป็นไฟท้ายรูปทรงเรียวบาง เสา A ปรับใหม่บางลงกว่า 50 เปอร์เซน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในแนวนอน ในขณะที่กระจกหน้ารถที่กว้างขึ้นช่วยส่องแสงเข้าไปในห้องโดยสารได้มากขึ้นด้วย การบาลานซ์น้ำหนักเพื่อการขับที่ดีขึ้นด้วยการวางตำแหน่งถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ตรงกลางของตัวถังใต้ที่นั่งด้านหน้า
การตกแต่งภายใน ยังคงเน้นเรื่องการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้มากที่สุด แดชบอร์ดออกแบบเรียบง่ายไม่ต่างจากด้านนอก แต่สิ่งที่ Honda ไม่เคยละเลยคือเรื่องของเทคโนโลยีความล้ำสมัย หน้าปัดแบบ Digital ขนาด 7 นิ้วเป็นมาตฐาน เพียบพร้อมด้วยระบบความบันเทิงใหม่ พร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดแบบสมาร์ทโฟนฮอตสปอต WiFi รองรับทั้งระบบ Android Auto และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แปลกตาไปอีกแบบด้วยพวงมาลัยแบบสองก้านตามแบบ Honda e ที่นั่งกว้างขึ้น และมีโครงสร้างแบบแผ่นรองแทนสปริง ช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าในการเดินทางไกล ในขณะที่เบาะหลังได้รับการปรับปรุงให้มีเบาะรองหนาขึ้น
เรื่องของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังของ Honda Jazz หรือ Fit 2020 ใหม่นั้นเป็นการผสมผสานของต้นกำเนิดพลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แต่ทั้งนี้น่าจะเป็นรุ่นที่จำหน่ายในตลาดยุโรป ซึ่ง Honda Jazz หรือ Fit 2020 นี้จะเปิดตัว e: HEV อันเป็นระบบส่งกำลังของ Honda ในตลาดยุโรป แน่นอนว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ e: Technology ของ Honda ที่จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าในอนาคตทั้งหมดของ Honda
สำหรับ Honda Jazz หรือ Fit 2020 ในตลาดญี่ปุ่นเองมีการแบ่งรุ่นย่อยไว้ถึง 4 รุ่น คือ Basic, Ness, Luxe และ Crosstar ซึ่งมีลักษณะคล้าย SUV และเป็นรุ่นเดียวที่มีกระจังหน้าแตกต่างจากทุกรุ่น อีกทั้งราวหลังคา และแผ่นกันกระแทกใต้รถส่วนภายในมีลักษณะคล้ายกับรุ่น Basic ส่วนรุ่น Ness นั้นจะให้ความรู้สึกที่สนุกด้วยการเติมแต่งด้วยสีสันสดใส รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วในแบบสปอร์ต ในขณะที่รุ่น Luxe ดูหรูหราด้วยการตกแต่งภายในด้วยหนังสองสี และเช่นเดียวกันกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
Honda Jazz หรือ Fit 2020 ใหม่ นอกจากจะมีระบบเบรกที่ลดการชนด้านหน้า ที่ทำงานกับระบบตรวจจับคนเดินเท้า คนขี่จักรยานแล้ว ยังสามารถเบรกเมื่อมียานพาหนะตัดหน้าหรือเลี้ยวเข้ามาในเส้นทางของรถอีกด้วย รวมไปถึงระบบ Adaptive Cruise Control สามารถทำงานโดยการจับภาพจากกล้องรุ่นใหม่ แม้ว่าการจราจรคับคั่ง หรือในความเร็วต่ำ ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ Lane Keep Assist ที่สามารถทำงานได้ดีทั้งบนถนนในเมือง และในชนบท รวมถึงทางหลวงหลายเลน การทำงานของระบบนี้ได้รับการพัฒนาให้ที่ดีขึ้น ล่าสุดระบบไม่ต้องอาศัยขอบถนนหรือเครื่องหมายข้างถนน ทว่างานนี้บ้านเราคงต้องรถจนถึงปีหน้าฟ้าใหม่กว่าจะได้เห็นตัวจริง และใช่ว่าจะได้สเปคเดียวกันกับญี่ปุ่น
Cr. carscoops.com
