หลีกเลี่ยงได้ไม่จริงๆ กับสองซีดานสปอร์ต จากสองค่ายใหญ่ ที่ต้องโคจรมาพบกันในทุกเจนเนอเรชั่น ซึ่งเรายกให้เป็นมวยคู่เอกตลอดกาล ระหว่าง Honda Accord กับ Toyota Camry งานนี้ต้องเทียบกันทีละจุดว่า ดีหรือด้อย โดยเฉพาะในรุ่น Hybrid ใหม่
Exterior
ในการเปรียบเทียบครั้งนี้เราเลือกรุ่น Top Line ของทั้งสองแบรนด์คือรุ่น Hybrid โดยทาง Toyota เป็นรุ่น All New Camry Hybrid 2.5 HV Premium ส่วนของ Honda เป็นรุ่น All Accord Hybrid Tech จากที่ Toyota All New Camry ที่ชิงเปิดตัวก่อนทั้งรุ่น Hybrid และรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดาไปก่อน และครั้งนี้ Toyota สร้างความแปลกใจได้ไม่น้อย กับภาพลักษณ์ใหม่หมดจรด หลีกหนีรูปแบบเดิมไปหมด โดยรุ่นนี้มีแนวคิดใหม่ Unprecedented Change ที่ออกแบบให้ทุกส่วนของรถ และคน เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน โดดเด่นสุดอยู่ที่เรื่องของโครงสร้างใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำจากรุ่นก่อน และที่สำคัญรุ่นนี้มีการเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ เพื่อรองรับแรงบิดที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน แน่นอนว่า Toyota All New Camry ที่จำหน่ายในไทยนี้เป็นสเปคเดียวกับที่จำหน่ายในยุโรปและอเมริกา ซึ่งทาง Toyota เองตั้งเป้าไว้ 650 คัน/เดือน ซึ่งเวลานี้ทำยอดได้ 1,000 คัน/เดือน เฉพาะในรุ่น All New Camry Hybrid 2.5 HV Premium
ดีไซน์ของ Honda ได้รับอิทธิพลจากสปอร์ตในค่ายอย่าง NSX
เรากลับมาพูดถึงเรื่องของตัวรถกันต่อ ในส่วนของดีไซน์ Toyota All New Camry ทำออกมาได้ดี ทิ้งความเป็นซีดานแบบเดิม สปอร์ตมากขึ้นตั้งแต่หน้าจรดท้าย ไฟหน้า LED แบบ HV พร้อม DRL มาพร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจังหน้าใหม่ Low Sport Grille กระจกมองข้างแบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ Hydrophilic ไฟเลี้ยว และไฟท้ายเป็น LED เช่นกัน เส้นสายด้านข้างดูลงตัวไหลลื่นกว่าเดิมมากทีเดียว หรูหราด้วยเส้นโครเมี่ยมรอบกรอบกระจก
ทางด้าน Honda All New Accord เองก็โดดเด่นไม่น้อยหน้า โดยการเปิดตัวด้วยรุ่นเครื่องเล็กติด Turbo มาให้จากโรงงาน สร้างความแปลกใจให้กับผู้ใช้ได้ไม่น้อย โดยทางค่ายตั้งใจให้มีกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจึงนำเอารุ่น Turbo ออกมาจำหน่าย จากนั้นเป็นรุ่น Hybrid ที่ตามมา ซึ่งต้องบอกว่ารุ่น Hybrid นี้มียอดจองก่อนเปิดตัวด้วยซ้ำ โดยทาง Honda ตั้งเป้าสำหรับรุ่น All Accord Hybrid Tech ไว้ที่ 9,000 คัน ต่อปี และล่าสุดมียอดทะลุ 4,500 คันไปแล้ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า Honda เองยังได้รับการตอบรับไม่ต่างจากเดิม
ทีนี้เรามาดูกันว่ารุ่นใหม่นี้มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง เริ่มจากดีไซน์ที่ไม่ได้น้อยหน้าคู่แข่งซึ่งได้รับอิทธิพลจากสปอร์ตในค่ายอย่าง NSX อีกทั้งยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Absolute Confidence มุ่งเน้น 3 ด้าน คือ Dynamics, Captivating และ Upscale จะเห็นว่ารุ่นนี้มีกันชนที่ใหญ่ให้ความรู้สึกดุดัน แต่ลงตัวกับชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อม DRL เช่นกันกับ Toyota ที่มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ รวมถึงระบบ AHB ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง ชุดไฟหน้าสอดรับกับกระจังหน้าโครเมี่ยม เส้นสายคมชัด หรูหรากับเส้นโครเมี่ยม พาดผ่านตัวถังด้านข้างที่ขอบกระจก และชายล่าง รับกับชุดไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตแบบ LED ในส่วนแรกนั้นจะเห็นว่าทั้งสองรุ่นมีรายละเอียดที่ใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ดีไซน์ การใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ ตลอดจนการตกแต่งซึ่งทำออกมาได้ดีไม่ต่างกัน
เทคโนโลยีโครงสร้าง G-Con (G-Force control) ยังคงเดิม แต่ Honda รุ่นใหม่นี้ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีกขั้นกับเทคโนโลยีการเชื่อมหลังคาด้วยเรเซอร์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดการโค้งงอของชิ้นส่วนได้มากขึ้นกว่าปกติ อีกทั้งยังกระจายแรงที่เกิดขึ้นจากการชนไปยังพื้นที่ที่กว้างกว่า ทำให้ห้องโดยสารได้รับผลน้อยที่สุด แน่นอนว่าผลจากการพัฒนาใหม่นี้ทำให้ตัวรถมีการเปลี่ยนแปลง โดยความสูงของตัวรถนั้นต่ำลงมาจากเดิม
Interior
ขยับเข้ามาดูที่ภายในห้องโดยสาร ความกว้างของ Honda All New Accord ยังคงได้รับการกล่าวถึง เป็นผลจากการดีไซน์ในแบบแนวนอน รวมถึงการจัดวางอุปกรณ์ที่ค่อนข้างลงตัว เมื่อเข้าไปแล้วความรู้สึกโปร่งโล่งซึ่งหลายคนอาจมองว่าไม่น่าจะกว้างเมื่อมองจากภายนอก วัสดุคุณภาพสูงถูกนำมาใช้ในรุ่นนี้มากขึ้น ทั้งหนังแท้ และวัสดุสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติอย่าง ไม้ และโลหะ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC With LSF และที่แตกต่างจากทั่วไป คือแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัยที่ไม่ได้มีไว้ปรับเปลี่ยนเกียร์ แต่เอาไว้ชะลอความเร็ว เรียกระบบนี้ว่า Deceleration Paddle Selectors
ดีไซน์ และการจัดวางอุปกรณ์ในแนวนอน ทำให้ภายในของ Honda ดูกว้าง
ระบบเสียง Honda All new Accord ใช้แบบ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการสตาร์ทเครื่องยนต์ และสั่งเปิดเครื่องปรับอากาศระยะไกลด้วยกุญแจรีโมท Remote Engine Start และช่องต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งของ Honda ถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งต่ำแบบซูเปอร์คาร์ ทว่าให้ทัศนวิสัยชัดเจน แต่ต้องปรับตัวเข้าหากันเล็กน้อย เบาะนั่งนี้ยังสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางแต่เฉพาะฝั่งคนขับ พร้อมระบบ Memory Seat ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone พร้อมช่องส่งอากาศเย็นไปด้านหลัง พื้นที่ตอนหลังกว้างตามแบบฉบับของ Honda และยิ่งกว้างขึ้นเมื่อเป็นรุ่นใหม่นี้ ตัวพนักพิงพับได้ทั้งชิ้นเมื่อต้องการเพื่อพื้นที่ใช้สอย พร้อมที่ท้าวแขนพร้อมช่องวางแก้ว เปิดทะลุไปยังท้ายรถ ที่เก็บสัมภาระถือว่าใหญ่ และน่าจะมีพื้นที่มากสุดในรถกลุ่มเดียวกัน
HUD แสดงผลสะท้อนที่กระจกมีเหมือนกันทั้งสองรุ่น
เปลี่ยนมาดูด้าน Toyota All New Camry เลือกวัสดุในการตกแต่งที่แทบไม่ต่างกันมีทั้งหนังและวัสดุสังเคราะห์ รวมถึงพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมด้วย Paddle Shift ไม่ต่างจากคู่แข่งแต่ใช้สำหรับเปลี่ยนเกียร์ตามเดิม เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมบันทึกตำแหน่งไม่ต่างกัน และมากกว่าคู่แข่งเล็กน้อยกับระบบดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support ส่วนระบบปรับอากาศไม่ต่างกัน เป็นแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา หรือ Dual Zone ระบบแสดงข้อมูลของทั้งสองรุ่นเป็นมาตรวัดแบบ TFT ขนาด 7 นิ้วเท่ากัน ถือว่าใหญ่มากสำหรับรถในยุคนี้ ด้านหลังของ Toyota ทำได้ดีไม่น้อย ให้ความสะดวกด้วยเบาะนั่งกว้าง กับที่ท้าวแขนพร้อมช่องวางแก้ว และแผงควบคุมระบบปรับอากาศ รวมถึงการปรับเบาะไฟฟ้า และที่โดดเด่นคือเรื่องของระบบเครื่องเสียง Bose ที่ทาง Toyota ภูมิใจนำเสนอ
Performance
เครื่องยนต์ของทั้งสองค่ายมีพื้นฐานต่างกัน แต่ระบบ Hybrid แทบไม่ต่างกัน ทาง Honda All New Accord มาพร้อมเครื่องยนต์ Sport Hybrid i-MMD ซึ่งพัฒนาใหม่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร (1,993 ซีซี.) i-VTEC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC กำลังสูงถึง 142 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงอยู่ที่ 175 นิวตัน-เมตรที่ 3,500 รอบ/นาที เด่นด้วยระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ PGM -FI มาพร้อมเทคโนโลยีจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผ้าไหม้ ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ E-CVT อัตราทดแปรผันแบบต่อเนื่อง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 135 กิโลวัตต์หรือประมาณ 180 แรงม้า แรงบิดของมอเตอร์สูงที่ 315 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ออกตัว สำหรับ Honda นั้นใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์อยู่ที่ 210 แรงม้า
ทาง Toyota All new Camry กับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร (2,487 ซีซี.) 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE ให้กำลังสูงสุดที่ 174 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด EEC net 221 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 3,600 -5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมโหมด Eco Drive, Normal Drive และ Sport Drive แบตเตอรี่แบบนิกเกิลมาตัลไฮดราย ขนาด 6.5 แอมแปร์-ชั่วโมง คิดเป็นหน่วยเดียวกันกับ Honda จะเห็นว่าทาง Toyota สูงกว่าเล็กน้อย ซึ่งให้กำลังรวมทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์อยู่ที่ 206 แรงม้า
เครื่องยนต์ Sport Hybrid i-MMD ของ Honda
เครื่องยนต์ของ Toyata พร้อมพร้อาระบบ D-4S VVT-iE
ระบบช่วงล่างทั้งสองรุ่นต่างพัฒนาขึ้น และมีรูปแบบแตกต่างกันซึ่งเป็นผลมาจากตัวโครงสร้างที่ต่างกันนั่นเอง โดยทาง Toyota ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังแบบอิสระแบบปีกนกคู่ และระบบช่วงล่างของ Toyota All New Camry นี้ที่ได้รับการพัฒนาพร้อมกับโครงสร้าง TNGA มีจุดเด่นตรงที่มีการใช้เทคโนโลยีระบบลูกปืน Bearing ซึ่งลดการสั่นสะเทือนได้มากกว่าเดิม ขนาดล้อ 17 นิ้ว ทางด้าน Honda มีระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบจาก A Arm เป็น L Arm ที่ให้การขยับตัวน้อยกว่า ส่งผลให้เรื่องความแม่นยำในการเลี้ยว และทรงตัวดีขึ้น งานนี้ Honda ใช้ล้อขนาด 18 นิ้วในรุ่น Top Line
Safety
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทั้งสองค่ายให้ความสำคัญไม่แพ้กัน โดยทาง Honda All New Accord Hybrid Tech มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ที่คู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลม พร้อม Honda Lane Watch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนที่แสดงผลผ่านหน้าจอ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว โดยใช้ Multi-angle Rearview Camera ช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยเมื่อถอยหลัง สามารถเลือกมุมกล้องได้ทั้งแบบ 130 องศา หรือ 180 องศา, Driver Attention Monitor ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าผ่านการควบคุมพวงมาลัย ระบบเบรคมือไฟฟ้าติดตั้งบริเวณ Center panel ที่ใช้งานง่ายเพียงนิ้วดึงสวิทช์, Brake Hold ระบบหน่วงเบรคต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ ป้องกันรถเคลื่อนตัว,ระบบเบรก ABS และ EBD หรือระบบกระจายแรงเบรกระหว่างล้อ สร้างความสมดุลกับน้ำหนักรถ, ระบบ VSA ควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS สามารถหยุดรถให้อยู่ในตำแหน่งเดิม และช่วยให้ออกตัวมีความนุ่มนวลมากขึ้น, ESS สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเหยียบเบรคกะทันหัน และระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจอยู่ห่างตัวรถ Walk Away Auto Lock และโดดเด่นด้วยระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก Honda Smart Parking Assist System
สั่งเปิดเครื่องปรับอากาศระยะไกลด้วยกุญแจรีโมท Remote Engine Start ของ Honda
Toyota เองก็ไม่น้อยหน้ากับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่อยู่ในรุ่น All New Camry 2.5 HV Premium ได้ติดตั้งถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ม่านด้านข้าง, หัวเข่าด้านคนขับ กล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อมแนะนำเส้นทางการถอย พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA อีกทั้งระบบ BSM ที่ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง สัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน ESS กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณเสียงเตือนการโจรกรรม ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD ,ระบบเสริมแรงเบรก BA อีกทั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC รวมไปถึงระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง TPWS
หากดูจากรายละเอียดคร่าวๆ ที่เห็นต้องบอกว่ากินกันไม่ลง แม้ว่า Honda จะมีเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า แต่กลับให้กำลังรวมในการขับเคลื่อนที่สูงกว่า ในขณะที่ Toyota ชูจุดเด่นเรื่องของเทคโนโลยีโครงสร้างใหม่ TNGA แม้น้ำหนักจะน้อยลงแต่ก็ยังมากกว่าคู่แข่งอยู่ถึง 82 กิโลกรัม อีกทั้งระบบความปลอดภัย หรือระบบช่วยเหลือการขับก็แทบไม่ต่างกัน จะมีก็ทาง Honda ที่เสริมความสะดวกด้วยระบบถอยจอด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในราคาที่เท่ากันอย่างน่าแปลกใจ
แทบเป็นเรื่องปกติของสองค่ายยักษ์ใหญ่ กับสองรุ่นรถยนต์ที่ถูกจับมาเทียบกันทุกครั้งทุกครา ระหว่าง Honda Accord กับ Toyota Camry สองซีดานสปอร์ต ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่รุ่นแรกกระทั่งปัจจุบัน และทั้งสองแบรนด์ยังพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีความล้ำสมัย ตลอดเรื่องความปลอดภัยที่ต้องเทียบกันเป็นจุด ซึ่งทั้ง Toyota และ Honda ต่างมีแนวทางที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดของทั้งสองค่าย แต่ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกันในเรื่องใด ประโยชน์ทั้งหมดก็ตกอยู่กับผู้ใช้งานทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าจะเลือกรุ่นไหนมาตอบสนองความต้องการได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดเท่านั้น
Honda All New Accord Hybrid Tech ราคา 1,799,000 บาท
Toyota All New Camry 2.5 Hybrid HV Premium ราคา 1,799,000 บาท
