เขียนโดย: boytaku boxza

เมื่อ: 22 มีนาคม 2562 - 10:48

Honda Accord - Nissan Teana - Toyota Camry ประชันพรีเมี่ยมซีดานเจ้าตลาด ใครเด่น ใครคุ้ม ?

All-New Honda Accord

 

          หลังจากที่เปิดตัว Nissan Teana และ Toyota Camry ซึ่งเป็นรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมซีดาน D-Segment และได้ทำตลาดในเมืองไทยด้วยโฉมใหม่ ออพชั่นที่ทันสมัยหรูหรายิ่งขึ้น ทาง Honda ก็ไม่น้อยหน้าเปิดตัว All-New Honda Accord ที่ได้รับการยกระดับทั้งบุคลิก เทคโนโลยี และสมรรถนะใหม่ โดยเฉพาะการอัพเกรดขุมพลังไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซินใหม่ที่มีความจุเครื่องยนต์เล็กเพียง 1.5 ลิตร พร้อมพ่วงเทอร์โบให้แรง และเด่นกว่าใคร งานนี้ตลาดรถยนต์ D-Segment ในไทยจะร้อนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งในครั้งนี้จะนำมาเปรียบเทียบด้วยกันทั้ง 3 รุ่นแบบจุใจ เพื่อดูกันว่าใครจะเด่น ใครจะคุ้มกว่ากัน

 

Nissan Teana

 

Toyota Camry

 

           โดยรถที่จะนำมาเปรียบเทียบในครั้งนี้จะเน้นไปที่กลุ่มเครื่องยนต์เบนซินกันก่อน โดยฝั่งฮอนด้า ได้ส่งรุ่น Honda Accord Turbo EL ฝั่งนิสสัน ส่ง Nissan Teana 2.5 XV NAVI ส่วนทางโตโยต้าก็ได้ส่ง Toyota Camry 2.5 G ซึ่งราคาค่าตัวจะอยู่ระหว่าง 1.5 ล้าน แต่ไม่เกิน 1.7 ล้าน 

 

ภายนอก

 

          Honda Accord มาพร้อมกับบุคลิกใหม่ มอบความโฉบเฉี่ยวด้วยตัวถังหลังคาลาดท้ายสไตล์คูเป้ สะท้อนความทันสมัยด้วยระบบไฟส่องสว่างด้วยไฟ LED ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟส่องกลางวัน ไฟท้าย ไฟตัดหมอก และไฟเลี้ยว โดยไฟหน้ายังได้มาพร้อมกับระบบเปิด - ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ส่วนออพชั่นมาตรฐาน จะมีทั้ง กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ โดยที่กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดทันทีเมื่อถอยหลัง, ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ, ท่อไอเสียคู่ เป็นต้น

 

 

          Nissan Teana ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ภายใต้แนวคิด "Energetic Flow" สะท้อนความทันสมัยและความหรูหรา ด้วกระจังหน้าแบบใหม่, โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟ LED Daylight ทรงบูมเมอแรง, หลังคาซันรูฟพร้อมระบบควบคุมแบบ One Touch, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟตัดหมอก, ไฟเบรกดวงที่ 3 และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

 

 

          Toyota Camry เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้ใช้แพลตฟอร์ม TNGA ใหม่ จึงทำให้รถรุ่นนี้ถ่ายทอดความสปอร์ตเข้มเต็มพิกัด หรูหรายิ่งขึ้น สำหรับออพชั่นภายนอกเด่นๆ จะได้รับทั้งไฟหน้า LED พร้อม LED Day Time Running Lights, หลังคามูนรูฟ, กระจกหน้า AC HSEA (Acoustic High Solar Energy Absorb), กระจกมองข้างแบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic) พร้อมไฟเลี้ยว, ไฟตัดหมอก, ไฟเบรกดวงที่ 3, ท่อไอเสียคู่ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว  

          เรียกได้ว่าภายนอกทั้ง 3 รุ่น ก็ได้รับการออกแบบให้ดูดีเฉพาะตัว สิ่งหนึ่งที่จะนำมาเปรียบเทียบก็คือ รายละเอียดมิติตัวถัง โดยรถทั้ง 3 รุ่นมีรายละเอียดด้วยกันดังนี้

 

มิติตัวถัง Honda Accord  Nissan Teana Toyota Camry
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 4,894 x 1,862 x 1,450 4,875 x 1,830 x 1,485 4,885 x 1,840 x 1,445
ระยะฐานล้อ (มม.) - 2,775 2,825
ความยาวระหว่างล้อคู่หน้า - คู่หลัง (มม.) -  1,585 -
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.)  131.3  135 140
น้ำหนัก (กก.)  1,464  1,532 1,550
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 56 65 60

 

ภายใน

 

          Honda Accord ได้รับการออกแบบภายในใหม่ที่เน้นความเรียบง่าย หรูหรา และแฝงความสปอร์ตล้ำเหนือระดับ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น

 

 

          Nissan Teana ยกระดับความโดดเด่นด้วยหน้าจอแบบ 3 มิติ (3D Display) ขนาดใหญ่ 4 นิ้ว ที่วางในตำแหน่งมองเห็นได้เด่นชัด ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย, ระบบเครื่องเสียงจาก BOSE ที่มาพร้อมซับวูฟเฟอร์และลำโพง 9 จุดรอบคัน ให้เสียงที่ทรงพลัง, เทคโนโลยีสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทอัจฉริยะ และยังสามารถสั่งเปิดระบบปรับอากาศในรถได้เพียงกดปุ่ม และจออินโฟเทนเมนต์ที่รองรับการฉายภาพจากกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง เป็นต้น 

 

 

          ด้านออพชั่นมาตรฐานที่มีอยู่ใน Toyota Camry ประกอบไปด้วย หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอ HUD แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรก ABH, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าด้านคนขับ (Lumbar Support), เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนไฟฟ้า และจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (ฺBluetooth) และปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย

 

เครื่องยนต์

 

           Honda Accord มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Di VTEC Turbo พร้อมหัวฉีดน้ำมันแบบ Direct Injection ผสานกับเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว มอบสมรรถนะสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด 243 นิวตัน-เมตร ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT

           ส่วนขุมพลังไฮบริดนั้นจะเป็นระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า

 

 

           Nissan Teana ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว C-VTC ความจุ 2,488 ซีซี. รหัส "QR25DE" ให้สมรรถนะสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 234 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT

 

 

           Toyota Camry ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S ความจุ 2,487 ซีซี. รหัส "A25A-FKB" ให้สมรรถนะสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที รองรับการใช้เชื้อเพลิง E85 และ E20 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

          ส่วนขุมพลังไฮบริดนั้น ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์รหัสใหม่ A25A-FXS ระบบไฮบริด ความจุกระบอกสูบ 2.5 ลิตร ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้กำลังรวม 211 แรงม้า ประกบกับเกียร์ E-CVT ควบคู่กับการพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ที่ให้กำลังสูงขึ้น

 

ระบบความปลอดภัย 

          เนื่องด้วยเป็นยนตรกรรม D-Segment ที่มาพร้อมกับการบรรจุเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานที่ทันสมัยและครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ABS EBD และ BA, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS), โครงสร้างนิรภัย, เข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เป็นต้น แต่รถทั้ง 3 รุ่น ก็ได้จัดออพชั่นระบบความปลอดภัยที่แตกต่างกัน และมาพร้อมเทคโนโลยีสำคัญอันเป็นจุดขายของรถอีกด้วย โดยมีทั้ง

 

 

          Honda Accord จะได้รับเฉพาะ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist), ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ส่วนเทคโนโลยี Honda Sensing จะมีในรุ่นไฮบริดเท่านั้น

 

 

          Nissan Teana : มาพร้อมแพ็คเกจเทคเทคโนโลยีความปลอดภัย ประกอบด้วย กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM), เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD), เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) และเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW), ระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว ATC เป็นต้น

 

 

          Toyota Camry : แม้จะไม่ได้รับแพ็คเกจ Toyota Safty Sense เหมือนเวอร์ชั่นไฮบริด แต่ชดเชยด้วยถุงลมนิรภัย 7 จุด โดยมีส่วนของถุงลมป้องกันหัวเข่าคนขับเพิ่มมาด้วย (ในรุ่นไฮบริดจะมีถุงลมด้านข้างบริเวณเบาะโดยสารด้านหลังอีก 2 ตำแหน่ง เป็น 9 ตำแหน่ง), ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA เป็นต้น

 

ราคา

          Honda Accord 1.5 Turbo EL ราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท

          Nissan Teana รุ่น 2.5 XV NAVI ราคา 1,674,000 บาท

          Toyota Camry รุ่น 2.5 G ราคา 1,589,000 บาท

 

สรุป

 

          Honda Accord เป็นรถสปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน D-Segment ที่มาเปิดตัวใหม่ๆ ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ด้วยตัวถังรูปทรงท้ายลาดเช่นเดียวกับ Honda Civic ร่วมกับการออกแบบรายละเอียดตัวรถที่สะท้อนความสปอร์ตล้ำ พร้อมตัวถังที่ใหญ่กว่าใคร ขุมพลังแม้จะเล็กสุดแต่ก็ไม่ผิดหวังด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตรที่ให้สมรรถนะมากถึง 190 แรงม้า รวมไปถึงออพชั่นระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เพิ่มความอุ่นใจมากขึ้น และคาดว่าราคาจะถูกที่สุดในคู่เปรียบเทียบ โดยระบุว่าจะมีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งคงต้องรอดูราคาจริงๆ กันต่อไป

 

 

          Nissan Teana แม้จะไม่มีเครื่องยนต์ไฮบริดเหมือน 2 ค่าย แต่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ แบบจัดเต็มในรุ่นท็อปสุด ทั้งกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) กับเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) รวมไปถึงเพิ่มความสะดวกสบายด้วยหน้าจอแบบ 3 มิติ (3D Display) ขนาดใหญ่ 4 นิ้ว, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ แถมยังได้รับชุดเครื่องเสียงจาก BOSE ติดตั้งให้สำเร็จรูปจากโรงงานเลย

 

 

          ส่วน Toyota Camry มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร A25A-FKB ที่ให้สมรรถนะมากกว่าใครด้วยกำลังสูงสุด 209 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ควบคู่กับการการบรรจุออพชั่นที่เหมือนได้สัมผัสรถยนต์หรูเลยทีเดียว เช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรก ABH, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe แถมถุงลมนิรภัยก็มากกว่าคู่เปรียบเทียบด้วยถุงลมนิรภัย 7 ใบ เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีเพียง 6 ใบเท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นเจ้าของได้ในราคาไม่ถึงล้านหก

          และนี่คือ 3 รถสปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน D-Segment ที่ครองตลาดในเมืองไทยกับการเปลี่ยนโฉมใหม่ให้ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ซึงรถแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่น และความคุ้มค่าที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ที่ใช่ของแฟนๆ ก็หวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะมีประโยชน์ในการพิจารณาเลือกหารถยนต์คลาสนี้ สำหรับโอกาสหน้าจะเปรียบเทียบรถรุ่นใดนั้นอย่าลืมติดตามชมกันให้ดีนะครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook