เขียนโดย: boytaku boxza

เมื่อ: 21 ธันวาคม 2561 - 11:51

Nissan Terra vs. Ford Everest ส่องไม้เด็ด PPV ขับเคลื่อนสี่ล้อโฉมใหม่ ใครเด่น ใครล้ำ ใครแรง ชมกันได้

 

          ในปี 2018 ถือได้ว่าเป็นปีของรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานจากรถกระบะหรือ PPV อย่างแท้จริง เนื่องจากมีรถรุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวกันอย่างไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นก็คือ Nissan Terra รถอเนกประสงค์ PPV จาก Nissan ได้พัฒนา และนำเสนอแก่แฟนๆ เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนๆ อยู่ไม่น้อย และคู่เปรียบเทียบที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ Ford Everest โฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ในครั้งนี้มาพร้อมกับขุมพลังใหม่แรงจัดจ้านยิ่งกว่าเดิม พร้อมออพชั่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มความประทับใจยากจะลืม

 

 

          สำหรับรุ่นที่จะนำมาเปรียบเทียบในครั้งนี้ ฝั่ง Nissan ส่งรุ่น Nissan Terra 2.3 VL 4WD 7AT ส่วน Ford ส่งรุ่น Ford Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT รุ่นท็อปขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งคู่

ภายนอก

 

          บุคลิกภายนอกของ Nissan Terra นั้นยังคงกลิ่นอายของ Nissan NP300 Navara อยู่ระดับหนึ่ง แต่ได้รับการปรับรายละเอียดให้มีบุคลิกเฉพาะตัว สะท้อนทั้งความแข็งแกร่งและความหรูหรา ด้านออพชั่นต่างๆ ได้รับการบรรจุอย่างครบครัน ตั้งแต่ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์พร้อมไฟหรี่และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เสริมด้วยไฟ LED Daylight, ไฟตัดหมอก, ไฟท้าย, ราวหลังคา, บันไดข้าง, กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวถังพร้อมระบบพับด้วยไฟฟ้าและไฟเลี้ยว LED รวมไปถึงกันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 

 

 

          สำหรับ Ford Everest ได้รับการปรับดีไซน์กระจังหน้าโครเมียม พร้อมแถบทั้ง 3 แถบใหม่ให้บุคลิกที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ครบครันด้วยออพชั่นสำหรับภายนอก เช่น ไฟหน้า HID โปรเจคเตอร์พร้อมไฟหรี่และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เสริมด้วยไฟ LED Daylight, ไฟตัดหมอก, ไฟท้าย LED, หลังคาพาโนรามิคมูนรูฟ, ราวหลังคา, บันไดข้าง, กระจกมองข้างครอบโครเมียมพร้อมระบบพับด้วยไฟฟ้าและไฟเลี้ยว LED, ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, ไฟส่องสว่างข่างตัวรถ เป็นต้น

ด้านภายนอกแตกต่างที่บุคลิก งานนี้ต้องเปรียบเทียบมิติตัวถัง เพื่อดูกันว่ารุ่นใดจะมีตัวถังที่ใหญ่ หรือใครระยะฐานล้อจะยาวกว่ากัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

มิติตัวถัง Nissan Terra  Ford Everest
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 4,885 x 1,865 x 1,835 4,893 x 1,862 x 1,836
ระยะฐานล้อ (มม.)  2,850 2,850
ระยะห่างระหว่างล้อหน้า - หลัง (มม.)  1,565 - 1,570 1,560 - 1,565
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) 225 225
น้ำหนักตัวถัง (กก.) 2,188 ไม่ได้ระบุ

 

ภายใน

 

          แม้ว่าภายในของ Nissan Terra จะให้กลิ่นอายของ Nissan NP300 Navara ในระดับหนึ่ง แต่ได้รับการออกแบบให้สะท้อนถึงความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความล้ำสมัย โดยชูระบบพับเบาะอัตโนมัติ (1-Touch Remote Fold and Tumble Seats) ที่สามารถสั่งการได้จากการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ประกอบกับรูปแบบพับเบาะแบบพับขึ้นพิงหลังเบาะหน้า ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกได้มากขึ้น, ระบบปรับอากาศกระจายความเย็น 360 องศา, ทีวีบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่ติดตั้งมาจากโรงงานโดยตรง, ระบบอินโฟเทนท์เมนผ่านจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับ USB / HDMI และลำโพง 6 จุด รวมไปถึงเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) ที่สามารถเลือกโฟกัสแสดงภาพในห้องโดยสาร หรือด้านหลังรถ และยังทำหน้าที่เป็นจอฉายภาพจากกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง หรือ Intelligent Around View Monitor (IAVM) อันเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีอัจฉริยะ Nissan Intelligent Mobility

 

 

          Ford Everest ในรุ่นปรับโฉมนี้ นอกจากปรับรายละเอียดภายในให้เป็นโทนสีดำแล้ว ยังได้รับการอัพเกรดเทคโนโลยีอัจฉริยะ อาทิ ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System), ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ, ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถนอกจากนี้ ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ที่ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน

 

เครื่องยนต์ 

 

          Nissan Terra ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ความจุ 2.3 ลิตร รหัส YS23DDTT แบบ Twin-Turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวล (M mode)

 

 

          Ford Everest ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว  2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 - 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

 

 

ระบบความปลอดภัย

          Nissan Terra มาพร้อมกับคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย Nissan Safety Shield Technologies ที่ปกป้องถึง 3 ระดับ ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งชิ้นส่วนไปจนถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตา, เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกช่องนอกเลน, กระจกมองหลังอัจฉริยะที่สามารถเลือกแสดงภาพได้ตั้งแต่ภายในห้องโดยสาร ทิวทัศน์ด้านหลัง หรือฉายภาพจากกล้องรอบทิศทาง 360 องศา ซึ่งรถรุ่นอื่นจะฉายผ่านจออินโฟเทนเมนต์แทน, ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุดรอบห้องโดยสาร, เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชันและควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน

 

 

          ส่วน Ford Everest ในรุ่นปรับโฉม ก็ได้รับการเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ที่ปัดน้ำฝันแบบตรวจจับความชื้นอัตโนมัติ, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะที่ใช้กล้องคอยตรวจจับแสงไฟด้านหน้ารถที่สวนทางกัน, ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบห้องโดยสาร, ระบบตรวจจับรถในจุดบอด นอกจากนี้ระบบ Sync3 ยังมีระบบช่วยโทรฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบนี้จะทำงานต่อเมื่อโทรศัพท์เชื่อมต่อ Bluetooth อยู่ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางยิ่งขึ้น 

ราคา

  • Nissan Terra รุ่น 2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,427,000 บาท
  • Ford Everest รุ่น 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT ราคา 1,799,000 บาท

 

สรุป

 

          Nissan Terra ถือเป็นรถ PPV น้องใหม่ในตลาดเมืองไทยที่มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยจุดเด่นคงจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่าง Nissan Intelligent Mobility ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งระบบพับเบาะแบบกดปุ่ม 1-Touch Remote Fold and Tumble Seats ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออกห้องโดยสาร ซึ่งเหมาะแก่การใช้เดินทางในแบบรถครอบครัวเป็นอย่างมาก

 

 

          สำหรับ Ford Everest แน่นอนว่าจุดเด่นก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของพละกำลังยนต์ที่มากกว่า ทั้งแรงม้า และแรงบิด รวมไปถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีโหมดให้เลือกได้หลากหลายกว่า ซึ่งเหมาะแก่การขับลุยในเส้นทางธรรมชาติมากกว่า ซึ่งหากคุณ และครอบครัวเป็นนักผจญภัยที่ต้องการเดินทางสัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอารมณ์ รับรองเลยว่า Ford Everest สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ทุกทางอย่างแน่นอน

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook