เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 6 กันยายน 2560 - 18:30

Chevrolet Trailblazer Z71 ดีไซน์เด่น ขุมพลังเร้าใจ ปลอดภัยครบครัน มันส์ได้ทุกเส้นทาง

Chevrolet Trailblazer Z71

 

          Chevrolet เปิดตัวยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมสไตล์อเมริกันภายใต้ชื่อ Chevrolet Trailblazer Z71 (เชฟโลเลต เทรลเบลเซอร์ ซีส์เซเว่นตี้วัน) ไปเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน ทางค่ายได้เปิดตัวแอมบาสซาเดอร์ของ SUV ระดับพรีเมี่ยมรุ่นนี้ อย่าง ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ หนุ่มมาดเซอร์ที่สื่อถึงบุคลิคของยนตรกรรมอเนกประสงค์สไตล์สปอร์ตแดนมะกันรุ่นนี้ได้อย่างลงตัวที่สุด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30-31 สิงหาคม 2560 ทางเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ได้จัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ Chevrolet Trailblazer Z71 ณ จังหวัดเชียงราย บนเส้นทางที่หลากหลาย เพื่อให้ได้สัมผัสถึงสมรรถนะที่แท้จริงของรถรุ่นนี้แบบหมดเปลือก ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เข้มข้นขนาดไหน สามารถติดตามได้ใน BoxzaRacing

 

 

          Chevrolet Trailblazer Z71 เรียกได้ว่าเป็น Top of the Line ที่ได้รับการแต่งแต้มภาพลักษณ์ รวมถึงใส่รายละเอียดต่างๆ เพื่อเติมความดุดันอย่างเต็มเปี่ยม โดยหลักๆ คือ การเลือกใช้ชุดแต่งในโทนสีดำ ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าวัสดุสีดำเงาเพิ่มความสปอร์ตผสมผสานความหรูหรา ฝากระโปรงหน้าตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์สีดำด้าน เพื่อเติมแต่งภาพลักษณ์ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น สติ๊กเกอร์ Z71 4X4 บนฝากระโปรงท้าย กระจกมองข้าง และมือขับเปิดประตูสีดำ รวมถึงไฮไลท์อย่างล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว โดยมีสีตัวถังให้เลือกอย่างจุใจถึง 8 สี ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดที่ถูกแต่งแต้มเข้าไป เรียกได้ว่าช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของ Chevrolet Trailblazer Z71 ขึ้นมาได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว โดยรวมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า หล่อ คมเข้ม สไตล์อเมริกันอย่างแท้จริง

 

ขุมพลัง Duramax 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 44.8 กก.-ม.

 

          ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ที่ถือเป็นไฮไลท์ของ Chevrolet Trailblazer Z71 ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ Duramax ในพิกัด 2.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 44.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมปรับในส่วนของระบบรองรับด้วยยางรองแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ รวมไปถึงยางรองตัวถังแบบใหม่ โดยเน้นเรื่องของความนุ่มนวล เสถียรภาพในการทรงตัว ลดเสียงรบกวน รวมถึงการสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร โดยระบบกันสะเทือนหน้าของ Chevrolet Trailblazer Z71 มาในแบบคอยล์สปริง ด้านหลังแบบ Multi Link ที่ช่วยให้การยึดเกาะพื้นถนน ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

กุญแจรีโมทพร้อมฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท ทีเด็ด...ประเทศไทย

 

          บรรยากาศภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Trailblazer Z71 มาในสไตล์เคร่งขรึมด้วยโทนสีดำ พร้อมเติมเอกลักษณ์ด้วยการปักโลโก้ Z71 4x4 บริเวณหมอนรองศีรษะ เติมลูกเล่นความบันเทิงอย่างจุใจด้วย Chevrolet MyLink ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทั้ง iOS, Android รวมถึงสามารถฟังวิทยุผ่าน Internet ได้อีกด้วย ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองเชื่อมต่อใช้งานและทดลองฟังดูแล้ว ต้องบอกว่าคุณภาพเสียงจากระบบความบันเทิงที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานนั้น ทำได้อย่างน่าประทับใจ รองรับผู้ฟังสายหูทองฟังเพชรที่ไม่คิดเล็กคิดน้อยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ BoxzaRacing เกิดความประทับใจใน Chevrolet Trailblazer Z71 ส่วนออพชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถใช้งานได้จริง ก็เห็นจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกส่วน และที่อดพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ กุญแจรีโมทพร้อมฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท ที่สามารถเปิดระบบปรับอากาศสำหรับเตรียมตัวออกเดินทาง ซึ่งบอกได้เลยว่า...ในสภาพอากาศเมืองไทย คงไม่มีฟังค์ชั่นไหนจะเหมาะไปกว่านี้

 

ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง มีประโยชน์มากๆ สำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ

 

รวมถึงระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (เลือกปิดได้ หากไม่ต้องการใช้งาน)

 

          ระบบความปลอดภัย เป็นหัวใจหลักที่ทำให้ BoxzaRacing รู้สึกและสัมผัสได้ว่า ทางค่ายมีความตั้งใจที่จะทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งาน Chevrolet Trailblazer Z71 ได้อย่างอุ่นใจ ด้วยลูกเล่นต่างๆ ที่คอยเตือนให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวัง และช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุให้ต่ำลง (อารมณ์คล้ายๆ กันไว้ดีกว่าแก้...ไม่เกิดอะไรได้ ย่อมดีกว่าเกิดอะไรแล้วช่วยป้องกัน) ไม่ว่าจะเป็น ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง, ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง, ระบบเตือนขณะถอย แล้วมีรถหรือสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหลัง, ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า หากพบว่าความเร็วในการเข้าหารถคันข้างหน้าต่างกันมากเกินไป (เมื่อผู้ขับขี่ยังไม่ถอนเท้าออกจากคันเร่ง หรือมีการเบรก) รวมถึงระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (หากไม่มีการเปิดไฟเลี้ยว) นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ จัดมาให้อย่างครบครัน

 

 

          สำหรับการทดลองขับขี่ในครั้งนี้ เรียกว่าทางค่ายจัดเส้นทางมาให้ได้ลองอย่างหลากหลาย ทั้งการขับความเร็วเดินทาง, การขับขี่ในรูปแบบ Off Road รวมถึงการขึ้น-ลงเขาชันและคดเคี้ยว ซึ่งในช่วงแรก BoxzaRacing ยังขออุ่นเครื่องวอร์มร่างกาย เพราะยังง่วงจากการตื่นเช้าด้วยการเป็นผู้โดยสารในเบาะตอนหลัง ฟีลลิ่งในการนั่ง ต้องบอกว่ากว้างขวาง สะดวกสบายด้วยเบาะที่กว้าง พร้อมพนักพิงแบบปรับได้ ช่วยให้การจัดท่าทางในการโดยสารทำได้อย่างถูกอกถูกใจยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า Chevrolet ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยก็คือ จะมีเสียงเตือนหากผู้โดยสารด้านหลังไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ถือเป็นการสร้างนิสัยที่ดีสำหรับการโดยสารที่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ไฮไลท์เส้นทางในช่วงนี้ คือ การเดินทางในรูปแบบออฟโร๊ด ในสภาพเส้นทางดินโคลนที่เปียกลื่น เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มดีกรีความยากขึ้นไปอีกระดับ (หากไม่มีฝน ใช้การขับเคลื่อน 2 ล้อ และเทคนิคเฉพาะตัวของผู้ขับขี่ที่ดี ก็พอที่จะขับขี่ผ่านไปได้ไม่ยาก) ผู้ขับจึงเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในโหมด 4Hi ค่อยๆ เดินคันเร่งขึ้นไปแบบเนียนๆ สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่ต้องเจอได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งในช่วงลงเขายังได้ทดลองใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Hill Descent Control ที่ทำงานได้อย่างราบรื่น และสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วได้ตามต้องการจากพวงมาลัยในย่านความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ช่วยให้การไหลลงเขาในสภาพเส้นทางโคลนที่เปียกลื่นทำได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยไร้กังวล

 

 

          หลังจากผ่านช่วงการขับขี่ในรูปแบบออฟโร๊ด ก็ได้เวลาสลับผู้ขับขี่ หลังจากที่ตัดสินใจได้ว่าผมควรจะเป็นผู้ขับเอง เพราะยังรู้สึกเสียดายอาหารกลางวันที่เพิ่งจะรับประทานเข้าไปหมาด และไม่อยากเป็นภาระให้กับเพื่อนร่วมเดินทาง โดยในช่วงนี้เป็นเส้นทางเรียบแต่ไม่ราบ จาก อ.แม่จัน มุ่งหน้าสู่พระตำหนักดอยตุงและดอยช้างมูบ ซึ่งมีอุปสรรคในเรื่องของความชันและโค้งที่ค่อนข้างจะแคบตลอดเส้นทาง จากการทดลองขับ Chevrolet Trailblazer Z71 ในช่วงนี้ก็พบว่า เครื่องยนต์ในพิกัด 2.5 ลิตร 180 แรงม้า พร้อมแรงบิดกว่า 440 นิวตัน-เมตร ให้พละกำลังที่เพียงพอต่อการปีนไต่ในความชันที่มากกว่า 20% (ระยะทางในแนวราบ 100 เมตร ความสูงเพิ่มขึ้น 20 เมตร) ได้แบบสบายๆ แต่มีข้อสังเกตอยู่เล็กน้อย คือ ด้วยเครื่องยนต์ที่มาในพิกัดกลางๆ เพียง 2.5 ลิตร การจะเรียกกำลังออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรจะเลือกใช้รอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในย่านกำลัง ในที่นี้คือ เลี้ยงรอบให้อยู่ราวๆ 2,000 รอบ/นาที ขึ้นไป จากการเลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมด้วยโหมด Manual จะช่วยให้พละกำลังที่ส่งออกมามีความหนักแน่น และพร้อมที่จะก้าวข้ามทุกความชันไปได้แบบไม่ยาก โดยหากใช้รอบต่ำเกินไป หรือใช้เกียร์ที่ไม่เหมาะสม อาจมีอาการรอรอบจากการที่ต้องอาศัยเทอร์โบที่ช่วยปั่นเรียกกำลังสักเล็กน้อย ต่างจากเครื่องยนต์ที่มีขนาดกว่า (2.8 – 3.0 ลิตร) ที่จะอาศัยพื้นฐานจากความจุมาเป็นตัวชดเชยกำลังได้ในจุดนี้

 

 

           นอกจากพละกำลังของเครื่องยนต์ที่โดดเด่นแล้ว สิ่งที่ทำให้การขับขี่ Chevrolet Trailblazer Z71 ทำได้อย่างมั่นใจก็คือ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ที่ช่วยให้การบังคับควบคุมทำได้อย่างใจสั่ง เบามือในย่านความเร็วต่ำ และเริ่มปรับน้ำหนักให้มากขึ้นตามความเร็ว ซึ่งแม้ต้องเจอกับโค้งและเส้นทางที่เปียกลื่นจากสายฝนที่กระหน่ำลงมาขนาดไหน ก็พร้อมที่จะรับมืออย่างไม่ต้องขัดเขิน ผสานการทำงานกับช่วงล่างที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสมรรถนะและความนุ่มนวลอย่างลงตัว ไม่รู้สึกถึงอาการโคลงหรือกระด้างเกินที่ควรจะเป็น รวมไปถึงระบบเบรกที่ให้ประสิทธิภาพที่ดี และกระจายน้ำหนักในแต่ละล้ออย่างเหมาะสม ช่วยให้การชะลอความเร็วในโค้งทำได้ตามต้องการ ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเป็นเส้นทางลงเขาที่ชันมากๆ การใช้ Engine Brake เป็นตัวช่วย ก็ยิ่งจะช่วยเสริมให้การทำงานของระบบเบรก ทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่ออาการเบรกเฟดได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นของ Chevrolet Trailblazer Z71 ช่วยให้การเดินทางผ่านโค้ง ขึ้น-ลงเขาสูงชันจนยากจะคาดเดา ทำได้อย่างราบรื่น จนผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกันถึงกับเคลิ้มหลับเป็นระยะ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าหลับเพราะนั่งสบาย หรือว่าหลับเพราะเลี่ยงอาการเมารถกันแน่ ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกันอีกหนึ่งท่าน ก็ยังคงนั่งเล่นเกมในสมาร์ทโฟน และพูดคุยกับผู้ขับขี่อย่างสนุกสนาน ผ่านเส้นทางที่คดโค้งสู่จุดหมายปลายทางที่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน อย่างปลอดภัย

 

 

          Chevrolet Trailblazer Z71 ว่ากันตามเนื้อผ้า ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในตลาดเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมที่ถือว่า “น่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ” ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูโดดเด่น ดุดัน ผสานกับขุมพลังที่ให้ความรู้สึกเร้าใจ ช่วงล่างที่มั่นใจได้ ลูกเล่นล้ำสมัยที่สามารถใช้งานได้จริง รวมไปถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ทางค่ายยืนยันอย่างเต็มปากเต็มคำว่า “เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดในระดับราคาใกล้เคียงกัน” ซึ่งหากกล้าที่จะเปิดใจ ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านที่เคยสัมผัส ก็คงจะได้คำตอบแล้วว่า “ของดี...ที่ไม่จำเป็นต้องแพง” เป็นอย่างไร

 

 

Chevrolet Trailblazer Z71 ราคา 1,499,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook