Honda เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ New Honda Civic สัมผัสความแรงเร้าใจและประหยัดน้ำมันของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV พร้อมมั่นใจตลอดเส้นทางด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย จากกรุงเทพฯ สู่เขาใหญ่ รวมระยะทางไป-กลับกว่า 342 กิโลเมตร
เมื่อไม่นานมานี้ทาง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมโดยได้เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะความแรง และประหยัดน้ำมันของ New Honda Civic ยนตรกรรมไอคอนสปอร์ตพรีเมียมซีดานของ Honda บนเส้นทาง กรุงเทพฯ สู่เขาใหญ่ รวมระยะทางไป-กลับ กว่า 342 กิโลเมตร มาพร้อม 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC Turbo ในเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมสร้างความมั่นใจตลอดเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย และเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่นๆ ที่ครบครัน อาทิ ใหม่ เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS) อีกทั้งมีการปรับโฉม และเพิ่มเติมคุณค่าในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ภายนอกที่ปรับลุคความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น
ดีไซน์ภายนอก ได้มีการอัปลุคให้สปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น มาพร้อม ใหม่ กระจังหน้า และกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว, ไฟท้าย LED รมดำ ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต และในรุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
โหมดการขับแบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมยกระดับสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง ด้วยฟังก์ชัน แลtเทคโนโลยีอันล้ำสมัย อาทิ ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ในทุกรุ่นย่อย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto(TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto และ Honda CONNECT ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบาย อาทิ ใหม่! ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง และ เบาะที่นั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย
ตลอดเส้นทางการทดสอบสมรรถนะ สื่อมวลชนได้สัมผัสกับความแรงเร้าใจ ที่มาพร้อมอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว กับเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึงถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร มอบความแรงเกินคาด ประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว กับเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว
พร้อมสัมผัสการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ระหว่างโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่แบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) และ ใหม่ โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV เพื่อมอบการขับขี่ที่โดนใจสไตล์คุณ นอกจากนี้ยังมาพร้อมอีกหนึ่งทางเลือกขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC Turbo มอบกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร
อีกทั้งได้ทดลองใช้งานเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ครั้งนี้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานใหม่ให้สามารถตรวจจับ รถยนต์ จักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น บนเส้นทางจริง โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
· ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
· ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า
ที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
· ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
· ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
· ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
· ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่นๆ อาทิ ใหม่! เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS)
สีภายนอกที่มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ ใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (Canyon River Blue Metallic) (เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (Ignite Red Metallic) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (Platinum White Pearl) สีดำคริสตัล (มุก) (Crystal Black Pearl) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) (Meteoroid Gray Metallic) และสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) (Lunar Silver Metallic)
New Honda Civic มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
· รุ่น e:HEV RS ราคา 1,239,000 บาท
· รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,099,000 บาท
· รุ่น EL+ ราคา 1,039,000 บาท