Honda Jazz VS Mazda 2 ศึกแฮตช์แบ็คยอดนิยม ปะทะทีเด็ดทุกมิติ ใครจะเจ๋งกว่าใคร

           ศึกเทียบรถแฮตแบ็คเล็กระดับ Sub-compact ระดับ 1,500 ซีซี. โดยทั้งคู่เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์มาหมาดๆ ที่ได้รับความนิยมมาก ใครที่จะซื้อรถระดับนี้ ส่วนใหญ่มักจะนำ 2 รุ่นนี้ มาเป็นตัวเลือก ทีมงาน BoxzRacing จึงมาช่วยตัดสินใจ จับมาเทียบสเปคแบบเน้นๆ โดยเลือกรุ่นท็อปสุดทั้งคู่ คือ Honda Jazz RS ราคา 739,000 บาท และ Mazda 2 1.5XD ราคา 789,000 บาท

รูปทรงภายนอก

Honda Jazz RS

          ออกแบบภายนอกด้วยแนวคิด Low Wide Gravity มีออพชั่นมาตรฐาน คือ ไฟท้าย LED, กระจังหน้าแบบ Gloss Black พร้อมคิ้วโครเมียม เด่นกว่าคู่แข่งด้วยชุดแต่งพิเศษสไตล์สปอร์ตเฉพาะแบบ RS รอบคัน ประกอบไปด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS, ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light - DRL) แบบ LED ดีไซน์ใหม่, โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอก และกันชนหลังแบบสปอร์ตในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น RS

Mazda2 1.5XD

          การออกแบบ Kodo Design หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามในการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ มีความกว้างฐานล้อมากกว่านิดๆ ซึ่งมีส่วนต่อการยึดเกาะถนน ใต้ท้องรถแบบเรียบเพื่อลดแรงลมหมุนวน พร้อมสีแดงพิเศษ Soul Red ที่ส่งประกายมันวาวทุกมุมมองแม้ในที่ร่ม มีจุดเด่นเหมือนกัน คือ Daytime Running Light, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา, ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง, เสาอากาศแบบสั้น เป็นต้น เพิ่มเติมไฟตัดหมอก LED และกระจกหน้าแบบกันเสียงลม

ฟังก์ชั่นภายใน

*อุปกรณ์ภายในอาจจะต่างจากรุ่นจริง

          ภายในทั้ง 2 รุ่น มีออพชั่นมาตรฐานครบเหมือนกัน ประกอบด้วยกุญแจรีโมทแบบ Keyless ปุ่ม Push-start ระบบ Cruise-Control แป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ เครื่องเสียงสามารถเชื่อมต่อ AUX/USB พร้อมลำโพง 6 ตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียง พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง ต่างกันตรงที่ดีไซน์และฟังก์ชั่นเพิ่มเติมดังนี้

Honda Jazz RS

          แนวคิดการออกแบบภายในห้องโดยสาร แบบ Futuristic Cockpit ที่มอบความรู้สึกล้ำสมัยและความสนุกสนานในการขับขี่ ทั้งการจัดวางพื้นที่ภายในห้องโดยสารด้วยแนวคิด Man Maximum Machine Minimum ซึ่งความยาวของตัวถังรถและฐานล้อ ช่วยให้ห้องโดยสารและพื้นที่ห้องโดยสารตอนหลังมีขนาดใหญ่ กว้างสบายด้วยเบาะหลังปรับเอนได้

Mazda2 1.5XD

         ภายในแตกต่างกว่าด้วยดีไซน์ HMI (Human-Machine Interface) เน้นหลักธรรมชาติการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ตำแหน่งคันเร่งออกแบบให้ยืดขาเป็นธรรมชาติ คอนโซลตกแต่งด้วยแผงดำเงาแบบเปียโนแบล็ค และเพิ่มสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่แบบรถราคาแพง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่สุดไฮเทค

สมรรถนะและประสิทธิภาพ

Honda Jazz RS

          เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 117 แรงม้า มีแรงม้ามากกว่าในรอบสูง ช่วยให้ขับทางไกลได้ทันใจ เกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด ให้ความต่อเนื่องไม่สะดุด มีอัตราทดเฟืองท้ายสูงและน้ำหนักตัวเบากว่า ช่วยให้ออกตัวไม่อืด พอสูสีกัน

Mazda2 1.5XD

          ขุมพลังดีเซลสุดเร้าใจ Skyactive-D เทคโนโลยีกำลังอัดต่ำเพียง 14.8:1 พร้อมระบบหัวฉีดตรงไดเร็คอินเจกชั่น มีแรงบิดมาเต็มกว่า ซึ่งมีส่วนช่วยให้ออกตัวได้ดี เร่งแซงในตีนต้นได้ พร้อมความประหยัดมากกว่า อีกทั้งมีฐานล้อที่ยาวกว่า ช่วยในเรืองของความมั่นคง

อุปกรณ์ความปลอดภัย

          รถทั้งคู่มีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน คือ ดิสก์เบรคล้อหน้า ดรัมเบรคล้อหลัง พร้อมระบบ ABS แบบกระจายแรงเบรค ระบบช่วยทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ แต่จุดต่างที่สำคัญ คือ

Honda Jazz RS

          เพิ่มถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า ด้านข้าง และม่าน กล้องมองภาพปรับมุมมองได้ 3 ระดับ

Mazda2 1.5XD

          ใช้ถุงลมนิรภัย 2 จุด ระบบป้องกันการลื่นไถล เซนเซอร์กะระยะหน้าหลัง ระบบเตือนจุดบอดด้านข้างและด้านหลัง

บทสรุป

         แฮตช์แบ็ค 1.5 ลิตร ระดับซับคอมแพ็คที่มาเทียบกันนี้ มีราคาขายใกล้กันทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างเข้าทางได้เปรียบในหลายด้านของตัวเอง ผลลัพธ์ คือ Honda Jazz RS เป็นเครื่องเบนซิน ภายในกว้างขวาง ให้ถุงลมจุใจ ในราคาประหยัดกว่า Mazda2 1.5XD ใช้เครื่องดีเซล แรงบิดดี ประหยัดน้ำมัน ระบบเตือนจุดบอดครบ โดยทั้งคู่มีการรับประกันนานถึง 3 ปี หรือ 100,000 กม.

          ศึกการเทียบรถแฮตช์แบ็คยอดฮิต 2 รุ่นนี้ Honda Jazz RS VS Mazda2 1.5XD สรุปว่ามีสเปคต่างกันไปตามสไตล์แต่ละคัน คนที่จะตัดสินได้คือ ผู้ซื้อ ซึ่งต้องไปลองขับรถจริง เพื่อหารถที่ตรงกับรสนิยม และการใช้งานจริง รวมถึงยอมรับข้อเสียของแต่ละรุ่นได้ พร้อมให้สัมผัสตัวจริงแล้วทั้งสองรุ่นแล้วที่โชว์รูม Honda และ Mazda  ทุกสาขา