สงครามเปรียบเทียบรถใหม่ครั้งนี้ เป็นรถซีดาน C-Segment สองรุ่นที่ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ล่าสุด ต่างคนก็ต่างงัดกลเม็ดเด็ดๆ มาดวลกัน สูสีในทุกด้าน โดยทีมงานจับรุ่นท็อปสุดมาปะทะกัน คือ สปอร์ตซีดาน Mazda3 Sedan 2.0SP ราคา 1,119,000 บาท และรถยอดนิยม Toyota Corolla Altis 1.8 V Navi ราคา 1,079,000 บาท
รูปทรงภายนอก
Mazda3 2.0S
ดีไซน์ภายนอกด้วยภาษาการออกแบบ Kodo Design หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามในการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ได้รับรางวัล Red Dot สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมมาแล้ว มีความกว้างช่วงล้อหน้า-หลังมากกว่า ซึ่งมีผลต่อการยึดเกาะถนนเล็กน้อย ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ปรับระดับสูงต่ำได้อัตโนมัติอิสระแยกซ้าย-ขวา พร้อมสีแดงพิเศษ Soul red ที่ส่งประกายมันวาวทุกมุมมองแม้ในที่ร่ม
Toyota Corolla Altis 1.8 V
ภายนอกปรับโฉมรูปลักษณ์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น เด่นที่ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ดวงใหม่ ปรับสูงต่ำได้อัตโนมัติ พร้อมไฟ LED Daylight กระจังหน้าเพรียวลง กันชนทรงใหม่ ใส่ความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยการใส่ครีบแหวกม่านอากาศที่กระจกข้างและไฟท้าย มุมกันชนหน้าใส่ Rectifies Airflow ช่วยแหวกอากาศให้รถพุ่งไปดีขึ้น
Mazda 3 2.0S | Toyota Corolla Altis 1.8 V | |
ความกว้าง (มม.) | 1,795 | 1,775 |
ความยาว (มม.) | 4,580 | 4,620 |
ความสูง (มม.) | 1,450 | 1,460 |
ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) | 1,555/1,560 | 1,520/1,520 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,700 | 2,700 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
155 | 130 |
น้ำหนักรถ (กก.) |
1,358 | 1,290 |
ฟังก์ชั่นภายใน
ภายในทั้งสองรุ่น มีออพชั่นมาตรฐานครบเหมือนกัน ประกอบด้วยเบาะ หัวเกียร์ พวงมาลัยหุ้มหนัง เครื่องเสียงจอสัมผัส 7 นิ้ว ลำโพง 6 ตัว สามารถเชื่อมต่อ AUX/USB และโทรศัพท์ Bluetooth เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ และระบบนำทาง ต่างกันตรงที่ดีไซน์และฟังก์ชั่นเพิ่มเติมดังนี้
Mazda 3 2.0S
ภายในแตกต่างกว่าด้วยดีไซน์ HMI (Human-Machine Interface) เน้นหลักธรรมชาติการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ตำแหน่งคันเร่งออกแบบให้ยืดขาเป็นธรรมชาติ คอนโซลดำเงาเปียโนแบล็ค สวิตช์ข้างประตูตกแต่งด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมที่สุดของความไฮเทคด้วยหน้าจอใส Active Driving Display แสดงข้อมูลที่จำเป็นในการขับขี่ เดินทางเป็นเรื่องง่ายด้วยครูซคอนโทรลแปรผันความเร็วอัตโนมัติ
Toyota Corolla Altis 1.8 V
ห้องโดยสารมีจุดเด่นกว่าคู่แข่งมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมแสดงผลการขับขี่ Eco Meter เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้าได้มากกว่าถึง 8 ทิศทาง ทำคะแนนนำคู่แข่งด้วยเบาะหลังสามารถปรับเอนได้เล็กน้อย และมีระบบกรองอากาศแบบ Nanoe เบาะหลังแตกต่างกว่าด้วยที่วางแขนมีที่วางแก้วน้ำเพิ่มความสะดวกไปอีก กระจกหลังมีม่านบังแดดหลังแบบรถราคาแพง
สมรรถนะและประสิทธิภาพ
Mazda 3 2.0S
ขุมพลังพิเศษกว่าใครด้วย Skyactive-G เทคโนโลยีกำลังอัดสูงของเบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่และเฮดเดอร์สูตร 4-2-1 มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าอยู่ที่ 8.23 กก./แรงม้า ซึ่งใกล้เคียงความแรงกว่าคู่แข่ง ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ เพิ่มความยืดหยุ่นในการเกาะถนนมากกว่า สามารถโมดิฟายความหนึบไปต่อได้อีกมาก ยางหน้ากว้างกว่า แก้มเตี้ยกว่า และมีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบกว่า ช่วยให้ขับลัดเลาะคล่องตัวกว่าแน่นอน
Toyota Corolla Altis 1.8 V
เครื่องเบนซิน 2ZR-FBE Dual VVT-i 1.8 ลิตร ผลิตกำลังได้ 141 แรงม้า มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ 9.14 กก./แรงม้า แม้จะต่ำกว่า แต่ด้วยอัตราทดเฟืองท้าย 5.35 ทำให้ช่วยเรื่องการออกตัวให้ว่องไวขึ้น ผนวกกับเกียร์ CVT 7 จังหวะ ที่เปลี่ยนจังหวะราบลื่นกว่า และมีอัตราการกินน้ำมันโดยรวมดีกว่า ช่วงล่างทอร์ชั่นบีมมีจุดเด่นเรื่องความทนทานซ่อมง่ายตามสูตรรถยอดนิยม
Mazda 3 2.0S | Toyota Corolla Altis 1.8 V | |
กำลังสูงสุด (แรงม้า) | 165/6,000 รอบ/นาที | 141/6,000 รอบ/นาที |
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) | 210/4,000 รอบ/นาที | 177/4,000 รอบ/นาที |
อัตราส่วนน้ำหนัก/แรงม้า | 8.23 กก./แรงม้า | 9.14 กก./แรงม้า |
ระบบส่งกำลัง | เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด | เกียร์ CVT 7 สปีด |
อัตราทดเฟืองท้าย | 3.81 | 5.35 |
กินน้ำมันในเมือง (กม./ล.) | 11.76 | 12.04 |
กินน้ำมันนอกเมือง (กม./ล.) | 19.23 | 19.23 |
กินน้ำมันโดยเฉลี่ย (กม./ล.) |
15.6 |
15.87 |
ช่วงล่างหน้า |
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
ช่วงล่างหลัง |
อิสระมัลติลิ้งค์ พร้อมเหล็กกันโคลง |
ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด |
5.3 |
5.4 |
ล้อและยาง |
215/45 R18 |
205/55 R16 |
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ซีดานทั้งคู่มีระบบความปลอดภัยมาตรฐานคือ ดิสก์เบรค 4 ล้อ พร้อมระบบ ABS แบบกระจายแรงเบรค ระบบช่วยทรงตัว ระบบป้องกันลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน กล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัย 4 จุด ที่คู่หน้าและด้านข้าง แต่จุดต่างที่สำคัญคือ
Mazda 3 2.0S
เพิ่มเติมระบบ i-Activesense คือ สารพัดระบบเตือนในทุกสถาณการณ์ ทั้งสิ่งกีดขวางด้านหน้า, วัตถุในมุมอับเมื่อถอยหลังที่ความเร็วต่ำ, เมื่อมีรถในมุมอับขณะเปลี่ยนเลน, เมื่อเบี่ยงเลนออกโดยไม่ได้ตั้งใจ พร้อมปรับพวงมาลัยกลับเข้าคืนได้เอง หากใกล้จะชนรถก็หยุดให้เองอีกด้วย ในการขับระบบเรดาร์ครูซคอนโทรล ปรับความเร็วลดเองเองตามระยะคันหน้า และเพิ่มความเร็วกลับมาในค่าที่ตั้งไว้ได้อัตโนมัติ ส่วนไฟหน้าปรับการทำงานสูง-ต่ำแยกอิสระซ้าย-ขวาให้เหมาะสมกับระยะรถคันหน้า และรถที่สวนมา จะไม่แยงตาผู้อื่น โครงสร้างเหล็ก High Tensile ที่ผ่านมาตรฐาน EuroNCAP 5 ดาว
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี G-vectoring control ระบบประมวลผลองศาพวงมาลัย ความเร็ว น้ำหนักคันเร่ง เพื่อควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เกิดการถ่ายแรงบิดที่เหมาะสมลงไปสู่แต่ละล้อ โดยการลดและเพิ่มแรงบิดนี้ ทำให้น้ำหนักตัวรถถ่ายไปยังด้านหน้าและหลัง สามารถแปรผันแรงบิดได้ตั้งแต่เริ่มเข้าโค้ง ในโค้ง และออกจากโค้ง ทำให้ควบคุมแม่นยำ เกิดการแก้พวงมาลัยน้อยลง
Toyota Corolla Altis 1.8 V
เพิ่มเติมถุงลมนิรภัยแบบม่านทั้งสองข้าง และถุงลมที่หัวเข่าคนขับ รวมถุงลมทั้งหมด 7 ใบ ใช้เบาะนั่งแบบมีหมอนรองแผ่นหลังและต้นคอป้องกันการบาดเจ็บ กระจกมองหลังปรับองศามุมมองอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง พร้อมโครงสร้างนิรภัย GOA ที่ผ่านมาตรฐาน EuroNCAP 5 ดาวเช่นกัน
บทสรุป
ซีดาน C-Segment คู่นี้สูสีเพราะจัดออพชั่นเต็มทั้งคู่ มีความสดใหม่ของตัวถังเท่ากันทั้งคู่ แต่มีสไตล์ต่างกันตรงที่ Mazda 3 2.0S เป็นรถสปอร์ตซีดาน ดีไซน์สวย เครื่องแรงกว่า ช่วงล่างหนึบ ขับคล่องตัว ความปลอดภัยสุดไฮเทค ส่วน Toyota Corolla Altis 1.8 V ซีดานยอดนิยม ออพชั่นสะดวกสะบายเพียบ ถุงลมนิรภัยจัดเต็ม ราคาถูกกว่า จิบน้ำมันน้อย โดยทั้งคู่มาพร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม.
สงครามปะทะกันระหว่าง Mazda 3 2.0S VS Toyota Corolla Altis 1.8 V คู่นี้ มีคุณสมบัติเด่นทั้งคู่ เพื่อรองรับแต่ละสไตล์ของลูกค้าแต่ละคนว่าจะให้น้ำหนักไปทางใด แนะนอนว่าไม่มีรถอะไรตอบโจทย์ครบทุกด้าน ผู้ซื้อควรไปลองขับรถจริง เพื่อหารถที่ใกล้เคียงกับการใช้งานแต่ละคนมากที่สุด ลงโชว์รูมให้สัมผัสตัวจริงแล้วทั้งสองรุ่นแล้วที่โชว์รูม Mazda และ Toyota ทุกสาขา