เปรียบเทียบรถใหม่สัปดาห์นี้ นับเป็นศึกดวลเดือดคู่เอกของเดือน หนีไม่พ้นรถซีดานขนาด 1,500 ซีซี. B-Segment สองรุ่นที่ไมเนอร์เชนจ์พร้อมกันจากสองค่ายยักษ์ใหญ่ คือ Toyota VIOS 1.5S รุ่นท๊อปสุด ราคา 789,000 บาท และ Honda City SV+ รุ่นท๊อปสุดเช่นกัน ราคา 751,000 บาท
รูปทรงภายนอก
Toyota VIOS 1.5S
ภายนอกไมเนอร์เชนจ์หน้าหลังใหม่ เปลี่ยนทรงเป็นดีไซน์โตโยต้าแบบใหม่ งานดูแพงมีระดับอย่างเดียวกับที่ใช้ในโตโยต้าแคมรี่เจนเนอร์เรชั่นล่าสุด ปรับออพชั่นทัดเทียมกับคู่ชกด้วยไฟ LED Daylight แต่จะเสียเปรียบกว่านิดนึง ตรงที่ระยะฐานล้อสั้นกว่า 50 มม. ล้อ 5 ก้านลายใบพัดแบบสปอร์ตเข้ากับธีมการออกแบบ
Honda City SV+
ภายนอกปรับใหม่ในสไตล์เดียวกับซีวิค คิ้วโครเมียมขนาดใหญ่หน้ารถ ดีไซน์เหลี่ยมแข็งแรงคมคาย นอกจาก LED Daylight ที่เป็นมาตรฐานแล้ว ยังเด่นกว่าคู่แข่งด้วยไฟหน้า LED และเสาอากาศแบบครีบฉลามจากโรงงาน เหมือนรถราคาแพง ลายล้อ 15 ก้าน แบบใหม่ เข้ากับตัวรถสไตล์หรูทั้งคัน
| Honda City SV+ | Toyota Vios 1.5S | |
| ความกว้าง (มม.) | 1,695 | 1,700 |
| ความยาว (มม.) | 4,440 | 4,420 |
| ความสูง (มม.) | 1,477 | 1,475 |
| ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) | 1,476/1,465 | 1,470/1,460 |
|
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,600 | 2,550 |
|
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
150 | 145 |
|
น้ำหนักรถ (กก.) |
1,102 | 1,075 |
ฟังก์ชั่นภายใน
Toyota VIOS 1.5S
ภายในสุดเปรี้ยว ด้วยการเล่นสีแดงแซมเข้ามาในคอนโซลและเบาะนั่ง จุดนี้นำเด่นไปอีกเพราะทั้ง 4 เบาะ ใช้วัสดุหนังสีดำแทนที่ผ้าซึ่งทำความสะอาดง่าย และดูแพงกว่า พื้นที่วางขาด้านหลังแบบเรียบซึ่งมีที่วางแก้ว เพื่อความสะดวกกว่าคู่แข่งไปอีก อีกทั้งคอนโซลปั๊มลายตะเข็บด้ายเย็บกับคันเกียร์แบบ Gate Type ช่วยให้รถดูสปอร์ตและมีราคากว่า
Honda City SV+
มาในแนวหรูด้วยสี Gun Metalic แทรกด้วยแถบสีดำเงา เพิ่มออพชั่นไฮเทคล้ำหน้ากว่าด้วยครูซคอนโทรล ขับสนุกกว่าด้วยแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ ระบบความบันเทิงจัดให้ชัดเต็มตากว่า ด้วยการรองรับ HDMI พร้อมลำโพงสูงถึง 8 จุด เต็มอารมณ์ทุกคลิปและเพลง นอกจากพวงมาลัยมีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงเหมือนคู่แข่งแล้ว ยังเพิ่มปุ่มควบคุมโทรศัพท์มาให้อีก
สมรรถนะและประสิทธิภาพ
Toyota VIOS 1.5S
แรงและประหยัดด้วยเครื่อง 1.5 ลิตร Dual VVT-i DOHC 16V กำลัง 108 แรงม้า แบกสัดส่วนน้ำหนัก/กำลังอยู่ที่ 9.95 กก./แรงม้า ด้วยอัตราทดเฟืองท้าย 4.3:1 พร้อมน้ำหนักตัวที่เบากว่า ทำให้มีความประหยัดกว่าคู่แข่งเล็กน้อยตามการทดสอบของ Ecosticker วงเลี้ยวที่กว้างกว่าเกิดจากการใส่ยางที่กว้างถึง 195 ช่วยเรื่องการยึดเกาะถนนเวลาเข้าโค้งนั่นเอง เกียร์ CVT สามารถปรับเล่นได้ตามใจชอบจากด้ามเกียร์
Honda City SV+
เครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร SOHC พร้อมเทคโนโลยี Earthdream ให้กำลัง 117 แรงม้า แบกสัดส่วนน้ำหนัก/กำลังอยู่ที่ 9.41 กก./แรงม้า ประกอบกับอัตราทดเฟืองท้าย 4.99:1 ทำให้ออกตัวหวือหวากว่าเล็กน้อย แรงบิดมีให้ใช้เหลือเฟือ แต่แลกกับอัตราการกินน้ำมันด้อยกว่านิดๆ ฐานล้อยาวกว่าและมีวงเลี้ยวที่แคบกว่า ช่วยเรื่องความคล่องตัวในที่แคบได้ดี เกียร์ CVT สามารถปรับเล่นได้ตามใจโดยใช้แพดเดิ้ลชิฟต์
| Honda City SV+ | Toyota Vios 1.5S | |
| กำลังสูงสุด (แรงม้า) | 117/6,000 รอบ/นาที | 108/6,000 รอบ/นาที |
| แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) | 146/4,700 รอบ/นาที | 140/4,200 รอบ/นาที |
| อัตราส่วนน้ำหนัก/แรงม้า | 9.41 กก./แรงม้า | 9.95 กก./แรงม้า |
| ระบบส่งกำลัง | เกียร์ CVT 7 สปีด | เกียร์ CVT 7 สปีด |
| อัตราทดเฟืองท้าย | 4.99 | 4.3 |
| กินน้ำมันในเมือง (กม./ล.) | 13.5 | 13.6 |
| กินน้ำมันนอกเมือง (กม./ล.) | 21.7 | 20.4 |
| กินน้ำมันโดยเฉลี่ย (กม./ล.) |
17.85 |
17.24 |
| ช่วงล่างหน้า |
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
| ช่วงล่างหลัง |
กึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม |
กึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม |
| รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด |
5.3 |
5.7 |
| ล้อและยาง |
185/55 R16 |
195/50 R16 |
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ทั้งสองรุ่นมีระบบเซฟตี้มาครบครัน ทั้งเบรค ABS แบบกระจายแรงเบรค ระบบช่วยทรงตัว ระบบป้องกันลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน เซนเซอร์กะระยะพร้อมกล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า แต่จุดต่างที่สำคัญคือ Honda City SV+ เพิ่มเติมออพชั่นถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมรวม 6 จุด ส่วน Toyota VIOS 1.5S เพิ่มเติมเบาะนั่งแบบมีหมอนรองกระดูกต้นคอป้องกันการบาดเจ็บ
สรุป
ซีดานขนาด 1,500 ซีซี. คู่นี้ โดดเด่นคนละด้าน Honda City SV+ เป็นรถสไตล์หรู ออพชั่นไฮเทค ความปลอดภัยเยอะ ราคาถูกกว่า ส่วน Toyota VIOS 1.5S เน้นดีไซน์สปอร์ตสุดจี๊ด ภายในจัดเบาะหนังมารอบคัน แซมสีแดงกับโทนดำแบบรถราคาแพง ใส่ยางกว้าง จิบน้ำมันน้อย โดยทั้งคู่มาพร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม.
ซีดานระดับ B-segment คู่นี้ มีลักษณะเฉพาะต่างกันพอสมควร ผู้ใช้จริงเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสิน ซึ่งไม่ควรพลาดการลองขับรถจริง เพื่อหารถที่สอดคล้องการใช้งานแต่ละคนได้ ลงโชว์รูมให้สัมผัสตัวจริงแล้วทั้งสองรุ่นแล้วที่โชว์รูม Toyota และ Honda ทุกสาขา
