รถเอสยูวีมีกระแสร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะครบถ้วนทั้งความอเนกประสงค์ ขนของที่มีความสูงได้ดี ควบคู่กับการขับนุ่มนวลแบบเก๋ง ใช้งานลงตัวครบทั้งในและนอกเมือง โดยเฉพาะในงบไม่ถึงล้าน มีตัวเลือกมาให้เปรียบเทียบทุกช็อตทุกด้าน คู่เด็ดวันนี้ คือ MG GS 1.5 เทอร์โบ รุ่นท๊อปของเครื่องยนต์ 1.5 ราคา 990,000 บาท และ Mazda CX-3 2.0S รุ่นรองท๊อปที่มีราคาใกล้กันที่ 975,000 บาท
รูปทรงภายนอก
MG GS 1.5T
ออกแบบจากสตูดิโอในอังกฤษ ทรงเรียบร้อย สัดส่วนแบบท้ายลาดและเสาซีหนาให้อารมณ์เหมือนรถคูเป้ กระจังหน้าเรียวเล็กเว้นช่องกลางให้ตราหกเหลี่ยมเล่นสันฝากระโปรงรับกัน มีหลังคาซันรูฟแบบรถยุโรปราคาแพง มิติตัวถังโดยรวมใหญ่กว่า แต่ใส่ล้อแม็กเล็กกว่า และมีน้ำหนักตัวมากกว่า ส่วนใต้ท้องรถสูงกว่าสามารถลุยได้มาก
Mazda CX-3 2.0S
โดดเด่นสุดๆ ด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำตัดกับไฟแอลอีดีเดย์ไลท์ที่ต่อเนื่องกับคิ้วกระจังหน้าทรงปีกขนาดใหญ่ สัดส่วนแบบหน้ากดต่ำและเสาซีแบบลอยตัวที่ล้ำสมัย มิติตัวถังจะเตี้ยและสั้นกว่า ทำให้มีความคล่องตัวในเมืองและขับขี่ได้อารมณ์ใกล้เคียงรถเก๋ง งานดีไซน์กล้าพูดเลยว่าสวยงาม เพราะมีรางวัลออกแบบยอดเยี่ยม Red Dot design award 2015 และรางวัลออกแบบภายนอกยอดเยี่ยมแห่งปีจาก German design council พร้อมจัดขายที่สีแดงพิเศษที่เนื้อสีแดงใส สะท้อนประกายมันวาวดีกว่าปกติ
MG GS 1.5T | Mazda CX-3 2.0S | |
ความกว้าง (มม.) | 1,855 | 1,815 |
ความยาว (มม.) | 4,500 | 5,280 |
ความสูง (มม.) | 1,689 | 1,780 |
ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) | 1,574/1,593 | 1,525/1,520 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,650 | 3,000 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
174 | 205 |
น้ำหนักรถ (กก.) |
1,460 | 1,231 |
ฟังก์ชั่นภายใน
MG GS 1.5T
ภายในออกแบบสไตล์เหลี่ยม ตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุ Piano black ตัดด้วยเส้นสีเงิน เป็นแนวหรูผสมไฮเทค เบาะหนังสังเคราะห์ สบายกว่าด้วยระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เฉพาะคนขับ ส่วนคนนั่งหลังก็สบายด้วยเบาะปรับเอนได้ 14 องศา ที่วางแขนด้านหลังมีที่วางแก้ว พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ Inkanet ที่แสดงสถานะรถ เชื่อต่อความบินเทิงและอุปกรณ์สื่อสาร ตรวจจับอาการเสีย และตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ
Mazda CX-3 2.0S
ภายในออกแบบสไตล์สปอร์ตสุดๆ ดีไซน์แบบเดียวกับมาสด้า 2 ช่องแอร์ทรงกลมแบบสปอร์ต ล้ำหน้ากว่าใครด้วยจอใสหน้ากระจก Active driving display แสดงข้อมูลการขั่บขี่พื้นฐานบนกระจกใสหน้ารถ รอบคันตกแต่งเบาะปรับมือและแผงประตูข้างด้วยวัสดุเบาะหนังผสมหนังกลับสีดำ แทรกด้วยหนังสีแดง เย็บด้วยด้ายสีแดง ประดับบางส่วนด้วยลายคาร์บอนจากโรงงาน หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 7 นิ้ว รองรับการควบคุมด้วยเสียงพูด
สมรรถนะและประสิทธิภาพ
MG GS 1.5T
เครื่อง 1.5 ลิตร ติดเทอร์โบ มีแรงม้าถึง 167 ตัว และแรงบิดถึง 250 นิวตัน-เมตร มาให้ใช้แบบยาวๆ แต่ด้วยภาระน้ำหนักตัวที่ต้องแบกมากกว่า แรงดึงของเทอร์โบอาจจะช่วยในการเร่งแซงบางจังหวะ อัตราการกินน้ำมันถือว่าเหมาะสมดีกับน้ำหนักตัว วงเลี้ยวที่กว้าง 6 เมตร และเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ที่เป็นการเปลี่ยนเกียร์แนวสปอร์ต อาจจะต้องใช้การปรับตัวสักนิดเมื่อขับในเมือง
Mazda CX-3 2.0S
เครื่อง Skyactive-G กำลังอัดสูงถึง 14.0:1 กำลัง 156 แรงม้า ที่แบกน้ำหนักตัวไว้น้อยกว่า จึงมีอัตราเร่งหวือหวา ออกตัวได้ดั่งใจสั่ง มีอัตราการกินน้ำมันเทียบข้อมูลจาก Eco Sticker แล้ว ได้ผลดีกว่าโดยรวม วงเลี้ยวแคบและยางซีรี่ย์ต่ำ ช่วยให้การมุดในเมืองทำได้ดีกว่า เกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวิร์ตเตอร์ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มสบายและกระชากน้อย
MG GS 1.5T | Mazda CX-3 2.0S | |
กำลังสูงสุด (แรงม้า) | 167/5,600 รอบ/นาที | 156/6,000 รอบ/นาที |
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) | 250/1,700-4,400 รอบ/นาที | 204/2,800 รอบ/นาที |
อัตราส่วนน้ำหนัก/แรงม้า | 9.12 กก./แรงม้า | 7.89 กก./แรงม้า |
ระบบส่งกำลัง | เกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด | เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด |
อัตราทดเฟืองท้าย | 4.5/5.2 | 4.3 |
กินน้ำมันในเมือง (กม./ล.) | 13.7 | 13.0 |
กินน้ำมันนอกเมือง (กม./ล.) | 17.2 | 19.6 |
กินน้ำมันโดยเฉลี่ย (กม./ล.) |
15.6 |
16.4 |
ช่วงล่างหน้า |
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
ช่วงล่างหลัง |
มัลติลิ้งค์ พร้อมเหล็กกันโคลง |
กึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด |
6.0 |
5.3 |
ล้อและยาง |
215/60 R17 |
215/50 R18 |
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ทั้งสองรุ่นมีระบบเซฟตี้มาครบครัน ทั้งเบรคเอบีเอสแบบกระจายแรงเบรค ระบบช่วยทรงตัว ป้องกันลื่นไถล ช่วยออกตัวบนทางชัน เซนเซอร์กะระยะ กล้องมองหลัง และที่สำคัญ คือ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ส่วนเพิ่มเติมพิเศษของ CX-3 คือ ผ่านการทดสอบชนของ EuroNCAP ระดับ 4 ดาว ส่วนของ MG GS ยังไม่มีผลการทดสอบจากยุโรป แต่เพิ่มออพชั่นถุงลมด้านข้าง กับระบบควบคุมการเบรคเมื่อเข้าโค้ง
สรุป
เอสยูวีไม่เกินล้านคู่นี้ โดดเด่นคนละด้าน MG GS 1.5T เป็นรถใหญ่ใช้เครื่องเล็ก มีจุดเด่นที่ความกว้างขวางนั่งสบาย ออพชั่นเต็มและความปลอดภัยดี พร้อมรับประกัน 4 ปี หรือ 120,000 กม. ส่วน Mazda CX-3 รถดีไซน์ล้ำสมัย เร่งแรงแซงคล่องตัว จิบน้ำมันน้อย มีภายในใช้วัสดุดีกว่า มีการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม. และราคาถูกกว่านิดๆ
สุดท้ายแล้วผู้ใช้แต่ละท่านที่มีไลฟ์สไตล์การใช้งานที่ต่างกันจะเป็นตัวตัดสิน ควรไปลองขับหารุ่นที่สอดคล้องการใช้งานจริงของแต่ละคนได้ ลงโชว์รูมให้สัมผัสตัวจริงแล้วทั้งสองรุ่นแล้วที่โชว์รูม MG และ Mazda ทุกสาขา