เมื่อรถกระบะสุดแรงมาเจอกับกระบะสุดคุ้ม Ford Ranger VS Mitsubishi Triton เปรียบเทียบทุกด้านทั้งความคุ้มค่าของออพชั่น ความแรงคู่กับความประหยัด ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ พร้อมทั้งชี้จุดเด่นด้อยเทียบกันจะๆ โดยเพื่อให้สูสีกันที่สุด ทีมงานจึงเลือกรุ่นท๊อป (ในขุมพลังที่สูสี) ตัวถังดับเบิ้ลแค็ป ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติจากทั้งสองค่ายมานั่นคือ Ford Ranger 2.2 Wildtrak ราคา 1,090,000 และ Mitsubishi Triton 2.4 4WD ราคา 1,061,000 บาท
ภายนอก
Ford Ranger 2.2 Wildtrak
นับเป็นรุ่นท๊อปสุดของเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เด่นกว่าใครด้วยตัวถังสีส้มสะดุดตา กระจังหน้าหกเหลี่ยมทรงบึกบึน เพิ่มความสวยงามลงตัวด้วยสปอร์ตบาร์รอบกระจกหลัง และราวเสริมขอบกระบะท้าย ติดสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ Wildtrak เพื่อแสดงถึงความสุดของออพชั่น มิติตัวถังโดยรวมใหญ่กว่า เน้นการบรรทุกที่มากกว่า และลุยได้มากด้วยใต้ท้องรถสูง
Mitsubishi Triton 2.4 GLS-LTD
รุ่นท๊อปสุดของค่าย ไมเนอร์เชนจ์ใหม่กระจังหน้าแบบโครเมียมรมดำ เด่นสุดด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ไบซีนอนพร้อมแอลอีดีเดย์ไลท์ หน้าตาทรงลิ่มลู่ลมดูสปอร์ต แฝงความหรูด้วยลายกระจังดีไซน์ 3 มิติ มีบันไดข้างและกันชนดีไซน์สปอร์ตเป็นมาตรฐานเช่นกัน มิติตัวถังจะเตี้ยและสั้นกว่า ให้อารมณ์การขับขี่เหมือนรถเก๋ง ที่ผสมความแกร่งแบบกระบะ
| Ford Ranger 2.2 | Mitsubishi Triton 2.4 | |
| ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) | 1,560/1,560 | 1,520/1,515 |
| ความกว้าง (มม.) | 1,560 | 1,815 |
| ความยาว (มม.) | 5,362 | 5,280 |
| ความสูง (มม.) | 1,815 | 1,780 |
|
ระยะฐานล้อ (มม.) |
3,220 | 3,000 |
|
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
230 | 205 |
|
ความกว้างกระบะ (มม.) |
1,560 | 1,470 |
|
ความยาวกระบะ (มม.) |
1,549 | 1,520 |
|
ความสูงกระบะ (มม.) |
511 | 475 |
|
น้ำหนักรถ (กก.) |
1,950 | 1,870 |
ภายใน
Ford Ranger 2.2 Wildtrak
ภายในออกแบบสไตล์เหลี่ยม ดูแข็งแกร่ง รุ่นท๊อปนี้เด่นด้วยไฟ Ambient ตกแต่งห้องโดยสารเลือกได้ 7 เฉดแสง คอนโซลมีช่องทำความเย็นด้วยระบบปรับอากาศ เบาะเป็นหนังสลับผ้า ระบบอินโฟเทนเม้นต์เด่นกว่าใครตรงที่มีจุด WiFi Hotspot เสริมมาด้วย ช่องต่อไฟที่ขยายกำลังเป็น 230V ส่วนระบบมาตรฐานอื่นๆก็มีครบครัน เช่น เบาะปรับได้ 6 ตำแหน่ง เครื่องเสียงรองรับบลูทูธ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบปรับอากาศแยกซ้ายขวา
Mitsubishi Triton 2.4 GLS-LTD
ไทรทันมีภายในดีไซน์อ่อนช้อยแบบรถเก๋ง มีความหรูกว่าชัดเจนด้วยเบาะหนังแท้ ในส่วนสัมผัส สอดรับกับพวงมาลัยและหัวเกียร์ที่หุ้มหนังเช่นกัน สะดวกสบายกว่าด้วยเบาะฝั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้มากกว่าถึง 8 ตำแหน่ง หลังพวงมาลัยยังมีแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ ใช้เปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องละมือแบบรถแข่ง สะดวกสะบายด้วยสวิตช์ปรับระดับไฟหน้าได้จากในรถ เกียร์แบบ Gate Type ที่ดูหรูหราเหมือนรถเก๋ง ส่วนระบบมาตรฐานอื่นๆ ก็มีครบครัน เช่น ช่องต่อไฟ 12V เครื่องเสียงรองรับบลูทูธ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบประบอากาศแยกซ้ายขวา
สมรรถนะ
Ford Ranger 2.2 Wildtrak
จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์ดีเซลของฟอร์ดมี ซีซี. น้อยกว่า มีกำลังและแรงบิดน้อยกว่า แต่มาในรอบต่ำกว่า มีแรงบิดให้ใช้ได้ในช่วงกว้างกว่า ทำให้เหมาะกับใช้เร่งแซงยามขับทางไกลได้อย่างปลอดภัย อัตราการกินน้ำมันอ้างอิงผลจาก Eco Sticker ซึ่งก็สมกับน้ำหนักตัวที่เกือบ 2 ตัน ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ที่ทำวงเลี้ยวได้กว้างกว่า เพราะผลจากการที่ตัวรถใหญ่โตกว่านั่นเอง
Mitsubishi Triton 2.4 GLS-LTD
เครื่องยนต์ของมิตซูบิชิมี ซีซี. มากกว่า ทำกำลังได้ดีกว่า และมีความประหยัดกว่าเป็นไปตามความคาดหมาย เพราะเป็นผลจากการที่น้ำหนักเบากว่า แรงบิดที่มากกว่าทำให้เหมาะแก่การลุยหรือขนของขึ้นเนินชันๆ ได้ดีกว่า ด้วยอัตราทดเฟืองท้ายที่จัดกว่านิดๆ ทำให้เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ทำรอบจัดกว่าเล็กน้อย ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ทำวงเลี้ยวได้แคบกว่า เพราะตัวรถสั้นและเล็กกว่า
| Ford Ranger 2.2 Wildtrak | Mitsubishi Triton 2.4 | |
| กำลังสูงสุด (แรงม้า) | 160/3,200 รอบ/นาที | 181/3,500 รอบ/นาที |
| แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) | 385/1,600-2,600 รอบ/นาที | 430/2,500 รอบ/นาที |
| ระบบส่งกำลัง | เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด | เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด |
| อัตราทดเฟืองท้าย | 3.73 | 3.917 |
| กินน้ำมันในเมือง (กม./ล.) | 8.62 | 11.11 |
| กินน้ำมันนอกเมือง (กม./ล.) | 12.98 | 14.92 |
| กินน้ำมันโดยเฉลี่ย (กม./ล.) |
10.98 |
13.33 |
| ช่วงล่างหน้า |
ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง |
ปีกนกคู่ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง |
| ช่วงล่างหลัง |
แหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ |
แหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ |
| รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด |
6.2 |
5.9 |
| ล้อและยาง |
265/60 R18 |
245/65 R17 |
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ทั้งสองรุ่นถือว่าสูสีกันมาก จุดเด่นหลักอยู่ที่ถุงลมนิรภัย 6 จุด คือ คู่หน้า ข้าง และม่าน มีมาให้ครบ แต่ไทรทันเพิ่มถุงลมตรงหัวเข่าคนขับเพิ่มมาอีกจุดด้วย ส่วนเรนเจอร์เพิ่มระบบควบคุมรถขณะลงเขา และช่วยทรงตัวเป็นพิเศษขณะลากจูง ส่วนระบบมาตรฐานอื่นๆ มีให้ครบ คือ กล้องมองหลัง เซ็นเซอร์ช่วยถอยหลัง ระบบช่วยออกตัวทางชัน ช่วยทรงตัว และป้องกันการลื่นไถล
สรุป
ทั้งสองรุ่นมีคาแรคเตอร์ต่างกันพอสมควร Ford Ranger เป็นกระบะแนวบึกบึน ห้องโดยสารกว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกสะบายครบครัน ใต้ท้องรถสูงพร้อมลุยน้ำลึกสูงสุดถึง 800 มม. กระบะท้ายจุของได้เยอะกว่า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยให้เดินทางไกลได้ราบลื่นกว่า ส่วนทางด้าน Mitsubishi Triton เป็นแนวสปอร์ตกว่าด้วยกำลังแรงกว่า มีแพดเดิ้ลชิฟต์ให้เล่น ขับสนุกไม่ต้องห่วงการกินน้ำมัน สวยแบบหรูด้วยเบาะหนังแท้ ส่วนเรื่องดีไซน์ภายนอกนี่แล้วแต่คนชอบ เพราะทั้งสองรุ่นมีแนวทางแยกกันชัดเจนมากๆ
ใครที่ชอบและสนใจรุ่นทั้งสอง สามารถเข้าไปทดลองขับเปรียบเทียบจริง พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสุดๆ ได้แล้วที่โชว์รูมฟอร์ดและมิตซูบิชิได้ทุกแห่งทั่วไทย
