MG5
ตลาดรถซัพคอมแพ็คคาร์ในเมืองไทยนั้น ถือได้ว่าดุเดือดอยู่พอตัว ด้วยความเป็นรถยนต์ 4 ประตู (5 ประตู ในบางรุ่น) ที่มีราคาไม่แพง แต่สามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้แบบจัดเต็ม อีกทั้งยังมอบความประหยัดในหลายๆ ด้านอีกด้วย ซึ่งในวันนี้ จะเป็นการประชันคู่รถระหว่าง MG5 คอมแพ็คซีดานที่ชูจุดเด่นความหรูหรา และเครื่องเทอร์โบในราคาที่สัมผัสได้ กับ Honda City รถคอมแพ็คคาร์ที่ได้รับความนิยมในไทยที่มาพร้อมกับอ็อพชั่นอันทันสมัยที่จัดเต็ม
Honda City
สำหรับรุ่นที่นำมาเปรียบเทียบครั้งนี้ ทาง MG ส่งรุ่น MG5 1.5 TurboX 6AT ส่วน Honda ส่งรุ่น City SV+ พร้อมเกียร์ CVT โดยทั้งคู่เป็นรุ่นท็อป
ภายนอก
MG5 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูสวยงาม ภูมิฐาน และมอบความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแถบยาวที่รับกับไฟหน้าโปรเจคเตอร์และฝากระโปรง V-Shap, ไฟ LED Daylight บริเวณกันชน, ไฟท้ายที่ยาวพาดผ่านฝากระโปรงท้ายที่มอบความโดดเด่นสะกดสายตา, เสาอากาศครีบฉลาม, ล้ออัลลอย 16 นิ้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟให้ตามสไตล์แบรนด์ MG ที่จัดหลังคาซันรูฟสวยๆ ในราคาเบาๆ
Honda City มาพร้อมกับการออกแบบรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่ดุดัน และมอบความปราดเปรียวยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้ามัลติรีแฟลกเตอร์ที่รับกับกระจังหน้าทรง U และฝากระโปรงที่ดัดทรงรับกับกระจังหน้าด้วยเช่นกัน, มีไฟตัดหมอก, มือจับเปิดประตูโครเมียม, ไฟท้ายที่ออกแบบให้รับกับแถบโครเมียมกลางฝากระโปรง เสาอากาศครีบฉลาม
รายละเอียดภายในที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ยากที่จะตัดสิน ก็ต้องมาวัดกันที่มิติตัวถังของรถทั้งสองรุ่น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
มิติตัวถัง | MG5 | Honda City |
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,612 x 1,804 x 1,488 | 4,440 x 1,695 x 1,477 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,650 | 2,600 |
ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) | 1,543 - 1,544 | 1,476 - 1,465 |
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) | 118 | 150 |
ความจุของถังน้ำมัน (ลิตร) | 55 | 40 |
ภายใน
MG5 มาพร้อมกับห้องโดยสารที่ออกแบบให้มีความทันสมัย สปอร์ต ลงตัวทุกการใช้งาน รวมไปถึงห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย, ระบบควบคุมซันรูฟไฟฟ้า, จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, ลิ้นชักใต้เบาะหน้า, เบาะหลังพับแบบ 40:60 สำหรับขยายพื้นที่ห้องสัมภาระท้าย, นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี inkaNet หรือระบบเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างตัวรถ และอุปกรณ์ไร้สายที่ให้คุณเข้าถึงตัวรถได้ง่ายและครบครัน เพื่อให้คุณได้ใช้งานรถได้อย่างอุ่นใจ
ห้องโดยสาร MG5
Honda City ได้รับการออกแบบภายในห้องโดยสารที่มอบทั้งความกว้างขวาง หรูหรา พร้อมความสวยงามจากมาตรวัดเรืองแสง, ระบบจอสัมผัส 7 นิ้ว, ระบบปรับอากาศแบบสัมผัส ในส่วนของเบาะหลังก็สามารถพับแบบ 40:60 โดยสามารถพับได้จากที่ดึงพับเบาะด้านหลังตรงด้านหลังเพื่ออำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องเข้าห้องโดยสารก่อนแล้วค่อยพับเบาะ เป็นต้น
ห้องโดยสาร Honda City
เครื่องยนต์
MG5 ขอเสนอเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่มาพร้อมกับเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่สามารถเลือกโหมด Sport และ Manual และเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นนี้ให้รองรับเชื้อเพลิง E85 อีกด้วย
ทางด้าน Honda City มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาลล์ i-VTEC ที่ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิด 146 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earthdream พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์พวงมาลัยที่มือ Paddle Shift 7 สปีด และเสริมระบบ Econ Mode เพื่อควบคุมการใช้เชื้อเพลิงและให้สมรรถนะที่เหมาะสม ที่สำคัญรองรับ E85 เช่นกัน
ระบบความปลอดภัย
ทั้ง MG5 และ Honda City ได้มอบระบบความปลอยภัยเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง มีรายละเอียดดังนี้
ระบบความปลอดภัย | MG5 | Honda City |
โครงสร้างนิรภัย |
FSF (Full Space Frame) |
G-Con |
ชุดถุงลงนิรภัย | คู่หน้า | คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ และม่านถุงลมนิรภัย |
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR |
3 จุดคู่หน้าปรับระดับได้แบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ |
3 จุดคู่หน้าปรับระดับได้แบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ |
เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR | 3 จุด 3 ตำแหน่ง | 3 จุด 2 ตำแหน่ง2 จุด 1 ตำแหน่ง |
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) | * | * |
ระบบกระจายแรงเบรค(EBD) | * | * |
ระบบเสริมแรงเบรค | แบบอิเล็กทรอนิก(EBA) | * |
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว |
SCS | * |
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง |
- | VSC |
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน |
HAS | HSA |
ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำฉับพลัน |
MSR | - |
ระบบควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้ง |
CBC | - |
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล |
TCS | - |
ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง |
ITPMS | - |
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ | - | * |
ไฟเบรคดวงที่ 3 | * | * |
ไฟตัดหมอกหน้า | - | * |
ไฟสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกระทันหัน |
- | * |
สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง | * | - |
กล้องมองหลัง | - | ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ |
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX | - | * |
ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobiliser | * | * |
สัญญาณกันขโมย | - | * |
ราคา
MG5 1.5 TurboX 6AT ราคา 759,000 บาท
Honda City SV+ CVT ราคา 751,000 บาท
สรุป
MG5 มอบความโดดเด่นทั้งความใหญ่โตของตัวถัง, หลังคาซันรูฟ, เครื่องยนต์เทอร์โบ พร้อมระบบความปลอดภัยที่จัดอย่างเหนือชั้น แม้ราคาจะสูง แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้ก็คือว่าไม่ควรมองข้าม
MG5
Honda City ยังมอบรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความทันสมัยของภายในห้องโดยสาร แต้สิ่งที่สร้างความได้เปรียบของรถรุ่นนี้คือ ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddel Shift) ถุงลมนิรภัยที่มีทั้งคู่หน้าและม่านถุงลมทั้ง 6 ตำแหน่ง และเทคโนโลยีโหมดการควบคุมเชื้อเพลิง (Econ Mode) มอบความประหยัดที่เหนือชั้น
Honda City
ในโอกาสหน้า ทีมงาน BoxzaRacing จะนำรถอะไรมาเปรียบเทียบเป็นคู่ต่อไป ก็อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ