ภาพโดย: Ohmpimp
The art of automotive group based in Bangkok, Thailand. Please contact us if you like our style.
Guru Guru...พาไปดู Suzuki Ciaz ชีวิตเหนือระดับที่จับต้องและครอบครองได้
หากคุณเป็นคนหนึ่งในข่ายมนุษย์เงินเดือนวัย 30 กะรัต ที่กำลังอยู่ในระหว่างสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัวภายใต้หน้าที่การงานที่มีความมั่นคง และพร้อมที่จะก้าวสู่ภารกิจใหญ่ในตำแหน่งนักบริหารแรกรุ่น ที่ความสำเร็จกำลังรออยู่เบื้องหน้า แน่นอนว่าสิ่งที่คุณต้องการนอกจากเรื่อของปัจจัย 4 แล้ว คงหนีไม่พ้นความต้องการที่ 5 ซึ่งสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ความโดดเด่น สง่างามในมุมมองของผู้นำ และสร้างอรรถประโยชน์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย รองรับการขยับขยายจากการสร้างครอบครัวได้ในอนาคต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ ปัจจุบัน รถยนต์เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของเราๆ ท่านๆ ชนิดที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะกับบุคคลที่ต้องทำงานในสายอาชีพที่ต้องมีการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรีบ ดังนั้นการเลือกหายนตรกรรมคู่ใจสักคันมาใช้งาน คงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหนีพ้นจริงๆ ซึ่งก็อย่างที่บอกไปในเบื้องต้นครับ สำหรับชีวิตมนุษย์เงินเดือนในวัย 30 กะรัต อาจต้องหารถคู่ใจที่ช่วยเติมเต็มในทุกๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของการใช้งาน หรือแม้แต่ภาพลักษณ์ที่ต้องมีความโดดเด่น ให้สมกับการที่จะก้าวสู่การเป็นนักบริหาร ไอ้ครั้นจะไปเลือกเล่นยนตรกรรมหรูก็ดูจะเกินกำลังไปนิด และสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย รวมถึงภาระครอบครัวที่กำลังจะตามมาในไม่ช้า การเลือกยนตรกรรมที่ให้ความคุ้มค่าจึงเป็นคำตอบที่ดูน่าจะลงตัวที่สุด
ความคุ้มค่าในความหมายของแต่ละคนนั้น อาจแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าจะต้องเลือกรถมาใช้งานสักหนึ่งคันตามโจทย์เบื้องต้น ที่ต้องทั้งหรูหรา สะดวกสบาย ประโยชน์ใช้สอยเพียบ ภายใต้ค่าตัวสุดคุ้ม หากมองในตัวเลือกยนตกรรมซีดานที่เรียกได้ว่าให้ความคุ้มค่าสูงสุด หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Suzuki Ciaz อยู่อย่างแน่นอน ภายใต้ปัจจัยแรกเลยก็คือ การเป็นยนตรกรรมหรูที่สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำออกมาได้อย่างชัดเจน จากการออกแบบตัวถังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคลาส และให้สิ่งที่ยนตรกรรมระดับหรูพึงมี ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ ดีไซน์ที่งดงาม สมส่วน เครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการ แม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงเร้าใจสุดขั้ว แต่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงอัดแน่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องโดยสารที่กว้างสบาย และมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางค่ายจัดมาให้แบบครบครัน
ก่อนที่จะได้ทดลองขับ ตัวผมเองขอสารภาพโดยตรงเลยว่า...มีแอบคิดเล็กคิดน้อยอยู่บ้างว่าเครื่องยนต์แค่ 1.25 ลิตร จะลากตัวถังดูใหญ่โตรโหฐานของ Ciaz ได้หรือไม่ แต่หลังจากที่ได้ลองขับ ข้อสงสัยทั้งหมดก็ถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้น เนื่องจากซีดานภาพลักษณ์หรูอย่าง Suzuki Ciaz นั้น สามารถตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งานของผมอย่างแท้จริง ขุมพลังในระดับ 91 แรงม้า ให้ประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในเมืองที่ต้องเร่งๆ หยุดๆ บ่อยครั้งภายใต้สภาพการจราจรแออัด อาจจะไม่ได้จัดจ้านเหมือนบรรดารถเครื่องใหญ่ๆ แต่ไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้งาน เนื่องจากตัวรถยังให้ความรู้สึกที่คล่องตัว ทั้งเรื่องของอัตราเร่ง รวมถึงทัศนวิสัยที่เด่นชัด ส่วนหนึ่งคงต้องยกเครดิตให้กับระบบส่งกำลังที่คำนวณอัตราทดมาได้อย่างเหมาะสม จนกระทั่งเมื่อสภาพการจราจรเริ่มคล่องตัวขึ้น จึงมีโอกาสที่จะได้ทดลองขับขี่ในย่านความเร็วที่สูงๆ ขึ้นไป ความรู้สึกที่สัมผัสได้จาก Suzuki Ciaz ก็คือ ช่วงล่างได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกที่เฟิร์ม โดยยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวล พวงมาลัยออกแบบน้ำหนักมากำลังดี บังคับเลี้ยวและควบคุมทิศทางได้ง่ายตามต้องการ เช่นเดียวกับระบบเบรกที่ไม่ต้องออกแรงเยอะตัวรถก็พร้อมที่จะหยุดได้อย่างสมูท ไม่มีอาการกระตุกหรือหลอกอย่างที่บางรุ่นเป็น สำหรับการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดี เบาะนั่งออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ นั่งสบาย ไม่อึดอัด ระบบปรับอากาศสามารถปรับได้อย่างละเอียดตามช่วงอุณหภูมิที่ต้องการ เช่นเดียวกับในส่วนของระบบความบันเทิงที่พร้อมรองรับอุปกรณ์ในหลากหลายรูปแบบพร้อมปุ่มสั่งการที่พวงมาลัย แม้ว่ารุ่นที่ได้ทดลองขับ ไม่ใช่รุ่นท็อปที่มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มักในเรื่องของลูกเล่นอะไรที่มากมาย ทำได้ขนาดนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อดที่จะนำมาพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของภาพลักษ์ที่ดูภูมิฐาน ไม่ว่าจะขับไปไหน Suzuki Ciaz ก็ประดุจเป็นแหล่งรวมที่สายตาทุกคู่จะต้องจับจ้องเป็นหนึ่งเดียว
Suzuki Ciaz เรียกได้ว่าเป็นยนตรกรรมที่ตอบรับทุกมุมมองสำหรับนักบริหาร หรือแม้แต่หัวหน้าครอบครัวมือใหม่ที่พร้อมวางเป้าหมายแห่งความสำเร็จในอนาคต ภายใต้ค่าตัวเริ่มต้นเพียง 484,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าการจะหายนตรกรรมที่ให้ความคุ้มค่าในระดับที่เทียบเท่ายนตรกรรมซีดานผู้นี้ คงเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรจริงๆ