เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 27 กรกฏาคม 2558 - 17:40

Toyota Camry ESport เมื่อซีดานพันธุ์หรู มาคู่ฟีลลิ่งสปอร์ตเหนือจินตนาการ

 

Toyota Camry ESport เมื่อซีดานพันธุ์หรู มาคู่ฟีลลิ่งสปอร์ตเหนือจินตนาการ

               

 

          Toyota Camry ESport (โตโยต้า คัมรี่ เอสปอร์ต) ยนตรกรรมหรูพันธุ์ใหม่เปิดตัวมาเพื่อรองรับนักธุรกิจยุคใหม่ไฟแรงที่ยังคงหลงใหลและให้ความนิยมชมชอบซีดานระดับหรูที่มาคู่กับอารมณ์สปอร์ตแบบเต็มสตีม โดย Toyota  Camry ESport เป็นรุ่นพิเศษที่ประกอบและนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ให้ชาวไทยได้สัมผัสอารมณ์ที่แตกต่าง ซึ่งหลังจากที่ทาง BoxzaRacing ได้ทดลองขับขี่มาเป็นที่เรียบร้อย สิ่งหนึ่งที่ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยก็คือ “รถรุ่นนี้ให้ความเป็นสปอร์ตได้กว่าระดับที่คุณจินตนาการไว้อย่างแน่นอน”

 

มุมมองด้านหน้าดูดุดันกว่ารุ่นปกติอย่างชัดเจน
 
 
ด้านข้างเน้นเส้นสายแบบเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาดมากนัก
 
 
บั้นท้ายเต็มอิ่มด้วยสปอยเลอร์และดิฟฟิวเซอร์ในด้านล่าง

 

                ก่อนอื่น...คงต้องขอสารภาพก่อนว่าภาพของ Toyota Camry ESport ในความคิดของผมก็คือ รถหรูที่ถูกแต่งแต้มออกมาให้มีหน้าตาที่ดุดันมากขึ้น (อันนี้ในความเห็นส่วนตัว ผมถือว่าด้านหน้าให้อามรณ์ที่ดึงดูดมากกว่ารุ่นปกติ โดยเฉพาะกับสีที่เป็นเอกลักษณ์อย่างสีแดง Red Mica Metallic แค่เห็นก็ชวนให้หลงรักเข้าให้แล้ว ย้ำครับ...นี่คือความรู้สึกส่วนตัว) หรืออย่างดีกว่านั้นก็คงแค่ปรับช่วงล่างให้แข็งขึ้นอีกเล็กน้อยตามสไตล์รถสปอร์ต ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นไปกว่านั้น แต่พอได้สัมผัสในรายละเอียดลึกๆ จรริงๆ กลับพบว่าสปอร์ตซีดานอย่าง Toyota Camry ESport ได้รับการสรรค์สร้างและใส่รายละเอียดต่างๆ มาอย่างพิถีพิถัน เพื่อดึงเอาขีดสุดแห่งสมรรถนะออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่

 

ห้องโดยสารแม้ดูไม่หวือหวา แต่สิ่งอำนวยความสะดวกยังครบครันเช่นเดิม
 
 
เบาะหนังทูโทนเย็บด้ายขาว เน้นความเป็นสปอร์ต
 
 
 

 

                อย่างที่ทราบกันก็คือ Toyota Camry ESport ได้รับการประกอบและนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากรถรุ่นนี้จะมีสไตล์ของคนใช้รถชาวออสซี่อยู่ค่อนข้างสูง โดยผู้ใช้รถใช้ถนนแดนจิงโจ้ให้ความสนใจในรายละเอียดเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ มากกว่าเรื่องของความสะดวกสบายและลูกเล่นภายใน (อย่างที่คนไทยต้องการ) ซึ่งเป็นผลให้หลายคนมองว่าดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ Toyota Camry ESport ยังดูธรรมดาเกินไปเมื่อเทียบกับเลเวลของตัวรถที่แม้จะเน้นความเป็นสปอร์ตแต่ยังต้องคงไว้ซึ่งความหรูหราตามแบบฉบับของ Camry อาจทำให้ดูขัดหูขัดตาไปบ้างเล็กน้อย แต่หากลองมองเรื่องฟังค์ชั่นการใช้งานและสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่องเสียง Pioneer พร้อมหน้าจอระบบ Air Control (ใช้มือโบกไปมา สั่งงานได้ตามต้องการ) ที่รองรับลูกเล่นความบันเทิงจากอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงระบบนำทาง Navigator ที่ใช้งานง่ายและให้ความละเอียดสูง ฟังค์ชั่นความบันเทิงสามารถสั่งการได้โดยตรงจากพวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่น เช่นเดียวกับหน้าจออเนกประสงค์บริเวณหน้าปัทที่สามารถบ่งบอกค่าการใช้งานที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน เบาะนั่งหนังสีดำ-น้ำตาลออกแบบมาให้นั่งสบายและมีความโอบกระชับพร้อมเพิ่มความสะดวกด้วยเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง ในฝั่งคนขับ ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา ให้ความเย็นได้ตามต้องการทั้งตอนหน้าและหลัง

 

 

                ในส่วนของเครื่องยนต์แม้ว่าจะมาในบล็อก 2AR-FE พิกัด 2.5 ลิตร เช่นเดียวกับรุ่นที่ขายอยู่ในบ้านเรา แต่สำหรับรุ่น ESport ที่ทำเข้ามาจำหน่าย กลับให้แรงม้าที่สูงกว่าจากการออกแบบระบบระบายไอเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแรงม้าที่ทำได้ คือ 184 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดในระดับ 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift ที่ช่วยเพิ่มความเร้าใจกับการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง ส่วนช่วงล่างได้รับการปรับให้มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นเพื่อประสิทธิภาพการทรงตัวที่เหนือกว่า

 
 
ทรงตัวดี เข้าโค้งคมกริ๊บ นุ่มหนึบไม่แพ้สปอร์ตฝั่งยุโรป
 
 

 

                การทดลองขับขี่ Toyota Camry ESport ออกสตาร์ทตั้งแต่ย่านพระราม 2 ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าพระราม 2 สู่จังหวัดเพชรบุรี โดยในช่วงแรกแม้ว่าการจราจรจะค่อนข้างแออัด แต่ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมาให้ โดยเฉพาะอุปกรณ์ความบันเทิงที่ให้เสียงที่มีคุณภาพ ช่วยสร้างความผ่อนคลายในสภาพการจรจรที่ไม่เป็นใจได้มากที่เดียว และหลังจากที่พ้นช่วงแออัดก็ได้เวลาแห่งการทดลองสมรรถนะที่แท้จริง สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมถึงกับต้องทึ่งก็คือ การทำงานของช่วงล่าง ที่ผมไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่า สำหรับรถสปอร์ตมิดไซส์ซีดานจะให้อารมณ์ที่น่าประทับใจได้มากเพียงนี้ ฟีลลิ่งที่ได้มา คือ การทรงตัวที่มีเสถียรภาพ นิ่ง หนึบ แม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงก็ยังรู้สึกมั่นใจ โดยไม่ต้องแลกกับความสบายที่เสียไปจากความกระด้าง การเปลี่ยนช่องทางกะทันหันในย่านความเร็วสูงให้ความแม่นยำ สั่งได้อย่างในต้องการ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ล้อขนาดใหญ่มากมายและใช้ยางแก้มค่อนข้างสูง (215/55 R17) โดยรวมแล้ว...ถือว่าสร้างความประทับใจในระดับที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าซีดานในระดับนี้จะทำได้ ส่วนด้านเครื่องยนต์นั้นก็ถือว่าไว้ใจได้ตามสไตล์ของ Toyota อัตราเร่งทำได้อย่างต่อเนื่อง เกียร์ 6 สปีด เปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวลในยามใช้งานปกติ ส่วนถ้าต้องการความเป็นสปอร์ตเต็มขั้น สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองที่คันเกียร์ รวมถึงที่ Paddle Shift หลังพวงมาลัยด้วย ซึ่งการเปลี่ยนเกียรนั้นทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าน่าชื่นชมคงหนีไม้พ้นเรื่องของความประหยัดและอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง โดยเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 2,100 รอบ/นาที การเดินทางด้วยความเร็วปกติจะกรุงเทพฯ ถึงจุดหมายอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตามที่หน้าปัทคำนวณได้ คือ 13.8 กม./ลิตร โดยประมาณ

 

ทำได้ดีกับอัตราการบริโภค 13.8 กม./ลิตร กับการขับขี่แบบใช้งานจริง
 
 
ฟีลลิ่งสปอร์ตแบบนี้ เชื่อว่าน่าจะถูกใจชาว BoxzaRacing เป็นแน่

 

                คงไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่จะเหมาะสมไปกว่าวลีที่ว่า “เหนือความคาดหมาย” โดยเฉพาะกับสมรรถนะของช่วงล่างสไตล์สปอร์ตที่ผมอยากให้ชาว BoxzaRacing ได้ลองสัมผัสหากมีโอกาส แล้วมุมมองของสปอร์ตซีดานขนานแท้ในความคิดของท่านจะเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง บอกได้เต็มปากเลยว่า “ผมหลงรัก Toyota Camry ESport เข้าเสียแล้ว

 

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook