MG เดินหน้าตามโรดแมพ ส่งน้องใหม่ MG 3 สร้างสีสันความสนุกไร้ขีดจำกัด มุ่งเจาะตลาดรถยนต์นั่งแบบแอทช์แบคในกลุ่มบีเซคเมนต์ ตั้งเป้าแย่งส่วนแบ่งตลาดคนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจีเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ในไทย ส่ง เอ็มจี 3 ทั้ง Hatchback (แฮทช์แบค) และ Xross (ครอส) ลงตลาด Sub-compact (ซับคอมแพ็ค) หรือ B-Segment (บี-เซ็กเมนต์) มุ่งแย่งส่วนแบ่งตลาด รุกเติมสีสันความสนุกเต็มพิกัดบนท้องถนนโดยเอาใจคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ความสนุก ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์
เอ็มจี 3 ได้รับการออกแบบ และพัฒนาตามแนวคิด Brit Dynamic มาตรฐานใหม่ในการขับขี่ ณ ศูนย์ออกแบบรถยนต์ Birmingham Design Centre ของ MG ในประเทศอังกฤษ โดยทีมวิศวกร และนักออกแบบกว่า 360 คน เพื่อพัฒนา และสร้างสรรค์ให้ MG 3 เป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์
มร.หวู่ ฮวน ได้กล่าวว่า "เอ็มจี 3 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ Hatchback 5 ประตู และ Xross ที่ตกแต่งให้มีความโดดเด่นแบบ SUV มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยคุณสมบัติเด่นด้านการขับขี่ คุณภาพ ดีไซน์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ความคุ้มค่าของราคาที่แข่งขันได้ และออปชั่นต่างๆ พร้อมบริการหลังการขาย และเครือข่ายของผู้จำหน่าย ในปัจจุบันทำให้เรามั่นใจว่า MG 3 จะประสบความสำเร็จ และจะก้าวเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาความแตกต่าง ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว"
MG 3 ยังมีสีภายนอกแบบทูโทนให้เป็นทางเลือกของลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยตัวถังสี Tudor Yellow-Black Top หรือสีเหลืองหลังคาดำ, สี Regal Red-White Top หรือตัวถังสีแดงหลังคาสีขาว และ Thames Blue-White Top หรือสีฟ้าหลังคาสีขาว นอกจากนี้ เอ็มจี 3 ยังให้อิสระแก่ลูกค้ามากขึ้นในการตกแต่งภายนอกของรถยนต์ให้ตรงกับสไตล์ที่เป็นตัวเอง อาทิ สติกเกอร์ตกแต่งหลังคา 5 สไตล์ ได้แก่ Scottish Kilt, Brid Pop, MOM, Union Jack และ London Tube รวมทั้งฝาครอบกระจกมองข้าง 4 สี
สำหรับ MG 3 Xross เพิ่มความสนุกทุกมุมมองด้วยกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต พร้อมชุดแต่งรอบคัน และ Roof Rail ให้คุณโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ พร้อมใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าไลฟ์สไตล์ของคุณจะเป็นแบบใด ก็สามารถเลือกออกไปสนุกได้ในแบบของคุณเอง
เอ็มจี 3 เพิ่มความเท่หรูหรากับหลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า เช่นเดียวกับรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังให้ความปลอดภัย และความสะดวกสบายที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ด้วยที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ LED Daytime Running Light-DRL หรือไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ที่ติดตั้งในรุ่น D และ X ที่ให้ทั้งความสวยงาม และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
MG 3 มาพร้องขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพ และการประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด SeleMatic พร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต และแบบ Manual ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้เอง รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ตอบสนองนโยบายการใช้น้ำมันทดแทน
นอกจากนี้ MG 3 ยังเพิ่มความคุ้มค่า และความปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยมากมายด้วยเทคโนโลยีระดับโลกที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ได้แก่ CBC – Curve Brake Control (ระบบควบคุมการเบรคขณะเข้าโค้ง) ช่วยควบคุมรถให้มีเสถียรภาพในขณะเข้าโค้งให้ความปลอดภัย และความมั่นใจอย่างสูงแก่ผู้ขับขี่, HAS – Hill-Start Assist System (ระบบการช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน), ABS – Anti-Lock Braking System (ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรคฉุกเฉิน) พร้อมด้วย EBD – Electronic Brake – Force Distribution (ระบบกระจายแรงเบรค) ต่อด้วย TCS – Traction Control System (ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล, MSR – Motor Control Slide Retainer (ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน, ESC – Electronic Stability Control (ระบบควบคุมการทรงตัว), USD – Ultimate Stiffness Design (โครงสร้างตัวถังเพื่อความปลอดภัย) และ BA – Brake Assist (ระบบเสริมแรงเบรค)
มร.หวู่ ฮวน กล่าวว่า “เอ็มจี มีความยินดี และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดตัว MG 3 ลงสู่ตลาดประเทศไทย ทางบริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่สามารถเปิดตัวเอ็มจีรุ่นที่สองภายในระยะเวลาอันสั้น หลังจากได้เปิดตัวรถยนต์เอ็มจีรุ่นแรงเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พนักงานเอ็มจีทุกคนในประเทศไทยรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลิต เอ็มจี 3 รถที่มีมาตรฐานยุโรปให้กับพี่น้องคนไทย การเปิดตัวในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน และผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาในกลุ่มประชาคมอาเซียน และประเทศอื่นๆ นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และยกระดับความสามารถของบริษัทฯ ให้ตอบสนองผู้บริโภคชาวไทยได้ในทุกไลฟ์สไตล์ และความต้องการด้านการใช้งานอย่างแท้จริง
เอ็มจี 3 ยังมอบความมั่นใจในคุณภาพด้วยการรับประกัน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นานถึง 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพแล้ว การบริการหลังการขายยังเป็นสิ่งที่ เอ็มจี ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด จึงได้เดินหน้าขยายโชว์รูนและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อความอุ่นใจในการใช้งานรถ เอ็มจี ทุกรุ่น นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการ และศูนย์ฝึกอบรม เอ็มจี ตั้งอยู่ที่ซอยอ่อนนุช เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมรอบด้าน และสร้างให้เกิดความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายจากทางบริษัทฯ
ทั้งนี้ เอ็มจี เซอร์วิสเซนเตอร์ มีบริการช่วยเหลือเคลื่อนที่ อีกหนึ่งในการบริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ และครบวงจร เพื่อช่วยเหลือ และให้บริการกับลูกค้าเอ็มจีทุกท่าน ให้รู้สึกอบอุ่นใจในทุกเส้นทางเดินทางอันสุดพิเศษ
สำหรับแผนการตลาดของเอ็มจี 3 ทางบริษัทฯ ได้จัดทำภาพยนต์โฆษณาทางโทรทัศน์สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อกลางแจ้ง และสื่อออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Hello Fun ที่สื่อถึงความสนนุกแบบไม่จำกัด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ในวัยเริ่มต้นทำงาน และผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยได้มาชมหรือสัมผัส และทดสอบสมรรถนะของ MG 3
ราคาจำหน่าย เอ็มจี 3 แบ่งเป็น รุ่นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ได้แก่ รุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ 479,000 บาท รุ่น D (กลาง) เหมาะกับผู้ที่หาความคุ้มค่าที่ 509,000 บาท รุ่น X (ท็อป) พร้อมติดตั้งหลังคาซันรูฟที่ 559,000 บาท และสำหรับรุ่น ครอส จะมีเพียงรุ่นท็อปรุ่นเดียว คือ รุ่น X พร้อมหลังคาซันรูฟที่ 595,000 บาท ทั้งนี้ทุกท่านสามารถพบกับ เอ็มจี 3 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมนี้ ที่งาน Motor Show 2015 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี และโชว์รูมเอ็มจีทุกแห่งทั่วประเทศ