WaveRunner Test Ride 2020 @ วัชรมารีน สาขาสนามบินน้ำ
กระแสการเล่นเรือ หรือเจ็ตสกี กำลังมาแรงในยุคปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็มาจากนักเล่นในวงการอื่นๆ ที่อยากจะมาสัมผัสความท้าทายในรูปแบบใหม่ๆ กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุดทาง Yamaha Marine ก็ได้จัดกิจกรรม WaveRunner Test Ride 2020 เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มาทดลองขับขี่ Yamaha WaveRunner ณ วัชรมารี สาขาสนามบินน้ำ แน่นอนว่างานดีๆ แบบนี้ BoxzaRacing เราก็ไม่พลาดที่จะไปสัมผัสฟีลลิ่งของ WaveRunner รุ่นต่างๆ พร้อมนำความรู้สึกที่ได้มาบอกเล่าให้ได้รับทราบกัน
มือใหม่แท้ๆ ก็เล่นได้ ด้วยการแนะนำเทคนิคการขับขี่อย่างถูกต้องจากทีมงาน Yamaha
Water Resque เพราะความปลอดภัย คือ สิ่งสำคัญที่สุด
สำหรับกิจกรรม WaveRunner Test Ride 2020 ในครั้งนี้ ทาง Yamaha นำ WaveRunner รุ่นต่างๆ มาให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองขี่กันอย่างจุใจ แต่สำหรับไฮไลท์ของงงาน คงหนีไม่พ้นสปอร์ตทัวริ่งตัวพ่ออย่าง Yamaha WaveRunner FX Cruiser SVHO และรุ่นยอดประหยัดที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ อย่าง Yamaha WaveRunner VX-C ซึ่งก็มีลูกค้าที่สนใจ มาร่วมการทดลองขี่กว่า 40 ท่าน แน่นอนว่าลูกค้าที่มาทดลองนั้น มีทั้งคนที่ใช้เรือหรือเจ็ตสกีอยู่แล้ว รวมถึงลูกค้าหน้าใหม่ที่อยากจะลองเข้ามาสัมผัสประสบการณ์นี้ แม้ว่าจะไม่เคยขี่มาก่อน แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะทาง Yamaha มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ สอนขับขี่อย่างใกล้ชิด รวมถึงทีม Water Resque ที่คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างทั่วถึง
Yamaha WaveRunner VX-C
เป็นโอกาสดีที่ทาง BoxzaRacing ได้ทดลองขี่ WaveRunner ที่เป็นไฮไลท์ของงานนี้ทั้ง 2 รุ่น ซึ่งบอกได้เลยว่า แต่ละรุ่นก็จะมีทีเด็ดที่สร้างความประทับใจในระดับที่แตกต่างกันออกไป เริ่มกันด้วยรุ่นสุดคุ้มอย่าง Yamaha WaveRunner VX-C เรือขนาดกลางที่เน้นเรื่องความประหยัดเป็นหลัก ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การขี่ท่องเที่ยวชิลล์ๆ ส่วนตัว หรือสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจปล่อยเช่า ที่ต้องการเรื่องของความทนทาน ดูแลรักษาง่ายเป็นหลัก โดย Yamaha WaveRunner VX-C มาพร้อมเครื่องยนต์ในรหัส TR1 แบบ 3 สูบ 1,050 ซีซี. ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความประหยัด โดยทาง Yamaha เคลมว่า น้ำมัน 1 ถัง (70 ลิตร) เพียงพอสำหรับการเดินทางข้ามอ่าว ไป-กลับ จากหาดพัทยา จ.ชลบุรี ถึงหาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี ระยะทางไป-กลับ กว่า 200 กม. ได้แบบสบายๆ นับเป็นตัวเลขประหยัดและคุ้มค่ามากๆ สำหรับการเดินทางด้วยพาหนะในรูปแบบนี้
ขี่ง่าย สนุกสนาน ประหยัด และดูแลรักษาง่าย
ลองขี่กันมาพอหอมปากหอมคอ พอสรุปได้ว่า แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นของตระกูล VX แต่ Yamaha WaveRunner VX-C พร้อมเสริฟความสนุกสนานในการขับขี่ รองรับการเดินทางในรูปแบบครอบครัวด้วยที่นั่งแบบ 3 ตอน ภายใต้ความมั่นคงในการทรงตัว ไม่โคลง ไม่เสียอาการแม้ว่าจะต้องเจอกับคลื่นอย่างต่อเนื่อง ทำความเร็วได้อย่างน่าพอใจ (80 กม./ชม. +) คันเร่งมีความสมูท ช่วยให้การเพิ่มความเร็วในระดับต่างๆ ทำได้สะดวก เลี้ยวได้คมพอตัว แต่ไม่ไวจนเกินควบคุม มือใหม่ก็ขี่เล่นได้ง่าย ด้วยลูกเล่นที่ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก คนที่มีประสบการณ์แล้วยิ่งสนุก แต่หากมีข้อสังเกตอยู่เล็กน้อย เนื่องจาก Yamaha WaveRunner VX-C นั้น เป็นรุ่นที่เน้นความประหยัด ซึ่งไม่ระบบถอยหลังมาให้จากโรงงาน ในการใช้งานโดยเฉพาะการจอดนั้น อาจต้องอาศัยความชำนาญสักเล็กน้อย แต่หากต้องการความสะดวกที่มากกว่า จ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย แล้วมองเป็น Yamaha WaveRunner VX ที่มีระบบถอยหลัง Ride (ถอยหลังด้วยระบบไฟฟ้า มีเกียร์ว่าง และใช้ถอยหลังเพื่อช่วยชะลอความเร็วได้) มาให้ ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
Yamaha WaveRunner FX Cruiser SVHO สปอร์ตทัวริ่งเรือธง...ตัวพ่อแห่งวงการ
ลองรุ่นเล็กกันจนรู้เฟืองแล้ว ก็ได้เวลาขยับเลเวลมาขี่รุ่นใหญ่ โดย Yamaha WaveRunner FX Cruiser SVHO นั้น ถือว่าเป็นสปอร์ตทัวริ่งรุ่นเรือธงของทางค่าย โดยมาพร้อมขุมพลังในพิกัด 1.8 ลิตร พ่วง Supercharger ( SVHO...Super Vortex High Output) ที่เน้นเรื่องของแรงบิดและอัตราเร่งเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความสนุกและประสิทธิภาพในระดับสูง นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสีแบบ Touch Screen ที่สามารถบอกความเร็ว รอบเครื่องยนต์ รวมถึงค่าการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างครบครัน มีระบบ Cruise Control เพื่อล็อคความเร็วในการเดินทาง ระบบปรับ Trim ปากกระบอกปั๊ม ปรับองศาหัวเรือขึ้น - ลง เพื่อความเหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่ มีระบบ Ride สำหรับถอยหลังและลดความเร็ว ตัวเรือมีขนาดใหญ่รองรับการเดินทางได้ถึง 3 ที่นั่ง (สูงสุด 240 กก.) ท้องเรือออกแบบมาให้ลดแรงกระแทก ตัดคลื่นได้ดี เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
ทรงพลัง สมรรถนะเหนือชั้น เดินทางไกลๆ สวรรค์ชัดๆ
จะว่าไปแล้ว ผมมีโอกาสได้สัมผัสกับ Yamaha WaveRunner FX Cruiser SVHO มาหลายเจนเนอเรชั่น ในแต่ละช่วงเวลานั้น ก็จะสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากจะบอกว่ารุ่นปัจจุบันของ Yamaha WaveRunner FX Cruiser SVHO จัดว่ามีความสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการเดินทางก็คงไม่ผิดนัก ด้วยตัวเรือที่ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ ให้ความมั่นคงสูงที่สุด เดินสนุก ลุกนั่งสบาย นั่ง 2-3 คน ไม่ออกอาการโคลงเคลงให้เห็น ในส่วนของขุมพลังเป็นบล็อคที่นักเล่นในหลากหลายวงการต่างเชื่อมือ แม้หากเทียบตัวเลขแรงม้าแล้ว อาจยังไม่เป็นที่สุดสำหรับสายคุยสายขิง แต่ด้วยความที่ใช้เครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเรือระดับเดียวกัน ก็ย่อมมั่นใจได้ว่าในเรื่องของแรงบิดและความทนทานย่อมเหนือกว่าตามพื้นฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งเมื่อการันตีด้วยเครื่องหมายการค้าของ Yamaha แล้ว ทุกคนต่างรู้กันดีถึงคุณสมบัติข้อนี้ ความเร็วสูงสุดบนผืนน้ำที่แจ้งบนหน้าปัดอยู่ที่ 112 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเหลือๆ อย่างเหนือชั้น แต่สิ่งที่ดีกว่านั้นคือ เรื่องของการตอบสนองที่ทำได้อย่างรวดเร็ว ขึ้นน้ำได้ไว เดินคันเร่งได้ละเอียด ไม่กระโชกโฮกฮาก (หากไม่ต้องการ) ทรงตัวมั่นคง ตัดคลื่นได้ดี ขี่ใช้ความเร็วสูงน้ำไม่กระเด็นขี่มาเปียกผู้ขับขี่ และไม่มีปัญหาจุกจิกในยามที่ใช้เดินทาง ทั้งหมดนี้คือ หัวใจของการเดินทางทางสายน้ำ
ลำไหนก็ได้...รุ่นเริ่มก็คุ้ม รุ่นใหญ่ก็ป๋าสมราคา
หลังจากที่ลองมาทั้ง 2 รุ่นแล้ว ขออนุญาตสรุปเป็นภาพรวม สำหรับผู้ที่อยากจะเริ่มต้นเข้าสู่วงการเจ็ตสกี ว่าควรเริ่มจากตรงไหน อย่างแรกเลย ควรต้องดูงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งถ้างบไม่ใช่ปัญหา และตัดเรื่องความอยากที่จะได้สัมผัสสิ่งที่ดีที่สุดออกไป ควรดูเรื่องวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ว่าต้องการนำมาขับขี่รูปแบบไหน สำหรับบางคนการเลือกใช้เรือที่ไม่เน้นความเร็วสูงมาก ขี่เดินทางท่องเที่ยวสบายๆ เอาความประหยัดเข้าว่า WaveRunner VX Series ก็ดูจะเป็นคำตอบที่ลงตัว ไม่ต้องมาแบกต้นทุนเรื่องค่าตัว ค่าดูแลรักษา รวมถึงค่าน้ำมันในการเดินทาง ที่ต้องยอมรับว่า เรือรุ่นที่ใหญ่และแรงกว่า ก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายตรงนี้รออยู่มากขึ้นไปด้วย ส่วนใจที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด ความสบาย ความมั่นคง และภาพลักษณ์ขั้นสุด เชื่อได้ว่า Yamaha WaveRunner FX Cruiser SVHO จะเป็นคำตอบที่ตรงใจนักเล่นหลายๆ คนอย่างแน่นอน โดยทุกท่านสามารถเข้าไปดู วิธีการเลือกเจ็ตสกีให้ถูกใจ
ในปัจจุบันมีตัวเลือกในวงการที่หลากหลาย ซึ่งผู้บริโภคมักจะใช้เป็นเหตุผลประกอบการตัดสินใจที่ต่างกัน แต่สิ่งที่ Yamaha ให้ได้แบบยากที่ใครจะเลียนแบบ คงหนีไม่พ้นเรื่องของความทนทาน ดูแลรักษาง่าย ไม่จุกจิก ไม่มีปัญหาหยุมหยิมที่ทำให้นักเล่นหน้าใหม่รู้สึกเข็ดขนาดในวงการนี้ ซึ่งเรื่องของความทนทาน เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างชื่อให้กับสินค้าแบรนด์นี้ในทุกๆ วงการ นอกจากนี้ทางค่ายยังมีบริการหลังการขายที่เข้าถึงลูกค้า ซึ่งสร้างความอุ่นใจให้กับนักเล่นทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ได้ไม่น้อย
สำหรับใครที่สนใจกิจกรรมดีๆ แบบนี้ บอกเลย...มีอีกแน่นอน
กิจกรรมดีๆ แบบนี้ ยังคงมีให้ได้สัมผัสกันอย่างต่อเนื่อง โดยท่านที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ได้ทางแฟนเพจ Watchara Marine สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Yamaha Marine ที่ให้เกียรติทาง BoxzaRacing ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในกิจกรรม WaveRunner Test Ride 2020 ครั้งนี้ครับ