เปิดโฉมให้เห็นกันเต็มตาเสียที่ สำหรับ Mini Cooper SE รถพลังงานไฟฟ้า 100% เป็นคันแรก และรุ่นแรกของค่าย Mini โดย Mini Cooper SE ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ไม่มีเครื่องยนต์แต่อย่างใด เจ้ารถพลังงานไฟฟ้าของค่าย Mini คันนี้ ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานใน Oxford สหราชอาณาจักร
Mini Cooper SE รถพลังงานไฟฟ้าคันนี้ ใช้พื้นฐานมาจาก Mini Hatch 3 ประตู พร้อมกับถูกตกแต่งให้แตกต่างจากรุ่นธรรมดา ทั้งภายนอก และภายใน กระจังหน้าเป็นแบบปิดเพราะไม่ต้องการระบายความร้อน เพราะเป็นรถที่ไม่มีเครื่องยนต์ และที่โดดเด่นคงเป็นสีสัน ที่นำมาตกแต่งเพียงแค่มองผ่านก็รู้ว่ารถคันนี้ เป็นรถพลังงานไฟฟ้า
ไม่ว่าจะเป็นใช้สีเหลืองเป็นจุดเด่นในการตกแต่งที่กระจังหน้า, ฝาครอบกระจกมองข้าง, และทำเป็นสัญลักษณ์ปลั๊กไฟสีเหลืองที่ด้านท้าย และด้านข้างตัวถัง ส่วนสิ่งที่สะดุดตาคงเป็นล้ออัลลอย ลวดลายใหม่ที่ออกแบบมา เฉพาะรุ่น Mini Cooper SE เป็นลาย Corona Spoke สีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว ส่วนชุดไฟหน้า และไฟท้ายยังคงเหมือนรุ่นอื่นไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า แบบ LED และไฟท้ายลายธงยูเนี่ยนแจ็ก
ภายในห้องโดยสารของ Mini Cooper SE ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว ที่มาพร้อมกับระบบนำทาง มาพร้อมที่ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charging, เรือนไมล์จอดิจิตอลพร้อมฟังก์ชั่น eDrive, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยก 2 โซน ระบบเบรกมือไฟฟ้า นอกจากนั้นยังสามารถเลือกออฟชั่นพิเศษ เปลี่ยนเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ได้ด้วย
Mini Cooper SE มาพร้อมกับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ มีพละกำลังมากถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้านอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 150 กม./ชม. นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นพิเศษในการสร้างเป็นเสียงเลียนแบบเสียงเครื่องยนต์ เพื่อมอบความเร้าใจในการขับขี่เสมือนขับด้วยเครื่องยนต์จริงๆ ด้านแบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-Ion ขนาด 32.6 kW สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 235 – 270 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง แต่หากชาร์จไฟบ้านหรือชาร์จด้วยปลั๊กแบบสามเฟส (สำหรับสถานีชาร์จสาธารณะ) จะใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ในการชาร์จให้ได้มากถึง 80% แต่ถ้าชาร์จเต็ม 100% ก็จะต้องรอถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าชาร์จไฟผ่านกระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) สามารถชาร์จได้ 80% ในเวลาเพียง 35 นาที ส่วนพอร์ทชาร์จไฟฟ้านั้นถูกติดตั้งอยู่ที่ ช่องเติมน้ำมันที่เดิม
ส่วนพื้นที่เก็บแบตเตอรี่ถูกติดตั้งไว้ที่พื้นตัวถังรถ จึงไม่ส่งผลไปเบียดพื้นที่ในห้องโดยสาร หรือพื้นที่เก็บของด้านท้ายรถ อีกทั้งพื้นที่เก็บของท้ายรถของ Mini Cooper SE มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 211 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะด้านหลังลง จะสามารถเพิ่มพื้นที่มากถึง 731 ลิตร ส่วนน้ำหนักตัวของ Mini Cooper SE จะเพิ่มขึ้น 145 กม. จากตัว Mini Cooper S ตัวถัง 3 ประตู เนื่องจากการมีน้ำหนักของแบตเตอรี่เสริมขึ้นมา ในด้านการขับขี่มีโหมดให้เลือกความเร้าใจถึง 4 โหมด Sport Mode, MID, GREEN และ GREEN+
ด้านราคาค่าตัวของ Mini Cooper SE อยู่ที่ 24,400 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 9 แสนกว่าบาท ส่วนในเมืองไทยนั้นยังไม่กำหนดการมาของ Mini Cooper SE แต่คาดว่าคงไม่นานเกินรอ เราอาจได้เห็นรถพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กจากค่าย Mini มาวิ่งบนท้องถนนบ้านเรา เพราะยุคนี้ถือว่าเป็นยุค รถพลังงานทางเลือกครองถนนนะครับ
Cr.bmwgroup.com
