บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าสานต่อความสำเร็จตลอดปี 2562 ด้วยทัพยนตรกรรมพรีเมียมหลากหลายเซกเมนต์ และนวัตกรรมแห่งอนาคตที่ตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างรอบด้าน ด้วยการเผยโฉม BMW Series 3 สปอร์ตซีดานอัจฉริยะ ที่ยกระดับเทคโนโลยีการควบคุมคำสั่งผ่านเสียงที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น, BMW Z4 คืนชีพสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มาพร้อมกับความล้ำสมัยในทุกด้าน, Mini รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 60 ปี กับลวดลายสุดพิเศษ และ BMW C 400 GT สกู๊ตเตอร์อเนกประสงค์สไตล์สปอร์ตล้ำ
มร. คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
มร. คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยว่า "ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีในตัวเราคืออีกมาตรวัดความสำเร็จที่สำคัญ โดยในปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่งในการสำรวจ Thailand’s Most Admired Company 2018 โดยนิตยสารแบรนด์เอจ ด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยมในด้านนวัตกรรม ภาพลักษณ์แบรนด์ ความสำเร็จทางธุรกิจ และความรับผิดชอบต่อสังคม แน่นอนว่าในปี 2562 นี้ เราจะเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จในทุกด้าน เริ่มต้นจากการเปิดตัวรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ มากมายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการขับขี่ ดังจะเห็นได้จากการเผยโฉม BMW Series 3 ใหม่, BMW Z4 ใหม่ หรือมอเตอร์ไซค์ BMW C 400 GT ในวันนี้ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีล้ำยุคอย่าง 3D Printing มาเพิ่มทางเลือกในการผลิต ปรับแต่งรถยนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น และการเริ่มดำเนินงานสายการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดให้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยได้ทันท่วงที"
BMW Series 3 2019
กลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชั่นที่ 7 กับการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการขับขี่เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับยิ่งขึ้น อันเป็นหัวใจสำคัญของ BMW โดย บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 โฉมใหม่ มาในดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวสะดุดตา ตอกย้ำความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่งและคมชัด ร่วมกับการออกแบบโครงสร้างใหม่ โดยการใช้วัสดุอลูมิเนียมในชิ้นส่วนและโครงสร้างต่าง ๆ เช่น กระโปรงและกันชนหน้า เบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 55 กิโลกรัม การออกแบบตัวถังที่กระจายน้ำหนัก 50:50 และการออกแบบเส้นสายตัวถัง, ระบบ Active Air Flap แผ่นปิดด้านในกระจังหน้าไตคู่เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด และการจัดระเบียบทิศทางการไหลของอากาศ ผ่าน Air Curtains ที่ช่วยลดแรงเสียดทานอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำถึง 0.26 ลดลง 0.03 จากรุ่นก่อนหน้า
ไฮไลท์ที่สำคัญของ BMW Series 3 2019 นั่นคือระบบ BMW Live Cockpit Professional ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นอันชาญฉลาดอีกมากมาย สามารถเรียนรู้และจดจำกิจวัตรประจำวันและความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ได้ ก่อนจะนำมาปรับใช้งานอย่างถูกต้อง แม่นยำ หากผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุณหภูมิในตัวรถหนาวเกินไป ก็สามารถพูดออกคำสั่งว่า "Hey BMW, I’m cold" เพื่อให้ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ปรับการทำงานของระบบปรับอากาศให้เหมาะสม ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้พัฒนาให้ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มเติมคุณสมบัติและรูปแบบการเรียน รู้ใหม่ๆ ได้อีกในอนาคต และอัดแน่นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกมากมาย
BMW Series 3 2019 มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น 2 ขุมพลัง ได้แก่ BMW 320d Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มอบพละกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 6.8 วินาที มอบความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และ BMW 330i M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่งกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า ที่ 5,000 - 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 1,550 - 4,400 รอบ/นาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 5.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW Z4 2019
รถสปอร์ตโรดสเตอร์สุดคลาสสิก ที่ได้กลับมาให้แฟนๆ ได้สัมผัสอีกครั้ง ยกระดับการพัฒนาครั้งใหม้ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น สะท้อนความสปอร์ตล้ำ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในทุกด้าน ควบคู่กับสะท้อนเอกลักษณ์ใหม่ด้วย กระจังหน้าทรงไตคู่มาในดีไซน์ใหม่แบบตะแกรง เสริมกลิ่นอายความสปอร์ตคู่กันไปกับกระโปรงหน้าทรงยาว ไฟหน้า LED ที่จัดเรียงในแนวตั้ง และช่องรับลมขนาดใหญ่บริเวณซุ้มล้อหน้า ขณะที่ส่วนท้ายรถก็ขับเน้นบุคลิกสุดโฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์ที่ผนึกมาเป็นส่วนหนึ่งของฝากระโปรงท้ายซึ่งซ่อนพื้นที่เก็บของที่มีความจุถึง 281 ลิตร มากกว่าในรุ่นก่อนหน้าถึง 50%, หลังคาผ้าใบที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสในเวลาเพียง 10 วินาที รองรับการเปิด-ปิดขณะขับขี่ได้ที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรูปแบบตัวถังได้รับการออกแบบให้กระจายน้ำหนักสู่ล้อหน้าและล้อหลังที่อัตราส่วน 50:50
สำหรับออพชั่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ระบบ Driving Experience Control สามารถปรับแต่งลักษณะการขับขี่ให้ตรงกับทุกความต้องการ นับจากการโลดแล่นบนท้องถนนในวันสบายๆ ในโหมด COMFORT ไปจนถึงความแม่นยำและเฉียบคมสไตล์สปอร์ตในโหมด SPORT และ SPORT+, BMW Live Cockpit Professional มาพร้อมกับแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลล้วน และหน้าจอทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้ว ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ซึ่งรองรับการปรับแต่งทุกคุณสมบัติให้เข้ากับการใช้งานจริงของผู้ขับขี่ ประสานเป็นหนึ่งกับบริการ BMW ConnectedDrive เพื่ออำนวยความสะดวกในทุกจังหวะทั้งยังรองรับการอัพเดทซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในอนาคต รวมไปถึงระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant ที่มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น
BMW Z4 2019 มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ BMW Z4 sDrive30i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์/ 258 แรงม้า และเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ใน 5.4 วินาที ร่วมกับเสริมความโฉบเฉี่ยวจากทุกมุมมองด้วยชุดแต่ง M Sport รอบคัน เบาะนั่งหนังแท้ Vernasca พวงมาลัยหนังแท้ และห้องโดยสารที่ตกแต่งด้วยชุดแต่ง Quartz Silver
ส่วน BMW Z4 M40i เสริมความแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ส่งพลังถึง 250 กิโลวัตต์ / 340 แรงม้า ลงสู่ล้อหลัง เร่งความเร็ว 0-100 ได้ภายใน 4.5 วินาที เติมความดุดันด้วยระบบช่วงล่างสมรรถนะสูง Adaptive M Suspension ระบบเบรก M Sport เบาะนั่ง M Sport หนังแท้ Vernasca พร้อมพวงมาลัยหนังแท้ดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยลาย M แผงคอนโซลวัสดุ Sensatec และชุดเครื่องเสียงแบบเซอร์ราวด์จาก Harman Kardon
Mini Cooper S Hatch 60 Year edition
จากความสำเร็จของ MINI Cooper S Ice Blue Edition รุ่นพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของแบรนด์ Mini ที่เปิดจำหน่ายในประเทศไทยและหมดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ที่พลาดโอกาสอย่าเพิ่งเสียใจ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมเผยโฉมรถยนต์รุ่นพิเศษ Mini Cooper S Hatch รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี ที่มาในดีไซน์สุดคลาสสิก ตามสไตล์มินิแบบเรโทรที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร ให้แฟนๆ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์รูปลักษณ์อันโดดเด่นนี้
Mini Cooper S Hatch 60 Year edition มาในสี British Racing Green ที่ตัดขอบสีดำ Piano Black พร้อมหลังคาและที่ครอบกระจกสีดำรอบคันโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ 60 ปี ตกแต่งเส้นสายบนฝากระโปรงหน้าด้านซ้าย กรอบไฟเลี้ยวด้านข้าง รวมถึงไฟ LED ฉายสัญลักษณ์ 60 ปี จากประตูคนขับ นอกจากนี้ ยังสร้างเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วในลาย 60 ปี 2 สี สุดพิเศษ และไฟท้าย LED ลายธงยูเนียนแจ็คอันเฉพาะตัวของมินิ ที่ประกาศตัวตนแห่งสัญชาติอังกฤษอีกด้วย ส่วนภายในมอบความพิเศษด้วย โลโก้ 60 ปี ปรากฏบนพวงมาลัยและบนที่นั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นเบาะหนัง MINI Yours Leather Lounge 60 Years สี Dark Maroon ตัดกับตะเข็บสีเขียวเข้ากับสีตัวถังสุดพิเศษนี้
มอบสมรรถนะที่เร้าใจด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ สมรรถนะสูงสุด 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตรที่ 1,350 - 4,600 รอบ/นาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 จังหวะ มอบความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.7 วินาที สำหรับมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู ที่สำคัญ ยังพร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยล้ำสมัยเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง โดย Mini Cooper S Hatch 60 Year edition จะได้รับการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motor Show 2019
BMW C400 GT ราคา 399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูลสกู๊ตเตอร์ขนาดกลาง มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมสมรรถนะการขับขี่แบบทัวริ่งในสไตล์แกรน ทัวริสโม ให้เพลิดเพลินทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ระยะใกล้หรือไกล ด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ สมรรถนะสูงสุด 25 กิโลวัตต์ (34 แรงม้า) ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT
BMW C400 GT มอบความโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ที่ผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว อาทิ ไฟหน้าคู่ LED สไตล์มอเตอร์ไซค์ตระกูล C พร้อมไฟ LED ส่องสว่างตอนกลางวัน daytime running light และไฟ Control Brake Light, กระจกบังลมที่ได้รับการออกแบบมาให้สูงกว่า BMW C 400 X และช่องเก็บของแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสองส่วนเพื่อความสะดวกสบายและเป็นระเบียบ พร้อมด้วยช่องเก็บหมวกกันน็อก Flexcase ที่พับเก็บอยู่ใต้เบาะแบบตอนเดียว ขับขี่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวัน, หน้าจอสีมัลติฟังก์ชั่น TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีเชื่อมต่อ BMW ConnectedRide และระบบ Keyless Ride โดยมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Alpine White สีเทา Moonwalk Grey Metallic และสีดำ Blackstorm Metallic
และนี่คือรถใหม่ที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวต้อนรับศักราชใหม่ในปี 2562 โโยในเวลานี้ได้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว โดยแฟนๆ เตรียมสัมผัส BMW Series 3 2019, BMW Z4 2019, Mini ฉลองครบรอบ 60 ปี และ BMW C 400 GT อย่างใกล้ชิดได้ที่งาน Bangkok International Motor Show 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 7 เมษายน 2562 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี และที่โชว์รูม BMW ใกล้บ้านท่าน
