โรงงานรับจ้างผลิตรถยนต์ของ MAGNA ในเมือง Graz ประเทศ Austria เป็นเจ้าภาพในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Jaguar I‑Pace ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Jaguar กับการเปิดตัวรถไฟฟ้าทั้งคัน โดย Jaguar I-Pace เป็นโมเดลที่ 2 ของ Jaguar ที่ผลิตโดย MAGNA โดยรุ่นแรกที่ผลิตคือ Jaguar E-Pace ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2017 ทั้งนี้การเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ของ Jaguar I-Pace มีผู้ร่วมงาน และแขก VIP มากมาย มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ของ Jaguar ซึ่งแขกผู้มีเกียรติในงานยังมีโอกาสได้ทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้เป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับภายนอกของ Jaguar I-Pace ได้แรงบันดาลใจจาก C-X75 Supercar Concept ด้วยการออกแบบด้านหน้ารถแบบ Cab-forward ส่วนด้านหลังแบบ Squared-off นอกจากนี้กระจังหน้าสามารถเปิด-ปิด ที่ช่วยทั้งการระบายความร้อน และเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทั้งหมดนี้ จึงให้ค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานอากาศต่ำเพียง 0.29Cd
สำหรับภายใน ได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวาง นั่งสบาย ซึ่งทางบริษัทฯ ระบุว่ามีพื้นที่วางขาด้านหลังกว้างถึง 890 มม. มีพื้นที่ความจุห้องสัมภาระท้ายที่ 656 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะหลังทั้งหมด จะสามารถขยายความจุมากถึง 1,453 ลิตร สำหรับออพชั่นภายในเด่นๆ จะได้รับระบบอินโฟเทนเมนต์ Touch Pro Duo รุ่นใหม่ของจากัวร์ ประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสด้วยเซ็นเซอร์แบบ Capacitive และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย, ระบบนำทาง EV, Amazon Alexa เป็นต้น
Jaguar I-Pace ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าไว้สองชุด ซึ่งให้สมรรถนะรวมสูงสุดถึง 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ ผสานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 90 กิโลวัตต์ จำนวน 432 เซลล์ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 475 กม. สำหรับระยะเวลาชาร์จไฟ หากชาร์จไฟด้วย DC กำลัง 50kW สามารถชาร์จไฟให้ได้มากกว่า 80% ในระยะเวลา 85 นาที แต่ถ้าเป็น DC กำลัง 100kW ก็จะใช้เวลาในการชาร์จไฟน้อยลงเพียง 40 นาที เท่านั้น แต่ถ้าหากชาร์ไฟบ้านผ่าน AC 7kW ก็จะต้องใช้เวลานานถึง 10 ชั่วโมง จึงจะชาร์จได้ความจุมากถึง 80%
Jaguar I-Pace มอบอัตราเร่งจาก 96 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที ทางด้านตัวรถได้รับการออกแบบให้กระจายน้ำหนักเท่ากันที่ 50 : 50 รวมไปถึงการวางชุดแบตเตอรี่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อส่งเสริมการกระจายน้ำหนักให้สมดุลเช่นเดียวกัน ระบบกันสะเทือนใช้โช้คถุงลม
