เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559 - 10:40

Honda Civic 2016 สัมผัสแรกก่อนเปิดตัว กับว่าที่เจนเนอเรชั่นที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

 

Honda Civic 2016 สัมผัสแรกก่อนเปิดตัว กับว่าที่เจนเนอเรชั่นที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

 

Honda Civic RS ขุมพลัง 1.5 ลิตร เทอร์โบ 173 แรงม้า

 

          Honda Civic 2016 (ฮอนด้า ซีวิค 2016) เปิดไปเป็นที่เรียบร้อยในต่างแดน ส่งผลให้แฟนๆ ซีดานบ้านเราต่างรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ยังไม่มีข่าวที่แน่ชัดของซีดานเจนเนอเรชั่นที่ 10 ของค่ายตัว H แต่นับจากนี้เป็นต้นไป BoxzaRacing กล้าพูดได้แบบเต็มปากเลยว่า “ทุกท่านจะไม่ต้องมโนกันอีกต่อไป” เพราะล่าสุด...ทางบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญชวน BoxzaRacing ไปเป็นส่วนหนึ่งในการสัมผัสสมรรถนะของ Honda Civic ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ก่อนที่ Civic ในเจนเนเรชั่นที่ 10 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคม ที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ เอาเป็นว่า...เราไปเจาะลึกในรายละเอียดเรื่องฟีลลิ่งการขับขี่และข้อมูลทางเทคนิคของ Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่มาในสายรหัส FC กันเลยดีกว่าครับ

          Honda Civic 2016 มาพร้อมดีไซน์ที่สื่อถึงความเป็นพรีเมียมสปอร์ตตามสไตล์รถยุโรป ด้วยโครงสร้างตัวรถที่กว้าง และมีความสูงที่ต่ำลง ให้อารมณ์ ความรู้สึกของการขับขี่แบบสปอร์ต ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ ในขณะเดียวกันก็ยังมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D Segment ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในระดับพรีเมียม

 

รุ่น RS ถือเป็นรุ่นท็อปสำหรับ Civic 2016

 

           Honda พาทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ VTEC Turbo สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ฮอนด้าแนะนำเครื่องยนต์ VTEC Turbo ในยนตรกรรมพรีเมียมสปอร์ตซีดาน Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 10 โดยเครื่องยนต์บล็อคนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ภายใต้เทคโนโลยีหลักๆ ได้แก่ ระบบหัวฉีด ไดเรคท์ อินเจคชัน และท่อไอดีแบบตรง โดยหัวฉีดไดเรคท์ อินเจคชันจะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่กระบอกสูบ ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิภายในกระบอกสูบ ผนึกกำลีังกับการไหลของไอดีแบบตรง ช่วยให้อากาศและเชื้อเพลิงผสมกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นและต่อเนื่อง ตามด้วยระบบการควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วแบบคู่ (Dual VTC) ของท่อไอดีและท่อไอเสีย โดย Valve Timing Control (VTC) จะเป็นตัวควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วของท่อไอดีและท่อไอเสียสอดคล้องกัน จึงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในรอบต่ำ และที่เด็ดที่สุดสำหรับ Honda Civic เจนเนอเรชั่นนี้ คงหนีไม่พ้นเทอร์โบชาร์จที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้า ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โดยอัตราบูสต์ที่กำหนดไว้ คือ ประมาณ 1.12 บาร์

 

ขุมพลัง VTEC Turbo 1.5 ลิตร ใน Honda Civic 2016

 

          ด้วยปัจจัยหลักทั้ง 3 ประการ ส่งผลให้เครื่องยนต์บล็อคใหม่นี้ ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง และยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องออกตัวและหยุดรถบ่อยๆ หรือการขับขี่บนทางหลวง แม้ว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้จะมีความจุเพียง 1.5 ลิตร แต่กลับให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,700-5,500 รอบ/นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่กลับมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า พร้อมให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ราบรื่นด้วยการจับคู่กับชุดเกียร์ CVT

 

ทรงตัวโดดเด่นในทุกโค้ง อัตราเร่งต่อเนื่องทุกย่านความเร็ว

 

          การทดลองขับ Honda Civic 2016 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ถือเป็นครั้งแรกที่ BoxzaRacing ได้ยลโฉมตัวเป็นๆ ของเจนเนอเรชั่นนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า เพียงแว๊บแรกที่ได้เห็น ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ด้วยดีไซน์ที่มีความโดดเด่น ดูเป็นสปอร์ตที่แฝงความหรูหราตั้งแต่หัวจรดท้าย แถมด้วยงานประกอบสุดประณีต ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าเป็นซีดานระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียว

 

ห้องโดยสาร...จากสเปคที่จำหน่ายในต่างประเทศ
 
เบาะหลังถูกวางในตำแหน่งที่ต่ำลง ช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ

 

          รุ่นที่ทาง Honda จัดมาให้ชมและให้ลอง คือ รุ่น RS เครื่องยนต์ 1.5 Turbo ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปในเจนเนอเรชั่นนี้ หลังจากนั้นเมื่อเข้าไปในห้องโดยสารยังรู้สึกตื่นเต้นกันดีไซน์ภายในที่ออกแบบมาอย่างล้ำสมัยและปรับให้เข้ากับรูปทรงของตัวรถเป็นอย่างดี แม้จะดีไซน์หลังคามาให้เตี้ยลง แต่เมื่อเข้าไปนั่งแล้วกลับไม่รู้สึกว่าอึดอัด วัสดุที่ใช้ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมประดุจซีดานฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลและแผงประตู Soft Touch สีดำสลับกับแถบอลูมิเนียม รับกับเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตได้อย่างลงตัว เรือนไมล์มาในรูปแบบจอ TFT แสดงผลพร้อมกราฟฟิคที่ดูแพรวพราวตามสไตล์ยนตรกรรมยุคใหม่ แถมยังโดดเด่นด้วยฟังค์ชั่นที่เหมาะกับบ้านเราอย่างยิ่ง คือ สามารถสตาร์ทรถและเปิดแอร์โดยอัตโนมัติด้วยรีโมทแม้จะไม่ได้อยู่ในรถ (โดยที่ประตูยังไม่เปิดล็อค เพื่อความปลอดภัย) ซึ่งมีประโยชน์มากๆ หากต้องถอดรถกลางแจ้ง หลังจากที่ปรับเบาะและตำแหน่งพวงมาลัยจนเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ได้เวลาลองของกับ Honda Civic 2016 กันเสียที

 

บั้นท้ายให้มุมมองที่สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย

 

          สัมผัสแรกยามที่แตะคันเร่งของ Honda Civic 2016 สิ่งที่รู้สึกได้ คือ ความสมูทในการเคลื่อนที่รวมถึงพละกำลังที่มีให้ ซึ่งถ้าไม่บอกคงไม่รู้ว่านี่คือ เครื่องยนต์ที่มีขนาดเพียง 1.5 ลิตร น้ำหนักพวงมาลัยถือว่ากำลังดีและเซ็ทมาในแบบที่ควรจะเป็น ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป การตอบสนองในโค้งถือว่าทำได้อย่างแม่นยำไม่แพ้ยนตรกรรมสปอร์ตพันธุ์แท้ โดยผสานกับการทำงานของช่วงล่างที่เซ็ทมาในแนวนุ่มหนึบได้เป็นอย่างดี การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงในสนามช้างฯ ไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นปัญหา และให้อารมณ์ที่กำลังกลมกล่อม ไม่กระด้างจนเกินงาม หรือย้วยจนขาดความมั่นใจ เช่นเดียวกับในเรื่องของอัตราเร่ง ที่เน้นมาแบบเนิบๆ แต่ยาวต่อเนื่อง ความเร็วจากเครื่องยนต์ VTEC Turbo 1.5 ลิตร ค่อยๆ ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามสไตล์การทำงานของชุดเกียร์ CVT โดยทำความเร็วในช่วงสุดทางตรงสนามช้างฯ ได้กว่า 170 กม./ชม. ซึ่งตรงจุดนี้เอง หากระบบเบรกไม่สามารถสยบความเร็วได้ดีพอ อาจทำให้ผู้ขับออกอาการเหวอได้ แต่ไม่ใช่กับ Honda Civic 2016 ที่เซ็ตเบรคมาได้ในระดับที่ผมเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อ และแตกต่างจากฟีลลิ่งการเบรคของ Civic ที่เคยพบมาอย่างสิ้นเชิง โดยเมื่อสัมผัสแป้นเบรกอย่างแผ่วเบา ความเร็วจะค่อยๆ ลดลงอย่างนุ่มนวล ไม่รุนแรงเหมือนเจนเนอเรชั่นที่ผ่านๆ มา แต่หากเพิ่มน้ำหนักลงไปอีกเล็กน้อย เบรคชุดนี้กลับให้ประสิทธิภาพที่โดดเด่นเกินคาด คือ สามารถสยบความเร็วของตัวรถได้อย่างมั่นใจ ชนิดที่ว่าสั่งได้ และสื่อให้เห็นเลยว่า ชุดดิสค์เบรคทั้ง 4 ล้อ ชุดนี้ มีพลังการเบรคที่เหลือเฟือต่อทุกการใช้งานจริงๆ หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพที่เหนือกว่านั้น การใช้ Paddle Shift ช่วยลดเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตรงจุดนี้ขึ้นไปได้อีกระดับ

 

บอกได้เลยว่า...คุ้มค่าการรอคอยจริงๆ ครับ

 

          แม้เวลาที่ได้สัมผัสกับ Honda Civic 2016 ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ช่างสั้นนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ BoxzaRacing และทุกๆ ท่านที่ได้เข้าร่วมทดลองขับขี่ในครั้งนี้สัมผัสได้ และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ "นี่คือ Civic ที่ดีที่สุด และขับสนุกที่สุดเท่าที่ทาง Honda เคยผลิตซีดานผู้นี้ส่งออกสู่ตลาดมากว่า 43 ปี" ซึ่งสิ่งนี้เอง น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ทางค่ายตัว H ไม่เคยหยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์ผลงาน และนำเสนอสิ่งดีๆ เพื่อผู้ใช้รถใช้ถนนมาโดยตลอด แม้ด้วยข้อจำกัดบางประการ ทำให้ ณ เวลานี้ เรายังไม่สามารถเผยแพร่ภาพและรายละเอียดได้มากนัก แต่ BoxzaRacing ยังคงยืนยันในคำพูดเดิมว่า Honda Civic 2016 เป็นยนตรกรรมที่คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ มีนาคมนี้...เจอกันแน่นอนครับ

 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook