Honda Civic เจนฯ 9 vs. เจนฯ 10 พัฒนาการก้าวสำคัญจากรุ่นสู่รุ่น
Honda Civic 2016 เป็นรถอีกรุ่นที่คนไทยกำลังจับตามองอย่างมากในเวลานี้ ด้วยความสวยงามที่อัพเกรดมากขึ้น, ขนาดตัวที่ใหญ่, เทคโนโลยีแบบจัดเต็มดุจรถยนต์หรู ทั้งความสะดวกสบาย-ความบันเทิง และความปลอดภัย ที่สำคัญยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ได้รับการพัฒนามาเพอื่การนี้โดยเฉพาะ ให้สมรรถนะสูงขึ้น แต่ประสิทธิภาพการประหยัดและลดมลพิษที่ดีกว่าเดิม จึงทำให้รถยนต์รุ่นนี้ เป็นตัวแทนยนตกรรมจากโลกอนาคตเลยทีเดียว
ในวันนี้ Boxzaracing ได้นำคู่เปรียบเทียบระหว่าง Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 9 กับ Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 มาประชันกัน ที่จะมาเปรียบเทียบการวิวัฒนาการของรุ่นสู่รุ่นที่ชัดเจน และลึกซึ้งยิ่งกว่า โดยในการเปรียบเทียบในครั้งนี้จะยกทั้งหมดมาประชันกัน
ภายนอก
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 9 ที่จำหน่ายในไทย จะมีรูปลักษณ์ที่เป็นสปอร์ตซีดานที่มีขนาดกะทัดรัด พร้อมกับการดีไซน์ที่ให้ความสวยงามเร้าใจด้วยกระจังหน้าโครเมียมตัว U พร้อมไฟมัลติรีแฟลกเตอร์ หรือโปรเจคเตอร์ที่ออกแบบตัวโคมให้รับกับช่องกระจังหน้า, ไฟท้ายรูปตัว C รวมไปถึงมีสปอร์เลอร์ท้ายที่เพิ่มความโดดเด่นอีกระดับ
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 ผู้มาในรหัส FC จะมีรูปลักษณ์แบบหลังคาลาดท้ายเหมือนคูเป้ พร้อมกับการดีไซน์หน้าตาใหม่ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับไฟหน้าโปรเจคเตอร์กับไฟหน้า LED ให้เลือก โดยไฟหน้า LED จะมีลูกเล่นด้วย ไฟท้ายรูปตัว C ที่มีขนาดใหญ่และดุดันกว่าเดิม รวมไปถึงเป็นตัวรถที่ถูกอัพเกรดให้ใหญ่ขึ้น พรีเมี่ยมขึ้น
มิติตัวถังของ Honda Civic ทั้งเจเนอเรชั่นที่ 9 และเจเนอเรชั่นที่ 10 มีข้อมูลดังนี้
มิติตัวถัง | Honda Civic Generation 9 |
Honda Civic Generation 10 |
พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.) |
4,525 X 1,755 X 1,434 |
4,631 X 1,799 X 1,418 |
ความยาวช่วงล้อ (มม.) | 2,670 | 2,700 |
ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.) |
1,499 - 1,522 | 1,547 - 1,562 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) | 150 | - |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) | 57 | 47 |
ภายใน
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 9 ได้ออกแบบภายในให้มีความทันสมัยด้วยมาตรวัดเรืองแสง 2 ชั้น เริ่มจากมาตรวัดหลักที่เป็นแบบเข็มเรืองแสงขนาดใหญ่ ส่วนจอสองที่อยู่ด้านบนจะแสดงข้อมูลการขับขี่แบบอัจฉริยะ (I-MID) โดยเป็นจอแบบดิจิตอล และอยู่บนระดับสายตา ทั้งนี้ยังมีจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วด้วย
ด้านการดีไซน์ของแผงคอนโซลจะให้ความเรียบง่ายด้วยวัสดุสีดำเพียงสีเดียว ยังไม่มีการเสริมแถบอลูมิเนียมในเวลานี้ เบาะนั่งปรับไฟฟ้ามีทั้งแบบปรับ 8 ทิศทาง ที่ฝั่งคนขับและปรับ 4 ทิศทาง ของที่นั่งผู้โดยสาร
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 อัพเกรดความล้ำสมัยอีกขั้นด้วยจอมาตรวัด 3 จอแบบ Full Digital ที่นอกจากแสดงข้อมูลความเร็วและควบคุมคำสั่งต่างๆ ผ่านพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นได้ พร้อมระบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto รวมไปถึงการออกแบบช่องอเนกประสงค์ตรงกลางที่ปรับได้อย่างหลากหลาย และพอร์ทเชื่อมต่ออีกหลายจุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน และในเบาะนั่งก็มีระบบอุ่นเบาะนั่งด้วย
นอกจากนี้ยังได้ออกแบบให้ห้องโดยสารมีความสะดวกสบายสูงสุดด้วยการใช้วัสดุดูดซับเสียงคุณภาพสูง, ซีลตัวถังให้แน่นหนาเพื่อลดเสียงรบกวนและการรั่วของอากาศภายในหรืออากาศภายนอกซึมเข้าห้องโดยสารได้ และติดตั้งกระจกนิรภัยแบบพิเศษ จึงทำให้รถรุ่นนี้ยกระดับคุณภาพตัวรถให้มีความพรีเมี่ยม เหมือนรถยนต์หรูจากยุโรป
เครื่องยนต์
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 9 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC ขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสูงถึง 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที กับเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร ให้อัดฉีดสมรรถนะแรงถึง 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 190 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที และส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
แต่ที่พลาดไม่ได้อยู่รุ่นหนึ่งคือ รุ่นขับเคลื่อนไฮบริดที่ได้เข้ามาประจำการในเมืองไทยด้วยเช่นกัน ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก IMA (Integrated Motor Assist) ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า และแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนขนาดกะทัดรัด ที่สามารถจุพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบควบคุมพลังงาน ECO ASSIST
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 แน่นอนว่ามาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 รุ่น ได้แก่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ i-VTEC 1.5 ให้สมรรถนะที่สูงถึง 173 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT กับเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร (ในต่างประเทศ) ที่ปรับสมรรถนะให้สูงกว่าเดิมถึง 158 แรงม้า โดยมีระบบส่งกำลังจากเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้เลือกในแต่ละรุ่น ส่วนสเปคไทยคาดว่าจะจำหน่ายเครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC ขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า เช่่นเดิม
ระบบความปลอดภัย
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 ได้อัพเกรดระบบความปลอดภัยจากเจเนอเรชั่นที่ 9 ให้มากขึ้นกว่าเดิม ทันสมัยกว่าเดิม โดยเฉพาะการบรรจุระบบ Honda Sensing ใหม่ ที่ให้คุณได้เดินทางอย่างอุ่นใจกว่าเดิม โดยแพ็คเกจนี้มีทั้ง ระบบรักษาช่องจราจรและแจ้งเตือนการชนด้านหน้า, ระบบ Millimeter-wave radar เรดาห์ชนิดพิเศษที่พร้อมตอบสนองระบบตรวจจับสัญญาณแบบอัตโนมัติที่ให้ความแม่นยำระดับมิลเมตร, ระบบตรวจสอบป้ายจราจร และครูส คอนโทรลแบบปรับความเร็วอัตโนมัติ รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างใหม่ Advanced Compatibility Engineering (ACE) ที่ให้ความแข็งแกร่ง ทนแรงบิดสูง, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, กล้องมองหลัง เป็นต้น
สรุป
Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 ที่จะมาสานต่อความสำเร็จจากเจเนอเรชั่นเดิมด้วยภาพลักษณ์ใหม่สปอร์ตพรีเมี่ยมเยี่ยงรถยนต์หรูจากยุโรปแทน แต่ยังคงรักษาความเร้าใจในรอบด้านได้เป็นอย่างดี ทั้งภายนอก, ภายใน, สมรรถนะเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบใหม่, ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นรวมไปถึงการออกแบบตัวรถให้มีความสมบูรณ์ทั้งประสิทธิภาพการลู่ลมที่ดีขึ้น, ห้องโดยสารกว้างขึ้น เป็นต้น แม้ว่าราคาจำหน่ายอาจจะถูกอัพให้สูงกว่าเดิมอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว
งานนี้ก็คงต้องรอดูต่อไปว่า Honda Civic 2016 ที่จะเข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการจะมีหน้าตาและมีข้อมูลอะไรเจ๋งๆ บ้างแต่ที่แน่ๆ แฟนๆ ได้สัมผัสมาตรวัดดิจิตอลตัวเต็มๆ เหมือนรถหรูในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้...BoxzaRacing กล่าวได้แค่เพียงว่า....เตรียมพบรีวิว Honda Civic 2016 แบบเต็มๆ ก่อนเปิดตัวที่นี่ได้เลยครับ งานนี้จัดให้แบบเต็มๆ แน่นอน