Honda Insight รถแดร็กรุ่นอินดี้ จูนโหดสุดไมล์ หัวใจ K24A โดย ECU Shop Monza Team Thailand

เขียนโดย: Mr Argus

เมื่อ: 30 สิงหาคม 2560 - 18:36

ภาพโดย: Streetmetal

My name is Bank an automotive photographer and a based out of Thailand

Honda Insight นำเข้าจากต่างประเทศ

 

          คอลัมน์ RacingMagazine คราวนี้มาดูรถแรงในสนาม กับรถรุ่นแปลกสุดอินดี้ที่ไม่มีขายในไทย นั่นคือ Honda Insight รุ่นแรกสุด เป็นรถที่ไฮเทคมากในยุคมิลเลนเนี่ยม ด้วยระบบไฮบริดสุดล้ำแห่งปี 2000 แต่คันนี้ถูกครอบครองโดย ช่างโต ECU shop จากทีมแข่ง Monza team Thailand แน่นอนว่าต้องไม่เดิม ซึ่งจะยัดไส้เต็มขนาดไหน และทำไมต้องเป็นรุ่นอินดี้อย่างนี้ด้วย ไปเจาะลึกกับรถช่างโตกันเลยครับ

 

ด้านหน้าเป็นกระดองครอบทั้งหมด

 

ทรงลู่ลมและน้ำหนักเบาจากโรงงาน 

 

          Honda Insight เป็นรถทรง 3 ประตูท้ายลาดที่แปลกตา เพราะเป็นรุ่นไม่มีจำหน่ายในไทย ซึ่งรถหายากแบบนี้ แต่ทำไมช่างโตยังขวนขวายหามาทำแข่ง ก็เพราะว่าตัวถังเดิมๆจากโรงงานมันถูกออกแบบมาให้ลู่ลมมาก เพื่อความประหยัดให้เข้ากับระบบไฮบริด โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.25 Cd เท่านั้น ซึ่งลู่ลมเทียบเท่ากับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์กันเลยทีเดียว แถมมีตัวถังแบบ 3 ประตูที่เล็กกะทัดรัดน้ำหนักเบาเพียง 850 กก.จากโรงงาน ซึ่งทั้งสองคุณสมบัตินี้ยากที่จะหารถอื่นในระดับเดียวกันมาเทียบได้ ทำให้ช่างโตเลือกใช้ความได้เปรียบทั้ง 2 ข้อนี้ นำเข้ารุ่นอินไซท์จากเมืองนอก มาโมดิฟายเป็น Dragster สุดซิ่ง 

 

ซุ้มล้อหลังแบบปิด เดิมๆจากโรงงาน

 

สปอยเลอร์ Supee X ขนาดมหึมา

 

          ช่างโตนำ Honda Insight มารื้อชิ้นส่วนตัวถังส่วนหน้าออกไปหมด เปลี่ยนเป็นกระดองไฟเบอร์จาก Monza shop ครอบโครงเดิมเพื่อความเบาและลู่ลมยิ่งขึ้น โดยยังคงเอกลักษณ์ซุ้มล้อหน้าแบบปาดหลบซุ้ม เพื่อความลู่ลมเช่นเดิม ส่วนด้านหลังก็ช่วยจัดเรียงอากาศใหม่ ด้วยสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ของ Supee X ติดราบไปกับฝาท้าย เพื่อลดแรงลมหมุนวนท้ายรถให้ดียิ่งขึ้น แถมด้วย wheelie bar คานเหล็กติดล้อท้ายรถ กันหน้ายกเพราะความแรง ส่วนกระจกรอบคันก็ไล่เบา ด้วยการเปลี่ยนเป็นโพลีคาร์บอนเนต

 

ภายในโล่งๆ เปลือยไล่เบา

 

พวงมาลัย Nardi แปลงคอโดย Workball 

 

          ภายในตามสไตล์รถแดร็ก ที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ปลดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกจนหมด ทั้งแผงบุรอบคัน คอนโซล เปลือยยันพื้นรถ เปลี่ยนเบาะเป็นบัคเก็ตซีททำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งตัว คาดด้วยเบลท์จาก Simpson เปลี่ยนพวงมาลัยเป็น Nardi Torino วงใหม่ที่แปลงคอพวงมาลัยโดย Workball และมาตรวัดดิจิตอลจาก AEM ที่กะทัดรัดและชัดเจนแจ่มจริง หัวเกียร์แบบโลหะจาก K-tuned

 

รถแข่งแท้จริงต้องมีสวิตช์สตาร์ทแบบนี้

 

เกียร์ธรรมดา และหัวเกียร์ K-tune ทำจากโลหะ

 

          รถแดร็กระดับนี้ คงไม่มีทางใช้ขุมพลังเดิมจากโรงงาน ไส้ในเดิมจึงถูกถอดทิ้งทั้งหมด วางใหม่เป็นเครื่องยนต์ K24A ที่จูนจัดเต็มทุกชิ้นส่วนตั้งแต่แก่นเครื่องอย่างลูกสูบและแหวนสูบของ Wiseco ต่อกับก้านสูบของ K1 ยึดเข้าด้วยกันด้วยน็อตก้านสูบ ARP ให้แข็งแรงพอที่จะส่งแรงชักสู่ข้อเหวี่ยง STD Stock 99 มม. ซึ่งรองรับด้วยชาร์ฟอกจาก ACL เช่นเดียวกับชาร์ฟก้านสูบ ทั้งหมดจับเปลี่ยนลงในเสื้อสูบของ STD เป็นอันเสร็จพิธีกรรมในท่อนล่าง ยังมีท่อนบนทำเพิ่มอีก เพื่อให้สมกับเป็นรถของ ช่างโต ECU shop

 

เครื่องใหม่ K24A

 

รางหัวฉีด กับ 4 ลิ้นจาก Kinsler

 

          การโมดิฟายเครื่องนี้รวมไปถึงท่อนบน ด้วยแคมชาร์ฟของ Prayoonto Stage 6 กดสปริงวาล์วและรีเทนเนอร์วาล์วชิ้นใหม่ที่แข็งกว่าเดิม โดยเลือกยี่ห้อ Super Tech มารองรับ จากนั้นก็ปิดฝาแล้วยึดด้วยน็อตฝาสูบของ ARP สวมหัวเทียนของ Brisk แล้วโยงสายหัวเทียนซิ่งพร้อมกับคอยล์จุดระเบิดใหม่จาก MSD ยังมีชิ้นส่วนรอบเครื่องที่คอยเสริมแรงไปอีก ด้วยท่อไอดี 4 ลิ้นจาก Kinsler สูบอากาศมาเจอระบบน้ำมันที่โมดิฟายใหม่ ด้วยการใช้ปั๊มติ๊กในถังของ Weldon และปรับแรงดันน้ำมันด้วยเรกูเรเตอร์ Mallory ลงสู่รางหัวฉีด Kinsler และถูกพ่นกระจายโดยหัวฉีด Clinic ขนาด 2,200 ซีซี แน่นอนว่าถูกควบคุมด้วยกล่องอีซียูจาก ECU-shop Octane S+ และ Monster spark สมกับมาจากสำนักแต่ง ECU-shop

 

คอยล์จุดระเบิดของ MSD แยกสูบ

 

 เฮดเดอร์ BRD ไทเทเนี่ยมทั้งตัว ต่อตรงทะลุฝากระโปรงหน้า

 

          ช่างโตยังไม่หยุดโมดิฟายในห้องเครื่อง ยังทำต่อด้วยท่อเฮดเดอร์เด่นสุดๆของ BRD แบบไทเทเนี่ยมทั้งตัว ต่อจากฝาสูบออก 4 ท่อรวมเป็น 1 ทะลุฝากระโปรงหน้ากันตรงๆเลยทีเดียว ส่วนถังน้ำมันก็ย้ายมาอยู่ด้านหน้าสุด ให้น้ำหนักตัวอยู่ด้านหน้าทั้งหมด เพื่อเพิ่มแรงกดตอนออกตัวด้วยความแรงระดับหงายเงิบ ซึ่งส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาจาก Honda Integra DC5 ประกบด้วยคลัตช์ H-Drive ส่งต่อไปยังเฟืองท้ายเต็ด LSD ของดีจาก Cusco ปั่นกำลังได้ทั้ง 370 แรงม้า นับว่าเยอะมากสำหรับรถที่น้ำหนักแค่ 800 กก.อย่างนี้ เรียกว่าอัตราส่วนน้ำหนัก/แรงม้า แซงซูเปอร์คาร์ไปหลายรุ่น

 

สปริงและโช้คจาก K-Tuned ทั้งชุด

 

ยางแดร็ก M/T กับล้อ Stange 15 นิ้ว

 

          ทีนี้มาดูระบบช่วงล่างกันแบบจัดเต็ม ด้วยโช้คอัพกับสปริงทั้งชุดของ K-Tuned ใส่ล้อแม็ก Keizea พร้อมยางแดร็กด้านหน้าของ M/T ขนาดกว้างสุดๆ 26-8.5-15 กับยางหลังแบบบาง ซิ่งสุดใจและหยุดได้สนิทด้วยเบรค Stange แบบ 4 พอท บีบจานเบรคของ Stange ที่ระบายความร้อนดีเยี่ยม ครบสูตรสำเร็จของรถแรงอย่างไร้ที่ติ เมื่อลงสนามวิ่งขำๆก็ทำได้ในระดับพิกัด 10.XXX วินาที นับว่าแรงล้นเหลือสำหรับรถโครงเดิมแบบนี้ ต้องขอบคุณช่างโต Monza Team Thailand ที่ให้เราได้มาพบกับหนึ่งในสุดยอดรถแรง และบทความรถแรงของเราก็ยังไม่หยุดแค่นี้ RacingMagazine จะสรรหาของดีมาให้ดูอีกเช่นเคยครับ

 

Tech Spec

 

ภายนอก

  • ฝากระโปรง - Monza shop
  • กันชนหน้า - Monza shop
  • สปอยเลอร์ - Supee X

 

ภายใน

  • เกจวัด - AEM
  • พวงมาลัย - Nardi
  • คอพวงมาลัย - Workball
  • หัวเกียร์ - K-tuned
  • เข็มขัดนิรภัย - Simson

 

เครื่องยนต์

  • เครื่องยนต์ - K24A
  • ท่อไอดี - Kinsler 4 ลิ้น
  • แคมชาร์ฟ - Prayoonto stage 6 
  • สปริงวาล์วและรีเทนเนอร์ - Super Tech
  • ชาร์ฟก้านและชาร์ฟอก - ACL
  • แหวนสูบ - Wiseco
  • ก้านสูบ - K1
  • คอยล์จุดระเบิด - MSD
  • สายหัวเทียน - MSD
  • หัวเทียน - Brisk
  • กล่องอีซียู - ECU-shop Octane S และ Monster spark
  • คลัตช์ - H-Drive
  • เฟืองท้าย - Cusco LSD

 

ช่วงล่าง

  • โช้คอัพและสปริง - K-Tuned
  • ล้อแม็ก - Keizea  แบบ 4 พอท
  • ยาง - M/T ขนาด 26-8.5-15 
  • เบรค - Stange 4 พอต
  • จานเบรค - Stange
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook