New Ford Ranger ก้าวข้ามทุกความท้าทาย สู่เป้าหมายทุกความสำเร็จ
Ford Ranger เวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์เผยโฉมให้แฟนๆ ได้เห็นตั้งแต่ในงาน Motor Show เมื่อช่วงต้นปี จนกระทั่งไม่นานมานี้ ทางค่ายได้จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการแบบสุดยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “แกร่ง...เพื่อทุกความสำเร็จ” ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดตัวครั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ได้พิสูจน์อะไรบางอย่าง โดยสิ่งที่ทำให้ผู้ที่รอคอยได้รับรู้ นั่นก็คือ นอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์แล้ว New Ford Ranger ยังแกร่งสมคำร่ำลืออีกด้วย
แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใด ก็คงจะไม่มีน้ำหนักเท่ากับการที่ได้ทดลองขับขี่ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับที่ทาง BoxzaRacing ได้รับโอกาสดีๆ ให้ร่วมสัมผัสสมรรถนะของ New Ford Ranger บนเส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี โดยทางค่ายไดจัดรถมาให้ได้ลองขับกันหลากหลายรุ่นย่อย ซึ่งรุ่นที่ทาง BoxzaRacing ได้ทดลองขับเป็นรุ่นแรก เชื่อได้ว่าน่าจะถูกอกถูกใจวัยแรงไม่น้อย นั่นก็คือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนสองล้อยกสูง โดยขุมพลังบล็อค 2.2 ลิตร ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ได้รับการอัพเกรดความเร้าใจให้มีแรงม้าสูงขึ้นเป็น 160 ตัว พร้อมกับแรงบิดในระดับ 385 นิวตัน-เมตร สัมผัสแรกที่ได้ลอง New Ford Ranger คือ คลัทช์ได้รับการเซ็ตให้มีน้ำหนักที่กำลังดี ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป และทำงานตามลักษณะความต้องการของผู้ขับขี่ หากปล่อยช้าๆ จะให้ความรู้สึกนุ่มนวล สมูท แต่หากเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แนวสปอร์ตเล็กน้อย หากลองปล่อยคลัทช์ให้เร็วขึ้นอีกหน่อย จะรู้สึกถึงแรงดีดจากเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังได้ประดุจรถซิ่งทีเดียว จังหวะการเข้าเข้าเกียร์ทำได้ง่ายในช่วงสั้นๆ และออกแบบตำแหน่งมาได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องกลัวหลงเกียร์ โดยเฉพาะกับเกียร์ถอยหลังที่ต้องใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเกี่ยวกระเดื่องขึ้นมาเล็กน้อย จึงจะสามารถเข้าเกียร์ถอยหลังได้ เรื่องของอัตราเร่งนับว่าทำได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่าจะมาจากขุมพลังเพียง 2.2 ลิตร แต่ด้วยแรงบิดที่มีมาให้ใช้งานอย่างล้นเหลือ ช่วยให้รถขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยอัตราเร่งและความเร็วที่ต่อเนื่อง หากขับขี่ด้วยความเร็วปานกลางหรือไม่มีน้ำหนักบรรทุกอาจรู้สึกว่าด้านท้ายออกอาการดีดดิ้นไปบ้าง แต่หากใช้ความเร็วที่สูงในระดับ 100 กม.ขึ้นไป ความรู้สึกนั้นจะถูกแทนที่ด้วยความมั่นใจในเรื่องของประสิทธิภาพการทรงตัวที่ไม่ว่าจะเจอกับโค้งน้อยใหญ่ขนาดไหน New Ford Ranger ก็สามารถฝ่าทุกอุปสรรคไปได้แบบไร้ข้อกังขา นอกจากนี้...สิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่างของ Ranger ก็คือ เรื่องของระบบเบรกที่ควบคุมได้อย่างใจสั่ง
หลังจากที่เดินทางถึงจังหวัดกาญจนบุรี BoxzaRacing ก็มีโอกาสได้สัมผัสอีกหนึ่งรูปแบบการขับขี่ ซึ่งนับว่าเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของ New Ford Ranger โดยเฉพาะ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สเตชั่น เริ่มตั้งแต่การขับรถขึ้น-ลงทางชัน เพื่อลองพละกำลัง แรงบิด รวมถึงระบบต่างๆ ทั้ง Hill Launch Assist ที่ช่วยหยุดรถค้างไว้ประมาณ 3 วินาที เพื่อให้สามารถออกตัวได้ง่าย และรถไม่ไหลในขณะขึ้นทางชัน ที่แม้ว่าจะไต่ความชันในระดับถึง 50 องศา แต่ก็ไม่สร้างปัญหาให้ให้กับ Ford Ranger เช่นเดียวกับขาลงที่มีตัวช่วยอย่างระบบ Hill Descent Control ที่จะช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะลงทางชัน ที่มีระบบการทำงานอันชาญฉลาด สามารถกำหนดความเร็วที่ใช้ตามความชันที่ต้องพบเจอ โดยในเส้นทางที่ได้ทดลองนั่น ช่วงที่มีการเปลี่ยนความชันอย่างรวดเร็ว ตัวรถจะปรับความเร็วให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งกับการลงทางชันถึง 60 องศา ก็ยังไม่สร้างปัญหาให้กับ Ford Ranger, ในสเตชั่นที่ 2 จะเป็นการทดลองขับขี่ในรูปแบบ Gymkhana บนพื้นหินลอย ก่อนจะปิดท้ายในสเตชั่นที่ 3 ด้วยการขับขี่ในเส้นทางที่จำลองสภาพแบบ Off Road ซึ่งตรงนี้พิสูจน์ได้ถึงสมรรถนะการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมของตัวรถ ที่ไม่ว่าจะต้องเจอกับเส้นทางในรูปแบบใด ก็สามารถรับมือได้หมด
เปลี่ยนอารมณ์กันสักเล็กน้อยแล้วมาลองขับในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ พิกัด 3.2 ลิตร กันบ้าง สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน คงหนีไม่พ้นเรื่องของพละกำลังที่แสดงออกถึงความดุดันได้อย่างเด่นชัดที่สุด ด้วยแรงม้าในระดับ 200 ตัว พร้อมกับแรงบิดในพิกัด 470 นิวตัน-เมตร ช่วยให้ทุกการขับเคลื่อนทำได้แบบเปี่ยมล้นด้วยพละกำลัง เพียงแค่แตะคันเร่งเบาๆ New Ford Ranger ก็พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า และพาทุกท่านฟันฝ่าทุกอุปสรรคอย่างไม่อยากเย็น
นับเป็นอีกครั้งที่ยนตรกรรมพันธุ์แกร่งจากค่าย Ford ได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า Ranger ไม่ได้มีดีเพียงภาพลักษณ์ แต่อัดแน่นและเพียบพร้อมด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวในทุกๆ จุด หากว่ากันด้วยเรื่องของคุณภาพตัวรถล้วนๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่กล้าพูดแบบเต็มปากเลยว่า New Ford Ranger เป็นปิคอัพที่ไร้ที่ติสมคำร่ำลือจริงๆ