เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2558 - 16:02

Toyota Alphard & Vellfire Test Drive ที่สุดแห่งความเหนือระดับ กับยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมี่ยมคลาส

 

Toyota Alphard & Vellfire Test Drive ที่สุดแห่งความเหนือระดับ กับยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมี่ยมคลาส

 

Toyota Alphard 2015 กับที่สุดแห่งภาพลักษณ์อันหรูหรา
 

          โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เชิญชวนคณะสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะและความเหนือระดับของยนตรกรรมผู้เป็นที่สุดแห่ง “รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม” ผู้ครองใจผู้ที่รักการเดินทางภายใต้ความหรูหรา สะดวกสบาย ซึ่งแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น Toyota Alphard & Vellfire คู่แฝดต่างฝาที่มีทีเด็ดมัดใจลูกค้าภายใต้สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป

 

 
 

             เส้นทางการขับขี่ในทริปนี้เป็นเส้นทางยอดนิยมอย่าง กรุงเทพฯ-ปราณบุรี ซึ่งมีระยะทางที่พอเหมาะและความหลากหลายพอที่จะให้ได้สัมผัสความสะดวกสบายในยนตรกรรมอเนกประสงค์ทั้ง 2 รุ่น ได้อย่างพอเหมาะ โดยเริ่มออกสตาร์ทในช่วงสายย่านถนนวิทยุ ก่อนขึ้นทางด่วน ถ.พระราม 4 เพื่อมุ่งหน้าสู่พระราม 2 ตามที่ทุกๆ ท่านน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้านเครื่องยนต์กลไกคงไม่ขอกล่าวถึงมากมาย เพราะจะว่ากันไปจริงๆ แล้วคงไม่ใช้เรื่องที่โดดเด่นหรือผู้ใช้ให้ความสนใจมากนัก สำหรับรถยนต์ที่อยู่ในคลาสนี้ เอาแค่คร่าวๆ เป็นไกด์ว่า Toyota Alphard 2015 มาพร้อมเครื่องยนต์เบ็นซิน วี 6 พิกัด 3.5 ลิตร 271 แรงม้า พร้อมแรงบิด 340 นิวตัน-เมตร จับคู่กับชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ETC (และเบ็นซิน 2.5 ลิตร ไฮบริด ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้) ส่วนทางดาน Vellfire 2015 มาพร้อมเครื่องยนต์เบ็นซิน 2.5 ลิตร 180 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด

 

ภายในสีเบจ ให้ความรู้สึกโปร่ง ดูผ่อนคลาย
 
 
เบาะนั่งขนาดใหญ่ ให้ความสบายทุกรูปแบบการเดินทาง
 
 
เบาะหนังปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมลูกเล่นอำนวยความสะดวกครบครัน
 
 
หมอนรองน่องปรับความยาวและปรับขึ้น-ลงได้ตามต้องการ
 
 
 
 

             เปิดหัวกันด้วยรุ่นใหญ่อย่าง Toyota Alphard 2015 ที่มาพร้อมขุมพลัง 3.5 ลิตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับที่เหนือชั้น โดยทุกองค์ประกอบได้รับการติดตั้งอย่างประณีต ทันทีที่เข้าไปภายในห้องโดยสารจะรู้สึกได้ทันทีถึงความเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่เดินทางด้วยตัวเองเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว หรือจะเป็นการใช้ชีวิตเดินทางในวันทำงานที่อาจจะมีคนขับรถคอยรับ-ส่ง เบาะนั่งของ Toyota Alphard 2015 ได้รับการออกแบบมาให้สามารถปรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยทั้งหมดควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อที่สุดแห่งความสะดวกสบาย เบาะนั่งตอนที่ 2 สามารถปรับเอนราบเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ประดุจนอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น และสามารถปรับได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นหมอนรองน่องที่สามารถยกขึ้น-ลง และสไลด์ให้เหมาะกับความยาวขาของแต่ละบุคคล เช่นเดียวกับพนักพิง ซึ่งจะมีระบบความจำ 2 ตำแหน่ง มาเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบปรับอากาศที่ช่วยเติมความสบายให้ในทุกการโดยสาร นอกจากนี้มีอุปกรณ์ความบันเทิงที่ประกอบไปด้วยหน้าจอพร้อมเครื่องเล่น Blue-Ray ที่จับคู่กับลำโพง JBL ถึง 17 จุด ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ชั้นเลิศ ที่ด้านบนของเพดานมาพร้อมไฟในห้องโดยสารที่เลือกเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ ส่วนไฟอ่านหนังสือสามารถปรับระดับความสว่างของแสงได้เช่นเดียวกัน ด้านฟีลลิ่งการขับขี่ ต้องบอกว่าทำได้อย่างนุ่มนวล ไร้ที่ติ ห้องโดยสารให้ความนุ่มเงียบตามแบบที่ควรจะเป็น ช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทในด้านหน้า และดับเบิ้ลวิชโบนในด้านหลัง ให้การตอบสนองที่ดี แม้ว่าจะเป็นรถที่เน้นความสบายในการขับขี่เป็นหลัก แต่ก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในทุกรูปแบบเส้นทางได้อย่างน่าประทับใจทั้งกับการขับขี่ด้วยตัวเอง และการนั่งในห้องโดยสารตอนหลัง เครื่องยนต์มีพละกำลังพอเหมาะ ให้อัตราเร่งที่ดีภายใต้อาการดึงแบบนุ่มลึกตามแบบฉบับของขุมพลัง 6 สูบ อีกทั้งยังให้อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงอย่างน่าพอใจ ด้วยการขับขี่ที่ความเร็วแบบปกติ 110-120 กม. Toyota Alphard 2015 มีอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ราว 10 กม./ลิตร เท่านั้น โดยอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้การขับขี่ในสภาพการจราจรที่แออัดก็คือ ฟังค์ชั่น Hold ของระบบเบรก ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ต้องพะวงกับอาการรถไหล แม้จะหยุดในขณะที่เกียร์ค้างอยู่ในตำแหน่ง D ซึ่งหากต้องการเดินทางต่อ ก็ทำได้โดยง่ายเพียงแค่เติมคันเร่งลงไปเล็กน้อยเท่านั้น

 

 
 
ภายในดำ เน้นอารมณ์ดุดัน เคร่งขรึม
 
 
แม้จะเน้นความเป็นสปอร์ต แต่ก็สะดวกสบายไม่แพ้รุ่นพี่
 

              มาต่อกันที่ Toyota Vellfire 2015 ซึ่งโดยพื้นฐานหลักๆ แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของโครงสร้างและช่วงล่างยังคงเป็นแบบเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Alphard แต่มีการปรับรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนต่างๆ เริ่มตั้งแต่ภาพลักษณ์ที่เน้นเอาใจผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุน้อย ด้วยสไตล์ที่ดูเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงอัดแน่ด้วยความหรูหราและประสิทธิภาพแห่งการขับเคลื่อนเช่นเดิม โดยส่วนตัวแล้ว...สิ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจมากกว่า คงหนีไม่พ้นการเลือกใช้เบาะหนังสีดำที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้มีลูกเล่นที่แพรวพราวเหมือนกับรุ่นพี่ แต่ก็ถือว่าตอบสนองการใช้งานได้อย่างน่าพอใจมากๆ เช่นเดียวกับระบบความบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นเกินกว่าพื้นฐานที่จัดมาให้แบบครบครัน ขุมพลัง 2.5 ลิตร ให้การตอบสนองอย่างพอเพียง และต้องบอกว่าไม่ดุเดือดอย่างที่คาดคะเนไว้ในตอนต้น 10 ++ กม./ลิตร ทำได้แบบสบายๆ ซึ่งคงต้องบอกว่าประหยัดมากๆ แล้ว สำหรับรถที่มีพิกัดตัวถังขนาดนี้ เรื่องของระบบช่วงล่างนั้น ทางค่ายยืนยันว่าไม่แตกต่างกับรุ่นพี่อย่าง Alphard ซึ่งหลังจากได้ทดลองขับขี่ ก็พบว่าอาจจะไม่นุ่มเท่ากับรุ่นพี่ แต่ก็ถือว่าให้ความสบายแบบสุดแสนประทับใจ โดยความแตกต่างที่เกิดขึ้นนั้น น่าจะมาจากน้ำหนักตัวรถที่ต่างกันเกือบ 200 กก. และส่วนประกอบอื่นๆ ที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

 

 

 

                บทสรุปของการขับขี่ยนตรกรรมอเนกประสงค์เหนือระดับอย่าง Toyota Alphard & Vellfire คงเป็นเรื่องที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า...หากคุณ คือ อีกหนึ่งบุคคลที่ถวิลหาความสะดวกสบายในทุกรูปแบบการเดินทาง ยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่นจากค่ายสามห่วง ดูจะเป็นรถที่สามารถตอบสนองได้แบบเข้าถึงเป็นที่สุด ยิ่งได้การดูแลและสิทธิพิเศษเหนือระดับมากมายจากทางค่ายต้นสังกัด งานนี้คงต้องบอกว่า “ปฏิเสธแฝดต่างฝาคู่นี้ไม่ลงจริงๆ”

 

 

 
รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook