BMW i3 2015 พรีวิว รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ยนตรกรรมสายพันธุ์ใหม่จากโลกอนาคต
BMW i3 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนเมืองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เสริมด้วยการดีไซน์ภายนอกที่ให้ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายใน บวกกับเทคโนโลยี และประสิทธิภาพของรถที่เป็นเลิศ เรียกได้ว่าเป็นยนตรกรรมสายพันธุ์ใหม่จากโลกอนาคตอย่างแท้จริง
การออกแบบภายนอก
BMW i3 มาพร้อมดีไซน์ภายนอกปราดเปรียวด้วยสัดส่วนที่กะทัดรัด บวกกับเส้นสายของตัวถังที่ดูไหลลื่นจากช่วงล้อหน้าจรดล้อหลัง เพิ่มความพิเศษด้วย Black Belt แถบคาดดำที่ทอดตัวยาวตั้งแต่กระโปรงหน้าไปจนถึงท้ายรถ เสริมด้วยไฟหน้า LED รูปตัวยู กับ Frozen Grey แถบสีน้ำเงินที่กระจังหน้า ส่วน Diffuser ได้ออกแบบให้มีสีเดียวกับตัวรถ เพื่อเพิ่มความสง่างามให้กับตัวรถ นอกจากนี้ยังมีกระจกหน้าต่างด้านหลังที่เชื่อมต่อกัน ตามแบบฉบับ Stream Flow Design ซึ่งจะทำให้เพิ่มทัศนวิสัยให้กว้างมากขึ้น ปิดท้ายด้วย ล้อลดแรงปะทะขนาด 19 นิ้ว ทั้งหมดนี้จึงทำให้ BMW i3 เป็นรถที่มีประสิทธิภาพสูง
การตกแต่งภายใน
ภายในห้องโดยสารของ BMW i3 ดีไซน์ให้มีความทันสมัยภายใต้โครงสร้าง LifeDrive ลงตัวกับตำแหน่งที่นั่งยกสูง Semi-Command เพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณด้วยพวงมาลัยที่มีปุ่ม start-stop และก้านเปลี่ยนเกียร์ที่อยู่ในตำแหน่งหลังพวงมาลัย ที่สำคัญทาง BMW ยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม กับภายในที่เรียกว่า Next Premium ซึ่งทำจากเส้นใย KENAF พืชตระกูลฝ้าย ที่มีหนังสีน้ำตาลเสมือนหนังธรรมชาติ และยังคงความสง่างามแบบบีเอ็มดับเบิลยูทั้งในด้านคุณภาพ และด้านความรู้สึกอีกด้วย
การเชื่อมต่อกับ BMW i3
BMW ได้ติดตั้งระบบเชื่อมต่อกับ i3 มาให้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการเดินทาง อาทิ ระบบนำทาง ที่สามารถคำนวณเส้นทางที่ให้ประสิทธิภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระดับแบตเตอรี่ รูปแบบการขับขี่ และสภาพของถนน ต่อด้วยระบบแผนที่ๆ จะทำหน้าที่แสดงระยะทางที่เดินทางได้ตลอดการขับขี่ อีกทั้งยังการแสดงผลในรูปแบบสีให้คุณได้เห็นอย่างชัดเจนอีกด้วย
ด้านการขับขี่
i3 ได้ตอบสนองความต้องการของชีวิตคนเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยนวัตกรรมระบบขับเคลื่อน eDrive ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่ทำงานร่วมกับการใช้แบตเตอรี่ลิเธียม – ไอออนพลังสูง ที่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยระบบจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะ ที่มีระบบให้ความร้อนภายในรถที่ลดการใช้ไฟฟ้าลงถึง 30% ซึ่งจะทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานถึง 8 ปี หรือ 100,000 ไมล์เลยทีเดียว โดยส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าของ i3 ให้กำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร สามารถเร่งได้จาก 0 ถึง 60 กม./ชม. ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 4 วินาที และ 0-100 ได้ 7.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม.โดยไม่สูญเสียพลังงาน
นอกจากนี้ i3 ยังมี อัตราการใช้พลังงานรวม:13.5 kWh/100 km รวมถึงอัตราการใช้น้ำมันรวม 0.6 l/100 km และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวม : 13 g/km เท่านั้น
การชาร์จไฟ
BMW ได้มอบความเป็นส่วนตัว และสะดวกสบายให้กับการชาร์จไฟเข้ารถให้กับคุณด้วย i3 Wallbox ซึ่งสามารถชาร์จไฟเข้ารถได้เร็วกว่าสายชาร์จปกติถึง 30% อีกทั้งยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้ไว้ในบริเวณที่สะดวกต่อการใช้งานตามต้องการได้อีกด้วย
ด้านความปลอดภัย
BMW ได้พัฒนาระบบความปลอดภัยเพื่อยนตกรรมพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ ที่มีระบบ Driving Assistant Plus ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้คุณใช้ความเร็วได้ถึง 40กม./ชม. ในช่วงที่การจราจรติดขัด มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ และฟังก์ชั่น Stop & Go ที่จะทำหน้าที่รักษาความเร็วบนท้องถนน เสริมด้วยฟังก์ชั่นเบรค ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทุกรูปแบบ ต่อด้วย Park Assistant package ที่จะทำให้การจอดรถของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย
บีเอ็มดับเบิลยู ยังได้ทำการศึกษา และสั่งสมประสบการณ์กว่า 10 ปี ร่วมกับบริษัท SGL Automotive Carbon Fibers จนสามารถพัฒนาคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบา และความทนทานสูงได้ เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุหลักในการผลิตห้องโดยสาร
นอกจากนี้ยังมี แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ทำการติดตั้งไว้ที่ Drive Module ของ BMW i3 ซึ่งมาพร้อมกับระบบการจัดการอุณหภูมิ เสริมความสามารถด้วย Batterry Guard ที่ช่วยให้สามารถติดตามสภาพปัจจุบันของแบตเตอรี่ และรับการแจ้งเตือนได้ในทุกสถานการณ์ เพื่อให้ความมั่นในกับคุณในเรื่องแบตเตอรี่อยู่ในสภาพอย่างไร
BMW i3 มีสีให้เลือกด้วยกันถึง 6 สี