ภาพลักษณ์ที่แทบไม่ต่างจากเดิมในสไตล์ Retro Futuristic โดยมีจุดเด่นด้านนอกคือไฟหน้าทรงกลม ทรง Cat Eye ในรุ่นผลิตไทยนี้มีเพียงอุปกรณ์การใช้งานที่ปรับให้ลงตัว และเหมาะสมกับคนไทยมากขึ้น อีกทั้งการปรับ และเซตอัพ การทำงานของระบบในบางจุด ที่ทำให้การขับเปลี่ยนไปในทางที่ดี
ล่าสุดกับกิจกรรมทดลองสมรรถนะของ รถ BEV จาก GWM กับ New ORA Good Cat สเปคไทย ผลิตจากโรงงานในประเทศ งานนี้บอกได้เลยว่า ดีขึ้นกว่าเดิมแม้ไม่มากแต่ต้องบอกว่า GWM มาถูกทาง โดยเฉพาะกับคนที่ชอบการขับ ไม่เน้นบ่นเรื่องการชาร์จ เพราะงานนี้เราสามารถสัมผัสได้ถึงความสนุกในการใช้งานแบบไม่ต้องสนใจหรือกังวลเรื่องพลังงานในแบตเตอรี่ที่มีอยู่มากนัก หรืออาจเป็นเพราะระยะทางที่วิ่งไปกลับเพียง 300 กิโลเมตรบวกลบนิดหน่อย ที่วิ่งกันสนุกๆ หลงทางบ้าง ในแบบ One Day Trip
ในการทดลองขับครั้งนี้ แทบไม่ต่างจากครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับสเปคนำเข้า เรื่องของตัวรถ รูปลักษณ์ที่มาในแบบเดิม การวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ไม่เปลี่ยน จะมีเพียงแค่ชุดควบคุมเกียร์ ที่เปลี่ยนจากแบบหมุนตรงเซ็นเตอร์พาแนล ไปเป็นแบบก้านโยคขึ้นลงหลังพวงมาลัยสไตล์รถยุโรป ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้น และที่สำคัญไม่กังวลว่าจะหมุดผิดหมุนถูกจนเข้าเกียร์ผิด แต่มีดีก็ต้องมีด้อย เพราะหลายจุดกลับทำให้ยากขึ้น อย่างเรื่องของเบรกมือ หากจะต้องปลดล็อคต้องเข้าไปปรับที่หน้าจอ ซึ่งไม่ได้ง่ายนัก แต่ทั้งนี้สามารถรวบรัดให้เบรกมือปลดได้ เพียงแต่คาดเข็มขัดนิรภัย แล้วใส่เกียร์ กดคันเร่งเบาๆ ออกไป ระบบช่วยถอยจอดอัจฉริยะ 3 รูปแบบยังคงอยู่ในรุ่นนี้ และหากใครได้ใช้บ่อยๆ ก็จะได้รับสะดวกแบบไม่ต้องลุ้นอีกต่อไปว่าจะเข้าได้ไหมจอดพอไหม ช้าไปไหม บอกได้เลยว่าเข้าจอดได้เร็วกว่าคนบังคับเองเสียอีก
ส่วนภาพรวมทั้งหมดแทบไม่ต่างจากเดิม อัตราเร่งยังให้อารมย์ความเป็นรถพลังงานไฟฟ้า ดึงแบบต่อเนื่อง ความเร็วปลายไม่เน้น ช่วงล่างพวงลัยตอบสนองได้ตามต้องการ ยกเว้นเรื่องของน้ำหนักรถที่ดูจะมากขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนประเภทของแบตเตอรี่ โดยรุ่นประกอบไทยนี้เป็นแบบ ลิเธียมไอออนฟอสเฟส ขนาดความจุที่ 57.70 กิโลวัตต์ ที่มีน้ำหนักมากกว่า แต่สิ่งนี้กลับเป็นผลดีทำให้การขับดีขึ้น
เส้นทางที่ใช้วัดระยะทางกรุงเทพ สระบุรี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะจากวันที่มีรถไฟฟ้าเข้ามาในบ้านเรา ถึงวันนี้ก็เกินทศวรรษแล้ว เรื่องระยะทางไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรอีกต่อไป เพราะหากใครก็ตามที่ใช้งานรถประเภทนี้บ่อยๆ คงปรับตัวได้มากขึ้น รู้ว่าจะต้องวิ่งเท่าไร ไกลแค่ไหนต้องจอดพักแวะชาร์จไฟ ซึ่งเอาจริงๆ ก็แทบไม่ต่างจากการใช้รถทั่วไปที่ต้องแวะพักรถพักคน ส่วนที่ทำให้ต่างกันคือเวลาที่ใช้เท่านั้น ดีไม่ดีคนใช้รถปกติจอดพักนานกว่าด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นครั้งนี้เลยไปเน้นที่ฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก และแน่นอนว่ารุ่นผลิตในไทย ก็สามารถสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี จะมีจุดเล็กๆ เท่านั้นที่ยังคงขัดใจ แต่นั่นอาจจะเพราะว่าสเปคนี้จะต้องมีการส่งออกไปจำหน่ายนอกประเทศด้วย จึงทำให้ยังมีฟังก์ชันที่ไม่ลงตัว 100% กับคนไทยอย่างเราๆ แต่พอรับได้ เรื่องการใช้งานระบบ V2L ไม่ใช้เรื่องใหม่แต่เป็นการเน้นย้ำว่ารถ BEV ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างที่รถปกติทำไม่ได้
สรุปสั้นๆ จากการทดลองขับแบบ One Day Trip ของ New ORA Good Cat สเปคไทย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ใช้งานได้ปกติ แต่ทั้งนี้ต้องดูระยะยาว เพราะดูเผินๆ วัสดุและการประกอบมีอะไรให้ต้องลุ้นกันอีก ส่วนสมรรถนะไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ก็ไม่รู้สึกแย่ไปกว่าเดิม
New ORA Good Cat สเปคไทย
รุ่น PRO และ รุ่น ULTRA กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร
วิ่งได้ 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC)
รุ่น GT กำลังสูงสุด 126 กิโลวัตต์ หรือ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
วิ่งได้ 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC)
