เขียนโดย: D Wisanuporn

เมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2567 - 13:48

ทดลองสมรรถนะจริงไปกับ Mitsubishi New X-Pander HEV

       เปิดศักราชใหม่ปี 2567 กับค่ายรถญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทยมาช้านาน พาเหล่าบรรดา สื่อมวลชน สายรถยนต์ ตัวจริง เข้าสัมผัสรถยนต์ Mini MPV 7 ที่นั่ง คราวนี้บอกได้เลยว่า มีความประหลาดใจ หลังจากที่ คิดไปต่างๆ นานา ว่างานนี้จะเป็นรถปิคอัพในค่ายแต่ผิดถนัด

 

 

        ต้องบอกว่างานนี้เราทีมงานได้เคยสัมผัสรถรุ่นนี้ตั้งแต่ยังไม่เข้ามาจำหน่ายบ้านเราเมื่อหลายปีก่อนที่ประเทศญี่ปุ่น จากวันนั้นถึงวันนี้มีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ทั้งภายนอก และภายใน โดยเฉพาะกับภายในที่มากับความใหม่ของ หน้าจอแสดงผลแบบกราฟิก แสดงสถานะต่างๆ บนหน้าจอหลังพวงมาลัย สวิทช์ปรับเปลี่ยน Drive Mode ที่เพิ่มเข้ามาไว้ที่บริเวณเซ็นเตอร์พาแนล โชว์ความโดดเด่นควบคู่เกียร์ชิฟเตอร์ใหม่ รูปทรงที่คุ้นเคยจับถนัดใช้งานง่าย กว่าเดิมหลายเท่า ส่วนด้านหลังตั้งแต่แถวที่สองไปถึงแถวสามยังให้อรรถะประโยชน์ในการใช้งานดีเช่นเดิม

 

 

        ต้องขอบอกไว้ก่อนว่างานนีเน้นไปที่เรื่องสมรรถนะมากกว่าตัวรถเพราะเป็นส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ต้องบอกว่า ทำเอาประหลาดใจ ชนิดที่เรียกว่าโดดเด่นในเรื่องการขับที่หาตัวจับยาก เมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมีระบบ Hybrid เข้ามาช่วย ด้วยพลังการทำวานของเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร MIVEC ที่มีกำลัง 95 แรงม้า แรงบิดที่ 134 นิวตัน-เมตร แม้จะน้อยลงกว่าเดิม แต่เมื่อรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จะให้พลังการขับเคลื่อนรวมอยู่ที่ 166 แรงม้า ส่วนแรงบิดขยับไปที่ 255 นิวตัน-เมตร โดยระบบ HEV ในรุ่นนี้ ถูกพัฒนามาจากระบบ PHEV เดิมที่ใช้อยู่ในหลายรุ่น และยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับโหมดการขับที่ให้มากถึง 7 โหมด และยังมีระบบ AYC ที่ใช้ได้ดีจริงมาตั้งแต่รุ่นก่อน นับว่าครั้งนี้จิตวิญญาณความเป็นเจ้าทางฝุ่นกลับมาแบบเต็มๆ

 

ไหลออกไม่มีทิศทางเพราะใส่มาแบบ Over Speed ต่อให้ระบบดีขนาดไหนก็ไปไม่เป็น

 

 โหมด Mud ในรถขับเคลื่อนสองล้อหน้าที่พกระบบ Hybrid รถวิ่งผ่านไปเหมือนไม่ได้วิ่งบนโคลน

 

        ในช่วงการขับ ถนนดำ รอบแรกเป็นเดโม กับ Normal Mode ในโค้งแคบมีอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับช่วงพื้นเปียก รถหนีโค้งออกให้พอได้ใช้ฝีมือในการแก้อาการ จบรอบแรกเข้าสู่รอบสอง ใช้การวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน ความเร็วช่วงนี้ทำได้เกือบ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยาวตลอดไปถึงช่วงปลาย จากนั้นปรับไปใช้ Tarmac Mode รอบนี้โยนเข้าโค้งไปทุกโค้ง ตลอดเส้นทาง ช่วงนี้เองระบบ AYC เข้ามามีบทบาท รถ จิกโค้งเข้าไปสวยๆ บางจังหวะเริ่มมีอาการเพราะพื้นเปียก แต่ระบบเข้ามาควบคุมได้อย่างรวดเร็ว และเนียนจนเกือบไม่รู้

       ทางดำที่ว่าดีแล้ว ทางฝุ่นนี่ตกใจเลย งานนี่วิ่งสองรอบ เช่นเคยกับ Normal Mode วิ่ง Slarom บนพื้นทราย ไหลออกไม่มีทิศทางเพราะใส่มาแบบ Over Speed ต่อให้ระบบดีขนาดไหนก็ไปไม่เป็น แต่หลังจากปรับเข้าโหมด Gravel วิ่งดีผิดตา อาการออกน้อยมาก แต่ยังมีหลงเหลือ ส่วนหนึ่งเพราะพื้นที่เป็นทราย บวกกับการความเร็วที่ใช้เกินที่ตั้งไว้นิดหน่อย แต่ผมออกมาดีจริงๆ และช่วงปลายในการทดลองระบบ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นไฮไลต์สุดพิเศษชนิดที่เอากลับมาคุยได้ไม่จบ กลับการลงไปลุยโคลนในโหมด Mud ในรถขับเคลื่อนสองล้อหน้าที่พกระบบ Hybrid มาด้วย รถวิ่งผ่านไปเหมือนไม่ได้วิ่งบนโคลน ที่ลื่นๆ และไม่เพียงเท่านั้น ยังท้าท้ายความสามารถด้วยการจอดนิ่งในหลุม แล้วขยับขับต่อ รถไหบผ่านอุปสรรคไปเฉยๆ แบบไม่มีแอะไรกั้น จนลืมไปว่านี่คือ รถ MPV 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนสองล้อ นามว่า X-Pander HEV รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mitsubishi แม้จะไม่แกร่งลุยไปได้สุดเท่ากับรถแบบ 4x4 แต่นี่ก็มากพอที่จะพาลุย และคุยได้ว่า e:MOTION เป็นอย่างไร

 

 Hot Lap ต้องมีสำหรับคนที่คาใจในตัว X-Pander HEV 

 

        คงต้องจบการทดลองขับไปแบบสนุก สนาน และประหลาดใจอย่างมาก ที่รถรูปแบบนี้ได้แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างที่คาดไม่ถึง บอกแบบนี้คงไม่เห็นภาพ ใครสนใจอยากลองของ Mitsubishi New X-Pander HEV ไปที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ได้ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook