ในยุคที่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ในสังคมไทย ทำให้การอุปโภค รวมทั้งพฤติกรรมผู้ใช้รถเปลี่ยนไป ทว่า ในแวดวงขนส่ง รวมถึงค่ายผู้ผลิตรถยนต์เอง ต่างยังให้ความสำคัญกับความเป็นจริงที่ว่า รถเพื่อการพาณิชย์ ตั้งแต่รถขนาดใหญ่ อย่าง รถหัวลาก รถสิบล้อ หกล้อ รวมถึงรถปิคอัพ โดยเฉพราะรถปิคอัพขนาด 1 ตัน ที่ยังคงเป็นรถที่ต้องการของผู้ประกอบการ โดยมีการนำใช้ไปงานเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ารถประเภทนี้จำต้องมีความแข็งแรง และทนทาน ใช้งานหนักได้จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ความประหยัดจากเครื่องยนต์ดีเซลเพียงอย่างเดียว ซึ่งล่าสุด ค่ายผู้ผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ชั้นนำอย่าง Nissan ได้ตอกย้ำในเรื่องความจำเป็นของการใช้งานรถปิคอัพ ด้วยการทดลองสมรรถนะในแบบใช้งานจริง
และในโอกาศนี้ทางค่ายได้เร็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ที่สนใจ และกำลังมองหารถมาใช้งาน จึงได้จัดกิจกรรมทดลองสมรรถนะในเรื่องการขนส่ง ด้วยรถปิคอัพ Nissan Navara พร้อมกัน 2 รุ่น ทั้ง รุ่น Single Cab และรุ่น King Cab หรือ KC Calibre V 7AT โดยงานนี้ได้นำรถทั้งสองรุ่น มากับสภาพเดิม ๆ จากโรงงาน ซึ่งไม่ได้มีการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ยกเว้นเรื่องของลมยางที่ต้องใช้ให้เหมาะสมกับงานซึ่งเป็นเรื่องปกติในการใช้รถบรรทุก โดยได้ออกไปวิ่งใช้งานจริงกันถึงสวนมะพร้าว และแน่นอนว่า รถทั้งสองคันได้ทดลอง บรรทุก มะพร้าวกลับมาเกือบหนึ่งตัน กับเส้นทางจากจังหวัด สมุทรสาคร ถึงกรุงเทพแบบวันเดียว
และงานนี้ทำให้ได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถทั้งสองรุ่นได้อย่างแท้จริง ความโดดเด่นอยู่ที่ความแข็งแรงของโครงสร้าง หรือแชสซีส์เหล็กกล้าแบบชิ้นเดียว ที่ทำให้การบรรทุกหนักเป็นเรื่องง่าย หากลงลึกจะพบว่าโครงชิ้นเดียวแบบนี้นั้นทำให้การขยับตัวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับโครงสร้างที่มีส่วนประกอบหลายชิ้น ในระยะยาวยิ่งเห็นผลมากขึ้น รวมถึงชุดรองรับน้ำหนัก ที่ต้องบอกว่าค่ายนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการรับน้ำหนักมาอย่างช้านาน ประกอบกับทางค่ายเองมีการพัฒนาอย่างต่ออยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
เครื่องยนต์ดีเซล YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร รุ่น Single Cab
เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร กับเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงที่ 190 แรงม้า ของรุ่น KC (King Cab)
ส่วนเรื่องของพละกำลังในการฉุดก็เพียงพอ สำหรับการบรรทุกหนักประมาณนี้ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังที่ 163 แรงม้า และให้แรงบิดที่ 403 นิวตัน-เมตร ในรุ่น Single Cab ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบส่งกำลัง จาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ (Shift-on-the-fly 4 -wheel Drive & 4LO) ที่ปรับได้ตามต้องการแบบไม่ต้องหยุดรถถึงที่ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในส่วนของรุ่น KC (King Cab) จะมีความแตกต่างเรื่องพละกำลังเล็กน้อย โดยรุ่นนี้มากับเครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร กับเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงที่ 190 แรงม้า ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ส่วนฟังก์ชันที่มีให้มากขึ้น ทั้งระบบช่วยเหลือกการขับ ระบบเตือนหลายรายการ อย่างเช่น ระบบ LDW ที่ทำงานพร้อมระบบ ILI , ระบบ BSW ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชน IBSI หรือระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วเชื่อมต่อ Apple CarPlay รองรับ Nissan Connect ที่ให้การใช้งานสะดวกมากกว่าการเป็นรถบรรทุกทั่วไป
สำหรับผลจากการใช้งานของ Nissan Navara ทั้งสองรุ่น จะมีความแตกต่างที่ชัดเจน คือเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานหลัก โดยรุ่น หัวเดียว หรือ Single Cab เน้นการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งจะลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป และเหลือแต่สิ่งจำเป็นต่อการใช้งานจริง หากให้พูดในฐานะที่เคยอยู่ในวงการรถบรรทุกมาหลายปี การมีอุปกรณ์เท่าที่จำเป็นต่อการใช้งานจริง ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อผู้ประกอบการมากกว่า โดยเฉพาะในเรื่องการ เซอร์วิส ที่จะน้อยลงตามไป ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นถูกตัดออกไป ตรงกันข้ามยังเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ประกอบการมากขึ้นในระยะยาว ส่วนของรุ่น King Cab นั้นจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้น ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ที่มากกว่าการบรรทุกเพียงอย่างเดียว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีรถใช้งานที่ครอบคลุมทั้งเรื่องการบรรทุก และการเดินทาง และไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สิ่งที่สำคัญคือเรื่องความประหยัดที่ได้จากการใช้งานด้วยเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ ที่ยังคงให้ความแรงเมื่อต้องการใช้งาน
Nissan Navara นับเป็นอีกหนึ่งรถเพื่อการพาณิชย์ที่อยู่กับวงการขนส่งไทยมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าทั้งสองรุ่น ไม่ควรมองข้าม ด้วยเพราะจุดเด่นในเรื่องของความแข็งแรง ความสะดวกสบาย และความประหยัดทั้งในระยะสั้น หรือระยะยาว หากไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์ที่ต้องบอกว่าเป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็ไม่น่าจะติดอะไรหากต้องการมีรถมาใช้งานเพื่อธุรกิจ อย่างน้อยๆ ศูนย์บริการโชว์รูม ร่วมถึงช่างเก่งที่สามารถดูแลรถก็มีมากกว่ารถพลังงานไฟฟ้าหลายเท่าในวันนี้ และสำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปชมสัมผัส และทดลองสมรรถนะตัวจริงได้ที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Nissan ทั่วประเทศ หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nissan.co.th
Nissan Navara Single Cab SL 6MT 4WD ราคา 659,000 บาท
Nissan Navara Single Cab SL 6MT ราคา 595,000 บาท
Nissan Navara King Cab หรือ KC Calibre V 7AT ราคา 889,000 บาท
