New MG4 ELECTRIC ได้รับการออกแบบ และพัฒนาให้เป็น รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า100% อีกทั้งยังเป็นรถที่ขับเคลื่อนล้อหลัง (Dynamic Rear Wheel Drive ) เพียงรุ่นเดียวในพิกัดเดียวกัน แน่นอนว่าการที่ทีมงาน ฺBoxzaRaing ได้ทดลองขับรถพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างมาเพื่อความสนุกในการขับนั้น เราอดใจได้จริงๆ ที่จะเอาไปขับอยู่ตลอดเวลา ให้สมกับสโลแกน Fun To Drivd อีกทั้งราคาจำหน่ายไม่ถึงล้าน และเร้าใจมากกว่าด้วยโปรฯ สุดพิเศษ
และที่สำคัญยังเป็นรถไฟฟ้าที่มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 ไม่ต่างจากซูปเปอร์คาร์มาพร้อมกับตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (Low Centre Of Gravity) ลงตัวกับระบบช่วงล่างทรงสมรรถนะ โดยด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนทางด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ที่ไม่เพียงแค่ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวท้องถนนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย บุคลิกของรถรุ่นนี้จึงมีความคล่องแคล่ว ตอบโจทย์การขับในเมือง การเลี้ยวในทางแคบจึงไม่เป็นปัญหา รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้า และหลังของรถที่สั้น
New MG4 ELECTRIC เป็นรถไฟฟ้าที่สามารถปรับโหมดการขับได้หลากหลาย และละเอียด โดยจะมีให้เลือกมากถึง 5 โหมด ได้แก่ Snow, Eco, Normal, Sport และ Custom ที่สามารถตั้งแค่ได้ทั้งน้ำหนักพวงมาลัย, อัตราเร่ง รวมถึงแรงที่ใช้ในการเหยียบเบรกให้ตรงสไตล์การขับของแต่ละคน หากเราสังเกตจะเห็นว่า MG ได้ยกเอาเทคโนโลยีมาใส่ในรถรุ่นนี้นั้น ล้วนเสริมในเรื่องสมรรถนะการขับเป็นหลัก
อีกหนึ่งความเหนือชั้นของ New MG4 ELECTRIC ที่มาช่วยไขข้อข้องใจ ลดความกังวลของคนไทยในเรื่องความอันตรายจากการใช้งานรถไฟฟ้า คือ แพลตฟอร์มใหม่อย่าง NEBULA PURE ELECTRIC ซึ่งโครงสร้าง นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับยนตรกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถปรับไปใช้กับรถไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ รองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ และที่สำคัญแบตเตอรี่ถูกติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถจึงได้รับการปกป้องมากยิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงแบตเตอรี่แล้ว New MG4 ELECTRIC มีการพัฒนาและออกแบบเป็นแบบ Cell To Pack เป็นจัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนมีความบางเพียง 110 มิลลิเมตร ช่วยลดขนาด และระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น พื้นราบ จึงทำให้ตัวรถต่ำได้มากกว่า ตัวมอเตอร์เองมีขนาดเล็กลง แต่ให้สมรรถนะสูงถึง 16,500 รอบต่อนาที มีการพัฒนาซอฟท์แวร์ Battery Management System ให้ดียิ่งขึ้น (อนาคตมีโอกาสที่แบตเตอรี่จะมีขนาดเท่าเดิมแต่ประสิทธิภาพ และระยะทางสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น)
นอกจากนี้แล้ว New MG4 ELECTRIC ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม และเพียงพอต่อการใช้งานจริงๆ ส่วนเรื่องการชาร์จสามารถรองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88 กิโลวัตต์ และการชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick charge จาก 10% – 80% ในเวลาเพียง 35 นาที ถ้าเทียบกับรถไฟฟ้าในกลุ่มเดียวกันถือว่าชาร์จได้เร็วเลยมาก อีกทั้งยังสามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกรถด้วยระบบ V2L
New MG4 ELECTRIC มี 2 รุ่นย่อย ราคาหลังหักส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ ของทั้ง 2 รุ่น รวมถึงโปรฯ ลดราคา 100,000 บาท
รุ่น D จากเดิมราคา 869,000 บาท เหลือ 769,000 บาท
รุ่น X จากเดิม ราคา 969,000 บาท เหลือ 869,000 บาท
