เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 11 มกราคม 2566 - 17:19

All New Toyota Crown Crossover 2023 G Advanced Leather สเปคนี้หนึ่งเดียวในไทย

         ปัจจุบัน รถรูปแบบ Sedan ได้รับความนิยมน้อยลงตามยุคสมัย แม้ว่าหลายค่ายผู้ผลิตจะยังคงมีอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน หลายค่ายองก็มีแผนยกเลิกผลิตรถประเภทนี้แล้ว เหตุผลเพราะด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป ใจนขณะที่รถที่มีความอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลาย อย่าง PPV SUV สามารถตอบสนองการใช้งานได้มากกว่า จึงเป็นทางเลือกที่ดูจะเหมาะกับยุคใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          ตอนนี้ท่านอยู่เรา BoxzaRacing ซึ่งทีมงานเรามีโอกาสมาสัมผัสรถยนต์รุ่นใหม่ล่า แถมเป็นคันเดียวในประเทศ ณ เวลานี้ด้วย แน่นอนว่าต้องพิเศษ และไม่ธรรมดาแน่นอนครับ

 

 

         แต่ก่อนที่เราจะชมตัวจริง มาทำความรู้จักกับรถรุ่นนี้กันเล็กน้อยครับ สำหรับรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้น และเปิดครั้งแรกใน พ.ศ. 2498 และส่งออกไปบุกตลาดอเมริกาในช่วงปี 2501 จนปัจจุบันนี้ ก็กว่า 68 ปีแล้ว แต่ยังทว่ายังมีการต่อยอด พัฒนาไปอีก โดยส่วนมากแล้วรุ่นนี้จะถูกใช้งานเฉพาะอย่าง รถผู้บริหารระดับสูง ผู้นำ ต่อมาถูกนำไปใช้งานในสธารณะประโยชน์ในหน่วยงานรัฐ ตลอดจนเป็นรถสำหรับเจ้าหน้าที่ ต่อมารถแนว Luxury ได้รับความนิยมจากนักแต่งรถ ร่วมทั่งกลุ่มยากูซ๋ามาขึ้น ซึ่งเราจะเห็นรประเภทนี้ถูกนำมาปรับแต่งเป็นแนว VIP ติดฟิล์มดำ Drop ตัวถังล้อแบะมากขึ้น และปัจจุบันก็ยังมีรถแบบนี้อยู่อีกมากในประเทศญี่ปุ่น 

 

 

External

         และที่เห็นอยู่นี้คือ All New Toyota Crown Crossover 2023 นับเป็น Crown gen 16 ที่เปิดตัวไม่ไม่นานในประเทศญี่ปุ่น และเป็นการเปิดตัวพร้อมกัน 4 รูปแบบตัวถัง และรูปแบบ Crossover ถูกนำออกจำหน่ายก่อน  และที่บอกว่าพิเศษ เพราะรุ่นนี้เป็น Top Option คือรุ่น G Advanced Leather  และเป็นสีพิเศษสำหรับรุ่นนี้ เรียกว่า Precious Bronze with Black Bonnet หรือสีทองแดงตัดดำ โดยสีดำจะอยู่ตามจุดต่าง ไม่ว่าจะเป็น ฝากระโปรงหน้า หลังคา ฝาปิดท้าย ไฟหน้า Full LED เปิดปิดอัตโนมัติ มาพร้อมกับไฟ DRL ที่ลากยาวจากซ้ายไปขวา กระจังหน้าผิว Hi Ghols พร้อมฟังก์ชั่นเปิดปิดช่องรับอากาศเพื่อระบายความร้อนเครื่องยนต์อยู่หลังกันชน หลัง ส่วน มิติตัวถังยาว 4,930 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,540 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม.

 

 

         ด้านข้างออกแบบให้สอดรับกับด้านหน้า ออกแบบในสไตล์ Crossover จะเห็นว่ามีการตกแต่งด้วยคิ้วสีดำตามซุ้มล้อ และกาบข้างขนาดใหญ่ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไม่พบในรถรูปแบบ Sedan ปกติ ขยับไปที่ด้านท้ายทรงลาดลง ลักษณะ Coupe ตรงกันชนท้ายมีลักษณะเดียวกับด้านหน้าที่ตกแต่งด้วยสีดำ Hi Ghols  พร้อม ตัวอักษร Cronw เด่นด้วยชุดไฟท้ายแบบ LED เส้นลากยากจากซ้ายไปขวาแบบเดียวกับด้านหน้า ให้ความคมชัดกว่าปกติ แต่แสงไม่แย่งตา

 

 

Inside

         ภายใน ตกแต่งโทนสีเดียวกับภายนอก และแน่นอนว่า ต้องเป็นหนังตามชื่อรุ่น G Advanced Leather โดดเด่นด้วยหน้าจอ12.3 นิ้ว 2 จอในกรอบเดียวกัน รองรับ Aapple carplay, Android auto พวงมาลัยปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง แบบมัลติฟังก์ชั่น ปุ่มปรับค่าความบันเทิงฝั่งซ้าย ขวาเป็นการปรับระบบการขับต่างๆ เซ็นเตอร์พาแนลหุ้มหนังเดินด้านสีทองแดง พร้อมออกแบบให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่า การจัดองค์ประกอบเน้นคนขับเป็นผู้ควบคุม ซุ้มเกียร์ และคันเกียร์ตามแบบรถไฟฟ้า เบาะหนังยังคงความเป็น Crown คนขับปรับ 12 ทิศทาง พร้อมดันหลัง Memory 2 ตำแหน่ง ส่วนคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง พร้อมตัวปรับเบาะที่ข้างพนักพิง ช่องชาร์จไร้สายแนวตั้ง ช่อง USB C ที่ด้านหลังบริเวณช่องแอร์ และที่วางแก้วทุกตำแหน่ง 

 

 

Capacity

         เครื่องยนต์ที่อยู่ในรถคันนี้ เป็น เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ที่พ่วงด้วยระบบ Hybrid Dynamic Force กำลัง 186 แรงม้า/ 6,000 รอบ ส่วนแรงบิด 221 นิวตัน/3,600-5,200 รอบ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขนาด 80 -40 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตัน ส่งกำลังผ่านเกียร์ eCVT 6 speed พร้อมโหมดการขับ ทั้ง Eco, Norm, Sport และ แบบ Ev ล้วน ส่งแรงบิดไปที่ล้อทั้งสี่ แบบ E-Four โดยมีล้อขนาด 21 และยางขนาด 225/45 R 21 ของ Dunlop ซึ่งใหญ่สุดในรุ่น ระบบช่วงล่างของรถตละกูลนี่ถือเป็นจุดเด่นที่สุด เมื่อดูจากรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งรุ่นนี้เป็นแบบมัติลิงค์ที่ผ่านการปรับแต่งให้สามารถใช้งานลุยได้แบบพอสมควรตามแบบฉบับรถ Crossover

 

 

         แบตเตอรี่ แบบ Bipolar Nickel-Hybrogen ที่มีตัวนำกระแสแบบแชร์กันทั้งขั้วบวก และลบ ส่งผลให้กำลังไฟดีขึ้น 2 เท่า ในขนะที่ขนาดแบตเตอรี่เล็กลง ให้ความประหยัดตามสเปค 22.4 กม:ลิตร ในโหมดผสม เรื่องความปลอดภัยเต็มระบบ ด้วย Toyota Safety Sense 3.0 อาทิ

  • Pre-Collision System (PCS) with Daytime/Low-Light Vehicle and Pedestrian Detection, plus Daytime Bicycle Detection
  • Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) or Dynamic Radar Cruise Control (DRCC)
  • Lane Departure Alert (LDA) with Steering Assist and Road Edge Detection
  • Automatic High Beams (AHB)
  • Road Sign Assist (RSA)
  • Lane Tracing Assist (LTA)

 

         และที่จบไปนั้น เป็นการพาชมรถกับแบบพอสมควรตามแบบ BoxzaRacing สำหรับ All New Toyota Crown Crossover 2023 ต้องบอกว่า Toyota ปรับการผลิตรถที่เคยอยู่ในกรอบออกจนหมด ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Luxury ของ Crown ได้อย่างแยบยล นี่น่าจะเป็นบทพิสุจน์ถึงการเปลี่ยนเข้าสู่ยานยนต์โลกใหม่อย่างเต็มตัว ทว่าเป็นที่น่าเสียดายที่การทดลองสมรรถนะต้องรอซักหน่อยเพราะตอนนี้รถยังมีไม่มาก และเป็นรถที่ถูกจับจองเรียบร้อยแล้ว

 

 

All New Toyota Crown Crossover 2023 จาก สนนราคาค่าตัวที่ 3,990,000 บาท

 

ขอขอบคุณ TPM Motor Import Cars ที่เอื้อเฟื้อรถ และสถานที่ในการถ่ายทำในครั้งนี้

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook