เมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษณะกร เศวตนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด กล่าวว่า ยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี รวมถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 และยอดขายสะสมในไตรมาสที่ 2 ที่มีแนวโน้มเป็นไปตามเป้าที่วางไว้นั้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จเกิดจากยอดจำหน่ายมากกว่า 70% จากรถรุ่นยอดฮิตอย่าง Audi TT Coupé, A5 Coupé, A5 Sportback, Q3 และ Q3 Sportback ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมากับ Audi ยุคใหม่ภายใต้ ไมซ์สเตอร์ เทคนิค ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Audi ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในประเทศไทย
นายกฤษณะกร เศวตนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด กล่าวตอนรับ
ความพิเศษไม่เหมือนใครด้านผลิตภัณฑ์ของ Audi คือ รถยนต์คุณภาพนำเข้าทั้งคันในราคาที่จับต้องได้ ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่ลงตัวการใช้ชีวิตในเมือง ทำให้ Audi ตอบโจทย์ลูกค้าในเซกเมนต์พรีเมียมได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นไอคอนยอดฮิตตลอดกาล ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่เหมือนใครอย่าง Audi TT Coupé ที่เรารุกทำตลาดอย่างต่อเนื่อง สปอร์ตคาร์อย่าง A5 Coupé และ A5 Sportback ในราคาเร้าใจ และเซกเมนต์ Compact SUV ที่ผู้บริโภคในประเทศไทยชื่นชอบความอเนกประสงค์พร้อมลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ที่มี Q3 และ Q3 Sportback วันนี้ Product portfolio ของ Audi มีความแข็งแกร่ง หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าครอบคลุมในทุกความต้องการ แม้จะอยู่ในสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนทั่วโลก เราทำงานร่วมกับ AUDI AG อย่างใกล้ชิด และได้รับการสนับสนุนด้านการวางแผนการผลิต การจัดสรรโควต้า ทำให้ อาวดี้ ประเทศไทย มีรถพร้อมส่งมอบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในรุ่นยอดฮิตอย่าง A5, Q3 และ TT ที่มีเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย
นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ ให้เกียรติร่วมเดินทางในกิจกรรมครั้งนี้
อีกหนึ่งจุดแข็ง นโยบายชูบริการนำขาย สร้างฐานแบรนด์ให้แข็งแกร่งทั้งกับลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ทำให้ Audi ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คุณภาพของทุกศูนย์บริการมาตรฐานเดียวกับ AUDI AG ราคาอะไหล่จับต้องได้ พร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ให้กับลูกค้าอาวดี้ทุกคัน งานบริการหลังการขายพิสูจน์ชัดว่าวันนี้ อาวดี้ ประเทศไทย เดินมาถูกทาง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครบวงจรตามมาตรฐานของ AUDI AG เข้ามาใช้ในส่วนงานบริการหลังการขาย การลงทุนด้านบุคลากร ทั้งงานบริการลูกค้าสัมพันธ์ วิศวกร และทีมช่างเทคนิค เหนือกว่าความพึงพอใจและความภูมิใจในการบริการหลังการขาย คือ การที่ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ประทับใจจากการบริการหลังการขาย ด้านการขยายเครือข่ายโชว์รูม วันนี้เรารุกขยายเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค
เพื่อเป็นการร่วมฉลองความสำเร็จ พิสูจน์ถึงความโดดเด่นที่มาพร้อมสมรรถนะเทคโนโลยีการขับ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่เหนือชั้นให้ความรื่นรมย์ในการขับอาวดี้รุ่นยอดฮิต อาวดี้ ประเทศไทย จึงจัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ร่วมฉลองความสำเร็จ โดยจัดขึ้นภายใต้มาตรการความปลอดภัยโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น มีการตรวจ ATK โดยบุคลากรทางการแพทย์ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ก่อนออกเดินทางสื่อมวลชนร่วมฟังบรรยายสรุป จุดเด่นของรถแต่ละรุ่น เส้นทางในการขับขี่และกฎระเบียบความปลอดภัยต่างๆ
โดยงานนี้ อาวดี้ ประเทศไทย จัดกิจกรรม Audi Blissful Trip ขนขบวนรถ Audi TT Coupé, Audi A5 Coupé, A5 Sportback, Audi Q3 และ Audi Q3 Sportback มาให้ได้ทดลองขับกว่า 10 คัน แบ่งเป็น 2 เส้นทาง คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-จ.ชลบุรี และ กรุงเทพฯ-จ.สุพรรณบุรี เป็นการขับระยะทางไกลเพื่อทดสอบสมรรถนะในการทำความเร็ว (ตามกฎหมายกำหนด) ทดสอบการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro และการขับขี่ที่ต้องเจอการจราจรทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมถึงจุดแวะท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสัมผัสกับความคล่องตัวของตัวรถ ฟังก์ชั่นการทำงาน ความสะดวกสบาย และระบบความบันเทิงตลอดการเดินทาง
เส้นทางกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี หลังจากออกสตาร์ทจาก Audi Centre มุ่งหน้าสู่ จ.สุพรรณบุรี ใช้เส้นทางพิเศษดินแดง-แจ้งวัฒนะ ทางออกงามวงศ์วาน ถนนรัตนาธิเบศน์ มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก-บางบัวทอง-สุพรรณบุรี เลี้ยวซ้ายแยกบางปลาม้า ถึงจุดหมายแรก คือ ร้านกุ่ยหมง เพื่อเติมพลังกับเมนูอาหารกลางวันแสนอร่อยจากร้านเก่าแก่และเลื่องชื่อของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเมนูไฮไลท์ห้ามพลาดคือ กุ้งแม่น้ำทอดเกลือไซส์ใหญ่ที่การันตีความสด อร่อยนานถึง 100 ปี และมีอีกมากมายหลากหลายเมนูให้ได้ลิ้มรสกันอย่างเต็มอิ่ม
สำหรับจุดหมายที่สองของกิจกรรม Audi Blissful Trip พาไปสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่อลังการของพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อว่า พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือเรียกกันอีกชื่อว่า หลวงพ่ออู่ทอง ตั้งอยู่ใกล้วัดเขาทำเทียม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีความสูง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร หน้าตักกว้าง 65 เมตร ด้านหลังองค์พระพุทธรูปแกะสลักหินมีการเจาะช่องเป็นอุโมงค์ลึกประมาณ 20 เมตร พร้อมประดิษฐานพระแม่ธรณีบีบมวยผม และพระพุทธรูปปางต่างๆ มากมายให้ได้กราบสักการะ และขอพรในเรื่องต่างๆ จากนั้นขับรถออกจากบริเวณนี้ถัดไปไม่ไกล จะเจอจุดชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งสื่อมวลชนสามารถเก็บภาพรถสวยๆ คู่กับเขื่อนและบรรยากาศดีๆ
ปิดท้ายทริป โดยพาสื่อมวลชนมาคลายร้อนที่ร้านกาแฟชื่อดัง A Life Café & Gallery ดื่มด่ำกับบรรยากาศร้านกาแฟที่สุดแสนจะร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด กาแฟระดับพรีเมียม ขนมเค้กหลากหลายรสชาติ ให้ได้เลือกลิ้มชิมรส และสนุกสนานไปกับการเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ภายในร้านได้อย่างเต็มอิ่ม พร้อมลุ้นผลการประกาศรางวัลภาพถ่ายประทับใจในทริปนี้ ก่อนออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
ทั้งนี้สื่อมวลชนยังได้มีโอกาสร่วมพูดคุยและสัมภาษณ์ผู้บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย ถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ รถรุ่นใหม่ที่จ่อคิวพร้อมนำมาเปิดตัวในไทย รวมถึงแผนการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศที่ยังคงเดินหน้าทำตามเป้าหมาย เพื่อให้บริการลูกค้าอาวดี้ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างครอบคลุมมากที่สุด
สำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนักรวมระยะทางในทริปนี้ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร ซึ่งมีจุด Check in ขึ้นชื่อมากมาย ทำให้การเดินทางกับรถอาวดี้ทั้ง 3 รุ่น ยอดฮิตในวันนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ซึ่งระหว่างทางเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถเปลี่ยนรุ่นขับครบทั้ง 3 รุ่น เพื่อยืนยันถึงความโดดเด่นพิเศษที่ทำให้ประสบสำเร็จยอดขายถล่มทลาย ถึงแม้ช่วงนี้จะมีกระแสรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยอดจำหน่ายทั้ง 3 รุ่น ก็ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง